สลด รอง ผบก.น.3 หมดสติคาบ้าน ช่วยเหลือเบื้องต้นส่งรักษาตัว รพ.เลิดสิน แต่ยื้อไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ญาติแจงมีปัญหาโรคประจำตัว จนเกิดอาการเครียดเรื่องปัญหาสุขภาพ “ผบช.ภ.6” เพื่อนร่วมรุ่น นรต.41 เผยเป็นคนดี เป็นที่รักของเพื่อนและพี่น้อง ดึงมาช่วยงานที่สำนักงาน มีปัญหาหลอดเลือดสมอง ไม่ได้ผูกคอตายอย่างที่เป็นข่าว “นิติเวชตำรวจ” เผยผลชันสูตร เสียชีวิตจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

เหตุนายตำรวจระดับรอง ผบก. เสียชีวิต เปิดเผยขึ้นที่ สน.ยานนาวา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 พ.ย. พ.ต.อ.ธนโชติ ฤกษ์ดี ผกก.สน.ยานนาวา เผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 พ.ย.ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สายตรวจว่า มีชายหมดสติภายในบ้านเลขที่ 462 ถนนจันทน์ซอย 26 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. ประสานรถพยาบาลพร้อมทีมแพทย์กู้ชีพ รพ.เลิดสิน รุดไปตรวจสอบเหตุบนชั้น 3 ของบ้าน พบร่าง พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา รอง ผบก.น.3 นอนหมดสติสัญญาณชีพจรอ่อน หน่วยกู้ชีพปั๊มหัวใจจนฟื้นกลับมาและนำส่ง รพ.เลิดสิน ให้การรักษาจนกระทั่งเสียชีวิตช่วงเช้าวันนี้ สอบถามข้อมูลญาติทราบว่า พ.ต.อ.จีรเดชน์มีภาวะป่วยหลายโรคและมีอาการเครียด ตนสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำร่างส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนี้ผู้บังคับ บัญชาระดับสูงจะเป็นผู้แถลงรายละเอียดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา ผู้เสียชีวิต จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 41 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 คนล่าสุด ปัจจุบันเจ้าตัวยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนปทุมคงคา ที่ผ่านมามีอาการเครียดจากภาวะป่วยรุมเร้าหลายโรค กระทั่งมีญาติไปพบหมดสติอยู่บนห้องพัก เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปให้การช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุได้ว่าเกิดอาการวูบหรือทำร้ายตนเอง ต้องรอให้แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ แจ้งผลผ่าชันสูตรก่อนให้ผู้บังคับบัญชาชี้แจงยืนยันต่อไป

...

ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 เผยว่า หลังทราบข่าว พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา รอง ผบก.น.3 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เดินทางไปเยี่ยมอาการที่โรงพยาบาล แต่แพทย์ยังสั่งห้ามเยี่ยม เนื่องจาก ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู สอบถามภรรยา บอกว่า พ.ต.อ.จีรเดชน์มีอาการโรคประจำตัวโรค หลอดเลือดสมองหรือสโตรกล้มหมดสติที่บ้าน ลูกต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์บอกว่านำตัวมาส่งช้าทำให้ช่วยชีวิตไม่ทัน สาเหตุมาจากโรคประจำตัว ไม่ใช่การเสียชีวิตเพราะผูกคอตายอย่างที่มีข่าว เพราะก่อนหน้านี้มาช่วยทำงานอยู่ที่สำนักงาน จ.พิษณุโลก เคยมีอาการวูบในสำนักงาน ดีที่มีเพื่อนร่วมรุ่นอยู่ด้วยช่วยกันจนอาการดีขึ้น

พล.ต.ท.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ก่อนหน้าเสียชีวิตเพิ่งเดินทางกลับจาก จ.พิษณุโลก มาด้วยกัน เท่าที่พูดคุยไม่มีอาการเครียดอะไร พ.ต.อ.จีรเดชน์ขอตัวกลับบ้าน นัดเจอกันอีกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกวันช่วงบ่ายเรื่องงาน แต่พอถึงเวลานัดไม่มา ให้คนโทรศัพท์ไปสอบถามถึงทราบจากลูกว่ามีอาการสโตรกล้มหมดสติที่บ้านต้องนำส่งโรงพยาบาล เพื่อนทุกคนเป็นห่วงหลังรู้ว่าป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นคนดี ตั้งใจทำงาน และเป็นเพื่อนที่ดี รู้กันในกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกัน เป็นที่รักของตำรวจรุ่นพี่รุ่นน้องที่เคยทำงานด้วย ทุกคนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิด โดยเฉพาะตนเองเป็นเพื่อนที่สนิทและรักกันมาก จึงชวนกันมาช่วยทำงานที่ บช.ภ.6

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เวลา 14.50 น. ภรรยาและลูก พ.ต.อ.จีรเดชน์ พร้อมญาติเดินทางมาติดต่อรับศพ พ.ต.อ.จีรเดชน์ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แจ้งความประสงค์ยังไม่ขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลวันนี้ เนื่องจากขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ นัดหมายว่าวันที่ 7 พ.ย. เวลา 11.00 น.จะเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดธาตุทองต่อไป มีรายงานด้วยว่า ผลชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.จีรเดชน์เกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว