นายไตรรัตน์ อุดมศรีโยธิน รองกรรมการผู้จัดการ งานพัฒนาวัตถุดิบต้นน้ำ บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวตราฉัตร เผยว่า หลังกรมการข้าวประสบผลสำเร็จในการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าว กข 43 ดัชนีน้ำตาลต่ำเป็นผลสำเร็จ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภครักสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และในฤดูปลูกข้าวนาปรังปี 2561 ซี.พี.ข้าวตราฉัตร ได้ร่วมกับกรมการข้าวส่งเสริมเกษตรกรพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ปลูกข้าว กข 43 ด้วยการนำเมล็ดพันธุ์แท้ให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 213 ราย ในพื้นที่ปลูก 4,800 ไร่ ให้ใช้เมล็ดพันธุ์ใหม่แบบรุ่นต่อรุ่น ไม่ให้ชาวนาเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกต่อ เพราะ กข 43 เป็นพันธุ์ข้าวใหม่ กรมการข้าวยังต้องดูแลควบคุมให้เป็นพันธุ์แท้ได้คุณภาพข้าวสารตรงตามผลการวิจัย เพื่อไม่เกิดปัญหา ตามมาเหมือนข้าวสุขภาพบางพันธุ์ที่แห่ปลูกตามกันจนทำให้มีปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคารับซื้อตกต่ำ นายไตรรัตน์ กล่าวอีกว่า แม้การผลิตเมล็ดพันธุ์จะทำให้เกษตรกรขายได้ราคาดีกว่าปลูกข้าวป้อนตลาดผู้บริโภค แต่แปลงเมล็ดพันธุ์จะต้องดูแลมากและต้องผ่านการตรวจสอบรับรองอย่างเข้มงวดจากกรมการข้าว ดังนั้นวันนี้บริษัทจึงส่งเสริมเกษตรกรเพียงแค่ปลูกเพื่อส่งเข้าโรงสีข้าวเปลือกให้เป็นข้าวสารเท่านั้น “ส่วนการดูแลรักษาพันธุ์ข้าว กข 43 เหมือนกับข้าวพันธุ์อื่นๆทั่วไป แต่เพราะยังเป็นข้าวพันธุ์ใหม่จึงไม่มีปัญหาโรคระบาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการส่งเสริมเพาะปลูก ซี.พี.ตราฉัตรและกรมการข้าวจะมีนักวิชาการเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ตรวจสอบข้าวในแปลง กระทั่งสีออกมาเป็นข้าวสาร กรมการข้าวถึงจะออกใบรับรองว่าเป็น กข 43 พันธุ์แท้ ตรงตามสายพันธุ์ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า ข้าวที่บริษัทให้ชื่อทางการค้าว่า ฉัตรไลท์ เป็นข้าว กข 43 พันธุ์แท้แน่นอนทุกถุง ซึ่งข้าวตราฉัตรไลท์ ลอตแรก จากพื้นที่นาสุพรรณบุรีจะออกวางจำหน่ายต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จำนวนทั้งสิ้น 1,200 ตัน โดย ซี.พี.ตราฉัตรได้ร่วมกับบริษัทพันธมิตร สโมสรกีฬา ภาครัฐ ในการเปิดตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ” นายไตรรัตน์ กล่าว.