เร่งล่าชายหญิง-เด็กวัยขวบ
แก๊งขนกัญชาดวงซวยซิ่งรถเสยท้ายรถกระบะแล้วหนี หนุ่มใหญ่เจ้าของรถไม่ยอมเหยียบคันเร่งปาดหน้าบังคับจอดพบเป็นชายหญิงอุ้มเด็กวัย 1 ขวบมาด้วย พอเห็นจวนตัวขอร้องไม่ให้แจ้งตำรวจหรือประกันยอมจ่ายค่าเสียหายเต็มที่ แต่คู่กรณีไม่ยอมพร้อมยึดกุญแจรถไว้กันหลบหนี จังหวะโทรศัพท์แจ้งตำรวจปรากฏว่าแก๊งขนกัญชาฉวยโอกาสทิ้งรถหนีไป พอค้นรถตะลึงพบกัญชา 300 แท่ง
รถขนกัญชาประสบเหตุชนท้ายรถกระบะแต่กลัวถูกจับเลยทิ้งรถหนีหายไปรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 4 พ.ค. ขณะที่ ด.ต.สุริยา บุญมาก กับ ด.ต.เอกชัย เหลืองมณีเวช สังกัด ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.ขับรถสายตรวจตำรวจทางหลวง หมายเลข 8231 วิ่งผ่านถนนวงแหวนฝั่งตะวันตกหรือทางหลวงหมายเลข 9 ช่วง กม.56 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี พบรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน ยห 4856 กรุงเทพมหานครถูกชนท้ายเสียหายจอดริมถนนโดยมีรถคู่กรณีเป็นรถปิกอัพยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน 1 ฒฬ 9754 กรุงเทพมหานคร จอดต่อท้าย และพบนายบุญชาย เสียงล้ำเลิศ อายุ 56 ปี ชาว จ.นนทบุรี เจ้าของรถกระบะอีซูซุ ยืนรอในที่เกิดเหตุ
สอบถามนายบุญชายให้การว่า ขับรถขนนมจาก จ.นครราชสีมา จะกลับบ้าน ก่อนหน้านั้นห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ถูกรถปิกอัพยี่ห้อเชฟโรเลตคู่กรณีขับชนท้ายครั้งหนึ่งจนไฟท้ายแตก แต่แทนที่จะจอดรถลงมาเจรจากันแต่กลับขับรถหนี ตนเลยขับรถไล่ตาม กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ตัดสินใจขับปาดหน้าบังคับให้หยุด พอรถหยุดได้เปิด ประตูเรียกคนขับลงมาเจรจา พบในรถมีผู้ชายเป็นคนขับและมีผู้หญิงอีก 1 คนอุ้มเด็กวัยประมาณ 1 ขวบมาด้วย ตนได้ต่อว่าทำไมขับรถชนแล้วหนีพอเห็นจวนตัวทั้งคนขับและผู้หญิง พยายามยกมือไหว้ขอโทษและเร่งจะเคลียร์เงินค่าเสียหาย พร้อมขอร้องไม่ต้องโทร.แจ้งตำรวจหรือประกันแต่ตนไม่ยอมพร้อมโดดไปคว้ากุญแจรถคู่กรณีไว้เพื่อป้องกันการขับรถหนีอีก ระหว่างนั้นตนได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 เพราะไม่แน่ใจว่าจุดเกิดเหตุเป็นท้องที่ไหน หลังโทรศัพท์เสร็จปรากฏว่าทั้งสองคนพร้อมเด็กได้ทิ้งรถหลบหนีไปหายแล้วโดยไม่ทราบว่ามีใครมารับไป
...
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้นำกุญแจรถจากนายบุญชายมาเปิดรถปิกอัพยี่ห้อเชฟโรเลตเพื่อตรวจค้น ผลปรากฏว่าในแค็บหลังและกระบะหลังที่มีฝาปิดครอบบรรทุกกัญชาแท่งเต็มคันรถ รวม 300 แท่ง หรือ 300 กก. หลังทราบดังนั้นได้วิทยุรายงาน พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี ผกก.8 บก.ทล.เดินทางมาที่เกิดเหตุ และประสานไปยัง สภ.เมืองปทุมธานี เจ้าของท้องที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ท.วิศิษฏ์ มะอักษร รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ต.สัญชัย เมธีวิวัฒน์ สว. (สอบสวน) และชุดสืบสวนมาตรวจเกิดเหตุพร้อมสั่งให้ตรวจสอบทะเบียนรถผลปรากฏว่าเป็นทะเบียนปลอม
ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายลักลอบขนกัญชามาจากทางภาคอีสานโดยอุ้มเด็กวัยแบเบาะมาด้วยเพื่ออำพรางหวังไม่ให้ตำรวจตรวจค้นรถเพราะมีเด็ก กระทั่งขับรถมาชนคู่กรณีแล้วหลบหนีแต่ถูกไล่ปาดหน้าบังคับให้จอดจนไปไหนไม่ได้ ระหว่างคู่กรณีเผลอและเกรงว่าตำรวจจะมาที่เกิดเหตุเลยทิ้งรถหลบหนีทั้งแก๊งซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป