ต้องยอมรับวิกฤติศรัทธาในสายตาของประชาชนเกิดจาก “ภาพลบ” ของด่านตรวจเป็นส่วนใหญ่ ไร้ความโปร่งใส ถูกข้อครหาดัก “ปล้นกลางถนน” หิวกระหาย “รีดเงิน” แลกกับอิสรภาพไม่ต้องดำเนินคดีข้อหาหนัก
เรื้อรังคาราคาซังกระทั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ในสมัยเป็น ผบ.ตร.ต้องสั่ง “เซ็ตซีโร่” ยกเลิกการตั้งด่าน จุดตรวจ และจุดสกัดทั่วประเทศให้ไปทบทวนหามาตรการเพื่อเป็นมาตรฐานกันใหม่
ลงเอยด้วยหนังสือ ตร.000.7.34/631 ลงวันที่ 3 มี.ค.2564 และหนังสือ ตร.ด่วนที่สุดที่ 0007.1572 ลงวันที่ 31 พ.ค.2564 ในการพิจารณากำหนดจุดสำหรับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ เพื่อลดการส่งผลกระทบต่อการเดินทางและปฏิบัติกิจธุระตามปกติของประชาชน
ผ่านไปสักพักก็ “หย่อนยาน” ในการปฏิบัตินำมาสู่ “ปัญหาเก่า” คือการแตกคอกแหกแถว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ถึงต้อง “ปัดฝุ่น” หนังสือคำสั่งดังกล่าววาง “กฎเหล็ก 11 ข้อ” กำชับแนวการปฏิบัติ
ขันนอตตำรวจทั่วประเทศในการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด
ให้เป็นมาตรฐาน โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมเตรียม “ลงดาบ” หน่วยที่ละเลย มีจเรตำรวจแห่งชาติคอยตั้งแท่นฟันผิดวินัยและอาญา หากถูกกล่าวหา “เล่นสกปรก” หลุดนอกกระดาน
สาระสำคัญให้ตำรวจประจำด่านทุกนายแต่งเครื่องแบบและติดกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบดิจิทัล (Police Bodycam) บันทึกภาพและเสียงขณะตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะตลอดเวลา
การตั้งจุดตรวจต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคม มี ผบก.ขึ้นไปเป็นผู้อนุมัติ
ถ้าหากจุดตรวจไหน ไม่มีมาตรฐาน มีการเรียกรับผลประโยชน์จะมีการลงโทษระดับหัวหน้าสถานีตำรวจที่ปล่อยปละ ละเลย ไม่ใส่ใจในการตรวจสอบควบคุมดูแล และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
...
ปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของประชาชน.
สหบาท