โฆษกสภาทนายความ เผยเตรียมออกหนังสือเชิญ “ธนิต บัวเขียว” ทนาย บอส มาให้ถ้อยคำอีกครั้ง หลังเชิญครั้งแรก 11 ก.ย.เจ้าตัวเบี้ยวนัดแต่ส่งหนังสือชี้แจงมาแทน อ้างเป็นคดีอาญายังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ต้องรักษาความลับลูกความ ชี้มีเหตุผลเพราะเป็นไปตามหลักมรรยาททนาย นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึง “วิชา” ขอให้ส่งข้อมูล “ธนิต” ที่ไปเกี่ยวข้องในคดี เพื่อพิจารณาว่าได้กระทำในกรอบจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและกฎหมายหรือไม่

ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้นายวิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อกระทิงแดง ขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตบนถนนสุขุมวิท เมื่อวันที่ 3 ก.ย.55 ขณะที่บอสยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ โดยผลตรวจสอบนายวิชาเสนอเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกว่า 10 คน พร้อมส่ง ป.ป.ท.เป็น หน่วยงานหลักรับดำเนินการต่อ ขณะที่ดีเอสไอ ได้รับรายงานคดี “บอส” จาก ป.ป.ท.แล้ว เร่งสอบ 2 ข้อหา ขับรถชนคนตายและพบสารโคเคนในตัว รอบอร์ดชี้ขาดจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ล่าสุด สภาทนายความเรียกนายธนิต บัวเขียว ทนายความบอสที่ไม่เคยเข้าไปให้ข้อมูลคณะกรรมการฯชุด “วิชา” มาให้ข้อมูลประเด็นร้องขอความเป็นธรรมอดีต สนช. วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่นายธนิตไม่ได้ไปพบตาม หนังสือนัดหมาย

ความคืบหน้าในคดีรถชนตายที่ยืดเยื้อเป็นมหากาพย์ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการสภาทนายความฯ ในฐานะโฆษกสภาทนายความฯ กล่าวถึงการส่งหนังสือเชิญนายธนิต บัวเขียว ทนายความนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ที่เป็นผู้ร้องขอความเป็นธรรมแก่คณะ กมธ.กฎหมายฯ สนช. เข้ามาให้ปากคำกับคณะกรรมการที่สภาทนายความตั้งขึ้นเพื่อรับช่วงต่อจากคณะทำงานชุดนายวิชา มหาคุณ ว่า ในวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันนัดหมายให้นายธนิตเข้ามาพบคณะกรรมการของสภาทนายความนั้น เจ้าตัวไม่ได้เข้ามาให้ถ้อยคำโดยส่งหนังสือแจ้งมายังสภาทนายความว่า คดีนี้เป็นคดีอาญา ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีไม่แล้วเสร็จ ในฐานะทนายความต้องรักษาความลับของลูกความขณะนี้ยังไม่สามารถให้ถ้อยคำได้ หลังจากนี้คงต้องพิจารณาออกหนังสือเรียกอีกครั้ง ส่วนจะเป็นวันใดนั้นจะต้องขอประชุมคณะกรรมการก่อนจะกำหนดวันนัดได้ ถ้าครั้งหน้าส่งหนังสือแล้วยังไม่มาอีก จะต้องให้คณะกรรมการมรรยาทพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนจะดำเนินการได้อย่างไรบ้างเราต้องรวบรวมข้อเท็จจริงอีกครั้ง

...

โฆษกสภาทนายความฯกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีหนังสือไปยังนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะทำงานตรวจสอบคดีนี้ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นเพื่อขอให้ส่งรายละเอียดของทนายความที่ไปเกี่ยวข้องในคดี เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วค่อยพิจารณาว่าสิ่งที่ทนายความได้กระทำนั้นเป็นไปภายในกรอบจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและกฎหมายหรือไม่ ถ้าอยู่ในกรอบกฎหมาย ในฐานะสภาวิชาชีพจะต้องปกป้องว่าทนายได้ทำถูกต้องแล้ว เพราะเราเป็นอาชีพรับจ้าง มีคนจ้างงานว่าความมาก็ต้องทำ แต่ถ้าข้อเท็จจริงส่อไปในทางมิชอบหรือทำเกินเลยไปในทางไม่สุจริตจะดำเนินคดีมรรยาท ส่วนการที่ไม่ยอมมาตามหนังสือเชิญ

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.นั้น มองว่ามีเหตุผลเพราะเป็นทนายความจะต้องรักษาความลับของลูกความตามหลักมรรยาท แต่ในคดีนี้เป็นคดีที่สังคมมีข้อกังขาว่าที่นายวิชาแถลงมาฟังได้ว่าเป็นกระบวนการสมคบคิดหลายองค์กรกระทำการที่ไม่สุจริตเพื่อให้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ในแง่ของกระบวนการมีทนายเข้าไปเกี่ยวข้องมีชื่อนายธนิตอยู่ด้วย ต้องดูว่าสิ่งที่กล่าวอ้างถึงเป็นไปตามกรอบแห่งวิชาชีพหรือไม่อย่างไรจึงต้องเชิญมาให้ข้อมูล