ศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่มสาวนางนกต่อชาวราชบุรีทีมฆ่าโหดหนุ่มไต้หวันจับมัดมือมัดเท้า แถมเป็นแฟนสาวตัวการใหญ่ชายชาวต่างชาติผิวขาวที่หลบหนี ผบก.สส.บช.น.เผยตรวจสอบพบเป็นชาววานูอาตู เผ่นออกนอกประเทศหลังก่อเหตุ ส่วนชายชาวพม่าและชาวแคเมอรูน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ นำตัวฝากขังศาลไม่ให้ประกันส่งเข้าเรือนจำ สาวไทยเมียชาวแคเมอรูนมาเยี่ยมสามีที่ สน.อ้างสาเหตุเกิดจากชาววานูอาตูถูกผู้ตายโกงเงิน สามีเป็นแค่คนกลางนัดไกล่เกลี่ย ไม่ได้ร่วมลงมือฆ่าเพราะไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกัน

จากกรณีพบศพนายชูเชียง เฉิน อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมสภาพปิดปากด้วยเทปใสหลายรอบ มัดเท้ามัดมือไพล่หลังและพันธนาการด้วยเข็มขัด คิ้วขวาถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ เหตุเกิดที่ห้องพักเลขที่ 618 ชั้น 6 โรงแรมนิรันดร์แกรนด์ ซอยอุดมสุข 17 แขวงและเขตบางนา กทม. พบศพช่วงสายวันที่ 16 พ.ย. วันรุ่งขึ้นชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และตำรวจ ตม.ตามรวบผู้ก่อเหตุได้ 2 คน เป็นชายชาวพม่าและชาวแคเมอรูน สาเหตุเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ เหลือผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 คน เป็นสาวนกต่อกับชายชาวต่างชาติอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมและรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ

ความคืบหน้าที่ สน.บางนา เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 พ.ย. พ.ต.ต.วัชระ แสงเพชร สว. (สอบสวน) สน.บางนา นำตัว 2 ผู้ต้องหา นายแซวอ ลิง แปร่ หรือเจนซี่ อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา และนายจอห์น แอบอน อายุ 40 ปี ชาวแคเมอรูน ส่งศาลอาญาพระโขนง เพื่อผัดฟ้องฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 พ.ย. ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ หากให้ประกันตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี จากการสอบสวนนายแซวอ ลิง แปร่ ให้การรับสารภาพ ส่วนนายจอห์น แอบอน ให้การภาคเสธ ศาลมีคำสั่งอนุญาตรับฝากขังและออกหมายขังต่อไป จากนั้นนำตัวฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

...

มีรายงานว่า หญิงชาวไทยเป็นภรรยาของนายจอห์น แอบอน ชาวแคเมอรูน เดินทางมาเยี่ยมสามีที่ สน.บางนา เปิดเผยว่า สามีรู้จักผู้เสียชีวิตมานานแล้ว ถ้าเดินทางมาประเทศไทยมักจะนัดกินข้าวกัน ส่วนผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนีไม่ใช่ชาวอเมริกันแต่เป็นชาววานูอาตู ผู้เสียชีวิตเป็นคนแนะนำสามีให้รู้จัก ฟังสามีให้การตำรวจอ้างว่า ผู้เสียชีวิตโกงเงินผู้ต้องหาชาววานูอาตู และขอให้สามีเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย วันเกิดเหตุผู้ต้องหาชาววานูอาตู โทร.เรียกสามีไปหาที่โรงแรม นัดแนะให้ช่วยเปิดประตูห้องพักของผู้ตายทิ้งไว้ให้ จากนั้นสามีเดินทางกลับบ้านแล้วโทร.ไปถามว่าไกล่เกลี่ยสำเร็จหรือไม่ สามีย้อนไปที่โรงแรมอีกครั้ง เห็นผู้ต้องหาชาววานูอาตูและชาวพม่าร่วมกันทำร้ายผู้ตาย ใช้สเปรย์พริกไทยฉีดหน้า และยังไม่ได้ถูกพันธนาการ สามีบอกว่าเอามือบังหน้าผู้ตายเพื่อช่วยเหลือ ไม่ได้มีเจตนาฆ่าอย่างแน่นอน เพราะไม่มีความขัดแย้งกัน

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธี ผบก.สส.บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วยนายแซวอ ลิง แปร่ หรือเจนซี่ ชาวเมียนมา และนายจอห์น แอบอน ครูสอนภาษาชาวแคเมอรูน และชายชาวตะวันตกผิวขาวไม่ทราบชื่ออีก 1 คน อ้างเป็นคนอเมริกัน จากการตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้าประเทศพบว่าถือ 2 สัญชาติ เป็นชาววานูอาตูและอิหร่านไม่ใช่ชาวอเมริกัน ตามคำให้การของนายแซวอ ลิง แปร่ ล่าสุดพบข้อมูลว่าเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วหลังก่อเหตุตอนบ่ายวันเดียวกัน ศาลอาญาพระโขนง อนุมัติหมายจับ น.ส.นภัสรดา เอกภัทรหิรัญ อายุ 34 ปี ชาว จ.ราชบุรี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตามจับตัวมาดำเนินคดี

มีรายงานว่า จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.นภัสรดาเป็นนกต่อ และเป็นแฟนสาวของนายโมฮาเกกี ฮามเรซ์ส ผู้ต้องหาชาววานูอาตูที่หลบหนีออกนอกประเทศไปได้ ผู้ตายชักชวนนายโมฮาเกกีร่วมลงทุนทำธุรกิจรีโนเวทโรงแรมแห่งหนึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ทั้งสองเป็นหุ้นส่วนกัน นายจอห์น แอบอน ชาวแคเมอรูน มีอาชีพโบรกเกอร์ มีความสนิทสนมกับผู้ตายเช่นกัน น.ส.นภัสรดาโพสต์เฟซบุ๊ก เปิดรับสมัครนักสืบตามสะกดรอย นายแซวอ ลิง แปร่ ผู้ต้องหาชาวเมียนมา ติดต่อสมัครงาน น.ส.นภัสรดาให้ติดตามเฝ้าผู้ตาย ให้ค่าจ้างวันละ 2,000 บาท วางแผนให้นายแซวอเปิดห้องพักที่ชั้น 5 ของโรงแรมเกิดเหตุ ดูความเคลื่อนไหวผู้ตายที่พักอยู่ที่ชั้น 6 น.ส.นภัสรดาหลอกนายแซวอว่า ทั้งนายจอห์น แอบอน และนายโมฮาเกกี เป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ก่อนเกิดเหตุนายแซวอเดินไปเคาะห้องผู้ตาย และเข้าไปพูดคุยนานกว่า 2 ชม. จากนั้น โทร.ตามนายจอห์น แอบอน และนายโมฮาเกกีมาที่ห้องเพื่อปล้นทรัพย์ แต่ปรากฏว่าไม่มีทรัพย์สิน นายแซวออ้างว่าแท็บเล็ต มือถือ และเงินสดไม่ทราบจำนวนที่หายไปนายโม ฮาเกกีเอาไปทั้งหมด

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่