ผบช.ภ.1 เผยตรวจกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ 9 จังหวัดกว่า 1,000 กล้อง เพื่อหาหลักฐานล่าตัวโจรโหดปล้นร้านทอง ส่วนคนต้องสงสัยเรียกมาเค้นแล้วหลายคน ส่วนใหญ่ยังไม่อยู่ในข่าย ส่วนคนต้องสงสัยยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวตลอด แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าเป็นใครการปฏิบัติการไล่ล่าโจรโหดปล้นร้านทองออโรร่า ในห้างโรบินสัน หมู่ 4 ต.กกโก อ.เมืองลพบุรี ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาชุดสืบสวนนำตัวบุคคลที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนแต่ยังไม่สามารถจับกุมใครได้ กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ระบุว่า คนร้ายอาจเผ่นออกนอกประเทศที่ชายแดนแล้วนั้นต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ม.ค. ที่ บช.ภ.1 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยถึงคดีคนร้ายบุกชิงทองที่ร้านออโรร่าที่ จ.ลพบุรีว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รวมถึงทีมงานที่ร่วมกันทำงานได้จัดระบบการทำงานที่ชัดเจนมีตัวแทนชุดทำงานแต่ละชุดช่วยกันรวบรวมเอกสาร 25-26 รายการเอาไว้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับปืนต้องสงสัย ปลอกเก็บเสียง เสื้อผ้า ผ้าคลุมหน้า ลักษณะทรงผมและทุกๆเรื่องของคนร้าย ส่วนบุคคลต้องสงสัยหลายรายที่เรียกมาสอบปากคำไปแล้ว หลายคนไม่อยู่ในข่าย ส่วนคนที่อยู่ในข่ายยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าเป็นใครเกรงจะมีการไหวตัวหรืออาจจะหนีไปทางชายแดนอย่างที่ ผบ.ตร.เคยกล่าว“เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ แต่เชื่อว่าคนที่ใกล้ชิดกับคนร้ายต้องรู้ว่าคนใกล้ตัวของตนไปก่อเหตุมา สำหรับคนที่รู้ว่าคนใกล้ตัวเป็นคนร้ายแต่ยังช่วยปกปิด ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรับส่งหรือเอาทองที่ก่อเหตุไปขายซึ่งมีโทษร้ายแรง จึงฝากถึงประชาชนที่รู้เบาะแส ขอให้แจ้งข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ ส่วนพยานหลักฐานด้านพิสูจน์หลักฐานและนิติวิทยาศาสตร์ทั้งในที่เกิดเหตุและที่ทางเจ้าหน้าที่รวบรวมได้ทั้งหมด มากพอที่จะพาไปสู่การจับกุมคนร้ายได้” ผบช.ภ.1 กล่าวพล.ต.ท.อำพลกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี ขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปทั้ง 9 จังหวัดในเขตตำรวจภูธรภาค 1 จำนวนกว่า 1,000 กล้อง ส่วนการขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้หรือไม่นั้นต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับ บช.ภ.1 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ รอง ผบช.ภ.1 คอยติดตามเรื่องการสืบสวน และ พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ภ.1 ดูแลเรื่องสำนวนการสอบสวน ทั้งสองต่างเร่งตรวจสอบอยู่ตลอด ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมาที่ บก.ภ.จ.ลพบุรีพร้อมเรียกประชุมสืบสวนของ บช.ภ.1 ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.จ.ลพบุรี โดยกำชับให้เร่งตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
