เห็นข่าว พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. แถลงผลจับกุม นายวีรวัฒน์ จันทร์กลาง อายุ 36 ปี เครือข่ายโจรกรรมรถยนต์ที่ถูกตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพัก 9 จุด ที่ใช้ซุกซ่อนรถที่ลักมา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.ปทุมธานี
ข้อมูลของชุดสืบสวนของ บช.น. ในช่วง 1 ปี ได้รับแจ้งรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ หายไปกว่า 80 คัน หัวหน้าแก๊งหนีพร้อมสมุน นายวีรวัฒน์ ร่วมกับ นายสุชาติ รอดหงส์ทอง และ นายรุ่งโรจน์ นาคเกษม ที่หลบหนีไปได้ นายสุชาติ หัวหน้าแก๊ง ติดต่อรับงานจากกลุ่มนายหน้า นายวีระวัฒน์ทำหน้าที่เป็นคนขับรถตระเวนหารถที่เป็นเป้าหมายในการลักทรัพย์ นายรุ่งโรจน์ทำหน้าที่ตัดสัญญาณกันขโมย เปิดล็อกประตู และสตาร์ตเครื่องรถเป้าหมายที่ลัก
ก่อนลงมือผู้จ้างจ่ายเงินมัดจำ
เมื่อได้รับเงินมัดจำ 5 พันบาท คนร้ายตระเวนลักรถตาม “ใบสั่ง” รถยนต์ที่จอดไว้ในที่ลับตา หรือตามหมู่บ้านที่ไม่มี รปภ. เมื่อลักรถจะนำไปซุกซ่อนไว้ที่อู่รถย่าน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และเปลี่ยนแปลงสภาพภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของตำรวจ
จะส่งต่อรถไปที่อู่รถยนต์ในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งรับสวมซากรถที่เกิดอุบัติเหตุ ทำการ “สวมซาก” แล้วไปขายในตลาดรถมือสอง เต็นท์รถ หรือโพสต์ขายตามเพจเฟซบุ๊กบอกว่าเป็นรถหลุดจำนำราคาถูก
การขายแบบรถหลุดจำนำจะทำให้ได้ราคามากกว่าการขายแบบรถลักมา หากผู้ที่ซื้อมาแล้วจะไม่สามารถโอนเล่มทะเบียนได้ หรือส่งขายให้กับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า
หากขายรถให้ลูกค้าแล้วผู้ต้องหาจะได้รับค่าตอบแทน สำหรับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ คันละ 150,000-200,000 บาท และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ เป็นที่นิยมตามตลาดมืดขายได้ตกคันละ 2-3 แสนบาท
...
แต่ละคนประวัติก่อคดีมาอื้อ
นายวีรวัฒน์เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์รถยนต์ ชิงทรัพย์ และยาเสพติด นายสุชาติมีประวัติถูกดำเนินคดียาเสพติดและนายรุ่งโรจน์ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อต้นปี 60
พบเงินหมุนเวียน 60-70 ล้านบาท ตำรวจตรวจยึดของกลางเป็นสมุดใบสั่งกองบังคับการตำรวจจราจร มีชื่อนายตำรวจยศ ร.ต.ท. สังกัด บก.จร. ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการ เป็นผู้สั่งออเดอร์ และโอนเงินให้ผู้ต้องหา
เป็นคนที่รับซื้อรถที่ลักมา ตำรวจสอบสวน ร.ต.ท. รับว่าสั่งออเดอร์ โอนเงินล่วงหน้าแล้ว 5 คัน
ไม่สงสัยมีข่าวรถ “สวมซาก” สวมทะเบียนแฝด หรือรถเถื่อนนำเข้าหลบเลี่ยงภาษีระบาดหนัก
เพราะมีตำรวจมาเอี่ยวแก๊งค้ารถเถื่อน.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th