รองอธิบดีกรมป่าไม้ร่วมชุด “พยัคฆ์ไพร” เปิดปฏิบัติการ “ฟ้าสางที่แพรกษา” จู่โจมทลายโกดังซุกไม้เถื่อนของขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติใหญ่ระดับชาติ รวบนายทุนชาวจีน พร้อมคนงานพม่ารวม 4 คน ของกลางไม้หวงห้ามทั้งพะยูง ชิงชัน ประดู่ 412 ท่อน/เหลี่ยม มูลค่ากว่า 36 ล้านบาท ตรวจสอบสัญญาพบทหารยศพลอากาศตรีเป็นคนเช่าโกดัง เผยเจ้าหน้าที่ต้องใช้ทั้งการข่าว และเทคโนโลยีขั้นสูง ฝังไมโครชิปบนต้นไม้เป้าหมาย แกะรอยตามนับปี จนสามารถบุกเข้าจับกุมได้สำเร็จ

เจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกทลายโกดังไม้เถื่อนเตรียมส่งออกต่างประเทศรายนี้ เปิดเผยขึ้นเช้ามืดวันที่ 18 ส.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้า ศปก.พป. ร่วมกับชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เปิดปฏิบัติการฟ้าสางที่แพรกษา จ.สมุทรปราการ นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นโกดังเลขที่ 545 ซอยรุ่งโรจน์ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ สืบทราบเป็นแหล่งซุกซ่อนไม้เถื่อนเตรียมส่งออกต่างประเทศ

เมื่อไปถึงพบว่าเป็นโกดังแบ่งให้เช่า ปลูกในเนื้อที่ราว 1 ไร่ พบนายหม่า เฉิน หง อายุ 38 ปี นายทุนชาวจีน ควบคุมคนงานพม่า 3 คน ใช้รถโฟล์กลิฟต์ลำเลียงไม้ชิงชันใส่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ คุมตัวไว้ได้ทั้ง 4 คน พร้อมของกลางไม้พะยูง ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ ทั้งแบบท่อนขนาดใหญ่ และที่แปรรูปเป็นท่อนสี่เหลี่ยมรวมจำนวน 412 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตรไม่ต่ำกว่า 60 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าไม่ต่ำกว่า 36 ล้านบาท ไม้แต่ละท่อนไม่มีรูปรอยดวงตราของทางราชการ และผู้ต้องหาไม่สามารถนำเอกสารการได้มาของไม้มาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงสรุปว่าเป็นไม้ที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484

...

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมกับ พ.ต.ท.ประวิทย์ บุญธรรม ผกก.สภ.บางปู ตรวจสอบพบว่าโกดังดังกล่าวเป็นของนายไพทูรย์ สุริยะยานนท์ บริษัท พีที.นครินทร์ จำกัด เลขที่ 17-17/1 หมู่ 3 ถนนเทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ ประสานมาให้ปากคำ แต่นายไพทูรย์อ้างว่าไม่สะดวกที่จะมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพราะไม่มีการประสานงานล่วงหน้า แต่ได้ส่งสัญญาเช่าโกดังมาให้ทางไลน์ ระบุชื่อผู้เช่าคือเป็นทหารยศพลอากาศตรี เช่าตั้งแต่ วันที่ 1 มี.ค.2561 ถึงวันที่ 28 ก.พ.2562 สอบสวนนายหม่า เฉิน หง ให้การว่า ได้รับคำสั่งจากเพื่อนชื่อนายหง ให้มาดูไม้ในโกดังเพื่อนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ ไม่รู้ว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย

นายอรรถพลกล่าวว่า ขบวนการค้าไม้เถื่อนนี้เป็นขบวนการใหญ่ระดับต้นๆของประเทศ คณะเจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยมานานนับปี ใช้ทั้งการข่าว และเทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการใช้ไมโครชิปฝังที่ต้นไม้เป้าหมาย แกะรอยติดตามจากเขตป่าสงวนแห่งชาติในเขตรอยต่อ จ.แพร่ และน่าน จนรู้เป้าหมายสามารถวางแผนจู่โจมจับกุมได้ เจ้าหน้าที่จะร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 4 รายและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถึงที่สุดทุกความผิด