จตช. เผย ผบ.ตร.สั่งให้จเรตำรวจตั้งคณะกรรมการสืบสวนฯ เอาผิดตำรวจซุกหมายจับ “เสี่ยโจ้” พ่อค้าน้ำมันเถื่อนตรวจสอบร่วมกับตำรวจภูธร 9 จากเดิมให้ บช.ทำเพียงหน่วยเดียว มอบหมายให้จเรตำรวจ (สบ 8) เป็นประธาน เพื่อความเป็นกลางและสร้างความเชื่อมั่น หากพบเป็นการกระทำโดยเจตนาฟันไม่เลี้ยงดำเนินการทั้งคดีอาญาและวินัยอย่างเด็ดขาด

จากกรณีตำรวจสอบสวนกลางจับกุมนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี พ่อค้าน้ำมันเถื่อน ได้ที่ตลาดกลางคืนย่านห้วยขวาง กทม. ตอนตีหนึ่งวันที่ 5 พ.ย. ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ผู้ต้องหาหลบหนีคดีตั้งแต่ปี 55 จากนั้นควบคุมตัวส่งอัยการจังหวัดสงขลาแล้วถูกปล่อยตัวเพราะอัยการสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาพบมีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี เนื่องจากหนีฟังคำพิพากษาคดีปลอมแปลงเอกสารทางราชการ กลับไม่ปรากฏข้อมูลหมายจับในสารบบ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งกำชับให้ตามจับตัวมาให้ได้พร้อมสอบข้อเท็จจริงเอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องว่าบกพร่องหรือจงใจซุกหมายจับหรือไม่ ส่วน “เสี่ยโจ้” คาดว่าหลบหนีข้ามแดนไปประเทศกัมพูชาแล้ว

ความคืบหน้า วันที่ 20 พ.ย. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. กล่าวถึงกรณีหมายจับ “เสี่ยโจ้” ไม่ถูกนำเข้าสู่สารบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเหตุให้ “เสี่ยโจ้” หลบหนีไปได้ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้รายงานผลเบื้องต้นให้ทราบเป็นการเร่งด่วนแล้ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ตนพิจารณารายงานดังกล่าว เห็นว่ายังมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบขยายรายละเอียดเพิ่มเติม ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบสร้างความเสียหายต่อขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งต้องพิจารณาความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะข้อสงสัยในประเด็นที่ว่า มีการกระทำกันเชื่อมโยงเป็นขบวนการหรือเป็นแค่ความประมาทเลินเล่อ ต้องอาศัยการตรวจสอบทุกลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียดโดยรวดเร็ว

...

พล.ต.อ.วิสนุกล่าวต่อว่า กรณีการสืบสวนเอาผิดวินัยข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องนั้น ผบ.ตร.มีความเห็นเพิ่มเติมให้จเรตำรวจแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 จากเดิมที่มีต้นสังกัดดำเนินการสืบสวนเพียงหน่วยเดียว ให้จเรตำรวจ (สบ 8) มีตำแหน่งเทียบเท่าระดับผู้บัญชาการเป็นประธาน เพื่อความเป็นกลางและสร้างความเชื่อมั่นในการตอบคำถามสังคมได้ ขณะนี้กองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างยกร่างเสนอคำสั่งให้ ผบ.ตร.ลงนามตั้งคณะกรรมการฯ ต่อไป ยืนยันว่า ผบ.ตร.ให้ความสำคัญ และกำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าข้อบกพร่อง ดังกล่าวเป็นการกระทำโดยเจตนาและเข้าข่ายกระทำผิด อาญา ต้องดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนอย่างเด็ดขาด