ตำรวจนครบาลเต้น โร่ตรวจที่เกิดเหตุในอุเทนถวาย หลังข่าวรุ่นพี่ปี 3 ซ่อมน้องปี 2 เสียชีวิตสะพัด รอง ผบช.น.เผย จ่อออกหมายจับรุ่นพี่โหด 12 คน 4 ข้อหา แฉมีผู้หญิงร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ส่วนการแจ้งข้อหาจะแบ่งเป็นคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หากมีพยานหลักฐานรุ่นพี่คนไหนลงมือทำร้ายจะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตเพิ่ม ด้านอุเทนถวายให้ออก 12 รุ่นพี่แล้ว ขณะที่รองอธิการบดีนำคณะอาจารย์และศิษย์ร่วมงานศพ ยันไม่มีนโยบายรับน้องและไม่อนุญาตให้เข้าไปใช้พื้นที่ เผยโทษออกสถานเดียว
กรณีนายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม ตามกลาง อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 2 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง คณะวิศวกรรมโยธา รุ่น 89 เสียชีวิตจากการถูกรุ่นพี่รุ่น 88 ลงโทษด้วยการเวียนกันเตะจนบาดเจ็บสาหัส เพราะไม่แสดงความคิดเห็นการเตรียมจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ เหตุเกิดที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. เมื่อเย็นวันที่ 27 พ.ค. กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 5 มิ.ย. ตั้งศพไว้ที่บ้านเกิดใน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ครอบครัวร้องสื่อมวลชนเร่งให้ผู้กระทำความผิดเข้าขอขมาศพ
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. สั่งการให้ ผบก.น.6 ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลัง สน.ปทุมวัน รายงานเหตุกรณีวันที่ 30 พ.ค. ว่าที่ ร.ต.วีรพงษ์ ตามกลาง อายุ 22 ปี พี่ชายนายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม ตามกลาง อายุ 22 ปี นศ.ชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมโยธา แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายวีรพัฒน์ไปร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเทค-โนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ต่อมาทราบว่านายวีรพัฒน์ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส เข้ารับการรักษาที่ห้องไอซียู รพ.หัวเฉียว พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ ตามประจำวันข้อ 2 เวลา 16.48 น. วันที่ 30 พ.ค. เหตุเกิดที่อาคารเรียนคณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 พ.ค. ต่อมาวันที่ 2 มิ.ย. ผู้บาดเจ็บย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา วันที่ 3 มิ.ย. คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมาลงบันทึกประจำวันแจ้งเหตุเกี่ยวกับการเข้าไปใช้สถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน วันที่ 5 มิ.ย. ได้รับแจ้งจาก รพ.มหาราช ว่านายวีรพัฒน์เสียชีวิต เบื้องต้นแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ลิ่มเลือดที่น่องหลุดไปอุดตันเส้นเลือดขั้วปอด
หลังรับแจ้งเหตุพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือขอรายละเอียด รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งสอบสวนพยานนักศึกษาให้การว่า วันเวลาเกิดเหตุนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ประมาณ 12 คน สั่งให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ประมาณ 30 คน
พร้อมกันที่มหาวิทยาลัยเพื่อประชุมเกี่ยวกับเรื่องการจัดกิจกรรม โดยไม่ได้ทำหนังสือขออนุญาตหรือแจ้งให้ทางมหาวิทยาลัยทราบจากนั้นนักศึกษารุ่นพี่ได้ทำกิจกรรมและมีการเตะไปที่หน้าอกของนายวีรพัฒน์จนสลบ ก่อนนำตัวส่ง รพ.หัวเฉียว รักษา เบื้องต้นทราบว่ามหาวิทยาลัยได้สอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะได้ส่งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้พนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป หากปรากฏพยานหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ใดเกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายนายวีรพัฒน์ พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ ผบช.น. ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกำชับพนักงานสอบสวน เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วน
...
ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อุเทนถวาย เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และประชุมร่วมกับมหาวิทยาลัยนาน 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนเปิดเผยว่า ได้ร่วมประชุมหารือกับทางมหาวิทยาลัยแล้ว เชื่อว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับผู้ก่อเหตุรวม 12 คน หลักฐานประกอบด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด คำให้การพยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจสอบสภาพแวดล้อมจากจุดเกิดเหตุ เหลือเพียงสอบปากคำพยานบางส่วน ต้องดูว่าใครมีหน้าที่บทบาทอย่างไร ใครสั่งการ ใครลงมือกระทำ พฤติการณ์เบื้องต้นพบว่า รุ่นพี่ปี 3 เรียกรุ่นน้องปี 2 มาประชุมจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ที่กำลังจะเข้าศึกษาปี 1 และได้ลงโทษให้รุ่นน้องนั่งเรียงกัน และรุ่นพี่หมุนเวียนใช้เท้าเตะ มีรุ่นพี่ผู้หญิงอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าลงมือกระทำผิดหรือไม่ ส่วนการแจ้งข้อหาจะแบ่งเป็นคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และหากรุ่นพี่คนใดที่มีพยานหลักฐานว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง ก็จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตเพิ่มเติม และบุกรุกสถานที่ โดยข้อหาสุดท้าย มหาวิทยาลัยเป็นผู้กล่าวหา
วันเดียวกัน ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ในฐานะโฆษก อว. กล่าวว่า อว.ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้ให้มหาวิทยาลัยชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ของ อว.ประสานงานร่วมกับมหาวิทยาลัยและการเยียวยาครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิต ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่ารุ่นพี่กระทำเกินกว่าเหตุ ต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด แต่คงไม่ถึงขั้นปิดมหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นการกระทำของนักศึกษาบางกลุ่ม เท่าที่รับรายงานมหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งให้เด็กกลุ่มที่ทำร้ายร่างกายพ้นสภาพนักศึกษาแล้ว
ส่วนที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 3 ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายวีรพัฒน์ หรือปลื้ม ตามกลาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ผศ.พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าวขณะไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพนายวีรพัฒน์เมื่อค่ำวันที่ 8 มิ.ย.ว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจได้สอบสวนหาข้อมูลจนทราบว่า นักศึกษารุ่นพี่ที่ร่วมกระทำมีทั้งหมด 12 คน ทั้งหมดรับสารภาพ ในกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยถ้ากระทำรุนแรงขนาดนี้ จะต้องให้ออกสถานเดียว ได้เสนอชื่อนักศึกษาทั้งหมดที่ก่อเหตุถึงอธิการบดีแล้ว ส่วนทางคดีต้องให้ตำรวจเป็นฝ่ายจัดการ มหาวิทยาลัยพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนการเยียวยาจะดำเนินการตามระเบียบเท่าที่กระทำได้ เพราะเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ต้องให้คณะกรรมการหารือตามความเหมาะสม ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนและไม่อนุญาตให้มีการรับน้องที่ไม่ถูกต้อง และช่วงนี้ไม่อนุญาตให้นักศึกษาใช้สถานที่ทำกิจกรรมใดๆตามประกาศในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่เป็นกลุ่มนักศึกษา 30-40 คน แอบเข้ามาทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต วันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ทราบเหตุการณ์ทั้งหมด มหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่านักศึกษาได้นำรถส่วนตัวเข้ามาในมหาวิทยาลัยได้อย่างไร
ด้านนางมนัสนันท์ ตามกลาง อายุ 57 ปี แม่ผู้ตายเผยว่า หลังได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน มั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรมขึ้นมาบ้าง ตอนนี้สถาบันออกมายอมรับแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุคือนักศึกษารุ่นพี่ยังไม่มีใครออกมายอมรับเลย ทุกอย่างให้อภัยกันได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องคดีขอให้ตำรวจเร่งรัดทำอย่างตรงไปตรงมาอย่างเป็นธรรมเพราะเป็นการกระทำที่รุนแรง ถึงเวลานี้ยังไม่มั่นใจว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังไม่เห็นความคืบหน้า