สืบนครบาลรวบ “ธนาธร โวก” ไฮโซเก๊จอมต้มตุ๋นหญิงสาวในโลกออนไลน์ เรียนจบแค่ ป.6 แต่ สร้างโปรไฟล์สุดหรู ใช้นาฬิการาคาแพง เสื้อผ้าแบรนด์เนม ถ่ายรูปกับรถสปอร์ตตามสถานที่ต่างๆ แถมยังไปขอเป็นเพื่อนกับกลุ่มไฮโซตัวจริงเพื่อสร้างภาพ หญิงสาวได้รู้จัก พูดคุย ถึงกับเพ้อเป็นชายในฝัน หลังจากนั้นเริ่มออกลายปอกลอก ขอยืมเงิน เหยื่อบางรายโดนไปหลักล้านเอาไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด แล้วเผ่นไปหาเหยื่อรายใหม่ เคยต้องคดีมาแล้ว 8 ท้องที่ แถมมีเหยื่ออายไม่กล้าแจ้งความอีกเพียบ ระหว่างถูกจับอยู่ระหว่างหลอกเอารถเหยื่อสาวรายใหม่ไปจำนำ

สืบนครบาลรวบไฮโซเก๊รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ต.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ฐานะหัวหน้าชุด PCT5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังจับกุมนายกฤติเดช พงษ์ประภาส (ชื่อเดิมนายธนาธร จิตตา) หรือธร หรือมีน หรือมิน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 352 ซอยริมทางรถไฟบางซื่อ แขวงและเขตบางซื่อ กทม.ตามหมายจับ 2 หมาย หมายจับแรกของศาลอาญาที่ จ.11/2566 ลงวันที่ 7 ม.ค.66 ข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สน.มีนบุรี หมายจับที่ 2 ศาลจังหวัดเชียงรายที่ จ.78/2566 ลงวันที่ 24 ม.ค.66 ข้อหาปลอมเอกสารราชการ หรือใช้เอกสารราชการปลอม และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย

สืบเนื่องจากมีมิจฉาชีพรู้จักกันในนามธนาธร หรือเสี่ยมีน โวก (vogue) เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสร้างโปรไฟล์ในโลกโซเชียลเป็นหนุ่มไฮโซ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ถ่ายรูปกับรถสปอร์ตหรูซึ่งไม่ใช่ของตัวเอง โชว์สลิปการโอนเงินเยอะๆ หรืออวดนาฬิกาหรูราคาแพง สร้างภาพประกาศความรวยในโลกโซเชียล อีกทั้งแฝงตัวเข้าไปขอเป็นเพื่อนในโลกออนไลน์กับบรรดาไฮโซคนดังตัวจริง ตระเวนขายขนมจีบเหล่าหญิงสาวในโลกโซเชียล สร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเหยื่อ บางรายเคลิ้มมโนไปว่าเจอชายในฝัน แต่หลังจากคบหาเริ่มออกลาย ขอยืมเงินบ้าง หลอกลวงเอาทรัพย์สินบ้าง ถ้าไม่ได้จะวางแผนลักทรัพย์หลังจากนั้นหลบหนีไป ก่อเหตุลักษณะนี้มาเป็นเวลาหลายปี มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 คน ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท บางรายเข้าแจ้งความ แต่บางรายอับอายจนไม่กล้าแจ้งความ

...

ตรวจสอบพบประวัติก่อเหตุมาแล้วกว่า 8 คดี และอีกไม่ต่ำกว่า 5 คดี ผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความ ประกอบด้วย 1.วันที่ 11 ก.ค.58 ก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ท้องที่ สน.ดุสิต 2.วันที่ 31 มี.ค.59 ก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ท้องที่ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม 3.วันที่ 23 ก.ค.59 ก่อเหตุฉ้อโกง ท้องที่ สน.มีนบุรี 4.วันที่ 26 เม.ย.60 ก่อเหตุฉ้อโกง ท้องที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ 5.วันที่ 19 มี.ค.64 ก่อเหตุปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯ ท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย 6.วันที่ 11 พ.ย.64 ก่อเหตุฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมฯ ท้องที่ สน.สายไหม 7.วันที่ 31 ธ.ค.64 ก่อเหตุลักทรัพย์ ท้องที่ สน.มีนบุรี และ 8.วันที่ 6 เม.ย.65 ก่อเหตุฉ้อโกง ท้องที่ สน.ลุมพินี

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ เร่งรัดสืบสวนจับกุมเนื่องจากเป็นภัยสังคม ต่อมาชุดสืบสวนได้เบาะแสสำคัญจากเหยื่อรายหนึ่ง เห็นคนร้ายวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ในสวนรถไฟ ส่งกำลังติดตามพบคนร้ายกำลังหลอกหญิงสาวอีกราย เพื่อเอารถของเหยื่อไปจำนำย่านเพชรเกษม จับกุมได้ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 17 แยก 10 แขวงและเขตจตุจักร เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ต.ค.

นายกฤติเดช หรือนายธนาธร รับสารภาพว่า ตนเรียนจบชั้น ม.6 พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ขาดคนสั่งสอน ด้วยเป็นคนหน้าตาดี ชอบถ่ายรูปกับรถหรูจนกลายเป็นหนุ่มโปรไฟล์ดีในโลกออนไลน์ มีผู้หญิงเข้ามาหาเยอะ มีแฟนหลายคน คบพร้อมกันที 4-5 คน หลังคบหาจะหลอกยืมเงิน เคยยืมสูงสุดหลักล้านบาทนำไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด ทำให้ชีวิตเกิดปัญหา เครียดไม่มีเงิน ส่วนเรื่องที่ถูกจับตอนปี 63 ตนทะเลาะกับผู้หญิงคนนึงเรื่องยืมเงินจนทำให้โทรทัศน์ในห้องผู้หญิงพังจึงยกออกไปขาย ยืนยันไม่ได้ขโมย ส่วนเรื่องคดีอื่นเป็นคดีเกี่ยวกับซื้อขายรถ พยายามเคลียร์จนหมดแล้ว พร้อมเปิดหน้าเพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของภัยสังคมรายนี้ จากการขยายผลการจับกุมขณะนี้ พบพยานหลักฐาน ข้อมูลเหยื่อและผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่ออีกไม่ต่ำกว่า 10 คน ขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ให้แจ้งมาที่เฟซบุ๊กเพจสืบสวนนครบาล IDMB เราจะปกปิดข้อมูลผู้เสียหายเป็นความลับ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที หลังจากนี้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่