ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายคุมโรคดีแล้ว! แถมทวงค่าที่พักเฝ้าระวัง จ่อพักหนี้ให้เกษตรกร 1 ปี

นายกรัฐมนตรีเผย 17 พ.ค. เตรียมผ่อนปรนระยะ 2 พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันให้ยอดติดเชื้อเหลือ หลักหน่วย จากนั้นเข้าหารือกับสมาคมโรงแรมไทย รับฟัง 4 ข้อเสนอ กระตุ้นให้ธุรกิจกลับมาเร็วที่สุด ตบมุกใครเป็น รมว.กลาโหม หลังถูกทวงเงินให้ช่วยคุยกลาโหม รีบจ่ายค่าโรงแรมที่ร่วมเป็นศูนย์กักกันตัว ส่วนจุดรับเรื่องร้องเรียนทบทวนสิทธิ์ 5 พันที่กรมประชาสัมพันธ์ แม่ค้าหมูปิ้งสาวร่ำไห้อุ้มลูกวัย 2 เดือนยื่นเรื่อง หลังถูกระบุข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง “อุตตม” ยันไม่ทิ้งกลุ่มลงทะเบียนไม่ผ่าน 1.7 ล้านคน อยู่ระหว่างหาวิธี ด้าน ก.เกษตรฯ ทำเถรตรง ระบุข้าราชการเสี่ยงผิดกฎหมายถ้าให้เงินเยียวยาชาวนาที่ยังไม่มีข้าวในนา ประกันสังคมส่อเค้าวุ่น บอร์ดไม่เห็นด้วยกับ รมว.แรงงานเพิ่มจ่ายค่าชดเชยว่างงานเหตุสุดวิสัยเป็น 75% ย้ำถ้าอยากเพิ่มให้ไปของบรัฐบาล

หลังรัฐบาลมีมติต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ควบคู่ไปกับการนำมาตรการหลายอย่างออกมาบังคับใช้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมๆกับมาตรการเยียวยาประชาชนในแต่ละสาขาอาชีพ รวมถึงการคลายล็อกให้ดำเนินกิจกรรม 6 กลุ่ม 6 กิจการ อาทิ ตลาด ร้านขายอาหาร กิจการค้าปลีกค้าส่ง ทั้งซุปเปอร์มาร์เกต กิจกรรมในสวนสาธารณะ ฯลฯ ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เตือนถ้าการ์ดตกอาจจะระบาดรอบ 2 อย่างไรก็ตาม หลังผ่อนปรนพบหลายฝ่ายให้ความร่วมมือดีถึงแม้จะมีหลายกิจกรรมโดยเฉพาะเรื่องของการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่เข้มการเว้นระยะ รวมทั้งสถานที่ร้านค้าไม่ปฏิบัติตามที่ ศบค.กำหนดเกณฑ์กลางไว้ แต่ก็มีการปรับปรุงแก้ไข รวมทั้งสายตรวจร่วมออกตรวจสอบชี้แนะว่ากล่าวตักเตือน ทั้งนี้ ศบค.ออกมาเปิดเผยถ้ายอดติดเชื้อไม่พุ่ง 17 พ.ค. จะปลดล็อกระยะ 2 เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประเภทขายเครื่องครัว-ซ่อมบ้าน

...

นายกฯชื่นชมทุกฝ่ายร่วมมือดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนที่ร่วมมือกันจนทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เหลือเพียงหลักหน่วย วันนี้สั่งการให้รวบรวมแบบอย่างที่ดีของผู้ประกอบการ ร้านค้าปลีก ร้านค้าย่อยต่างๆ ถ้าทุกคนช่วยกันแบบนี้จะทำให้เกิดความปลอดภัย ไว้วางใจ และทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการออกมาใช้ชีวิตปกติ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้แล้วถ้าเกิดการระบาดกลับมาอีก จะเดือดร้อนและลำบากมากกว่าเดิม

ผ่อนปรนเพิ่มขอประเมินอีกนิด

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน รัฐบาลมีทุกมาตรการออกมาแล้ว แต่ถ้าทุกคนไม่ทำไม่ปฏิบัติตามก็มีปัญหา ขออย่าให้ทุกเรื่องเป็นความขัดแย้งเลย ทุกประเทศเจอปัญหาเช่นเดียวกันกับเรา และเราก็ถือว่าทำดีที่สุดของเรา
ในปัจจุบัน รวมทั้งความร่วมมือจากต่างประเทศด้วย ขอให้ทุกคนอดทนและช่วยกัน รัฐบาลพยายามทำเต็มที่ ทยอยการช่วยเหลือออกมาตามลำดับ แต่เรามีคนจำนวนมากต้องดูแล ไม่รู้ว่าสถานการณ์จะยาวนานไปอีกแค่ไหน แต่ทำอย่างไรให้ประเทศปลอดภัยให้เร็วที่สุด และต้องระวังจากภายนอกด้วย คิดว่าระยะเวลาอันใกล้จะผ่อนปรนเปิดกิจการอย่างอื่นเพิ่มเติมอีก ขอประเมินกันอีกนิด

รับ 17 พ.ค.จ่อคลายล็อกระยะ 2

เมื่อถามว่า วันที่ 17 พ.ค. จะสามารถผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 2 ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “ใช่ ก็เตรียมไว้อย่างนั้นแหละ ส่วนนโยบายให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ต่างๆก็เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและได้เริ่มขึ้นแล้ว ทำให้มีงานมีเงินเดือน และบางส่วนได้รับการชดเชยตามกฎหมาย หากมีเปิดโรงงานจะเริ่มจ้างงาน นั่นคือการฟื้นฟูแล้วและพัฒนาต่อไป อย่างสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมต่างๆเพื่อให้ทุกคนไว้วางใจกลับมาเที่ยวประเทศไทย อย่างการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะมาก่อนหรือไม่ ไม่ได้เปิดกิจกรรมทุกประเภทพร้อมกันหมด เพราะอาจทำให้รวนไปหมด ตรงนี้ต้องเห็นใจรัฐบาลบ้าง พูดคุยภาคธุรกิจเอกชนส่วนใหญ่แล้ว ยืนยันรัฐบาลจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุดมากเท่าที่จะทำได้ตามกรอบกฎหมาย และวงเงินงบฯที่มีอยู่ จะใช้เงินให้เกิดประสิทธิภาพ ขอให้เชื่อมั่นและฟังรัฐบาลบ้าง

ส.โรงแรมไทยเสนอ 4 ข้อกระตุ้นธุรกิจ

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปพบและหารือร่วมกับคณะกรรมการสมาคมโรงแรมไทย ที่สมาคมโรงแรมไทย ถนนราชดำเนิน ใช้เวลารวม 50 นาที โดยนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ได้นำเสนอหัวข้อตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้โจทย์มาก่อนว่า สิ่งที่เดือดร้อนที่สุดคืออะไร สิ่งที่รัฐบาลออกมาตรการไปแล้วดีหรือไม่ดี และทำอย่างไรจะกระตุ้นธุรกิจกลับมาได้เร็วที่สุด โดยสมาคมโรงแรมได้เสนอรวม 4 หัวข้อ ประกอบด้วย 1.เป็นการทำให้เกิดความต้องการใช้บริการโรงแรม ประกอบด้วย ขอให้จัดงบประชุมสัมมนาของภาครัฐ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จัดสัมมนาข้ามภูมิภาค ให้ออกมาตรการทางภาษีให้บริษัทเอกชนนำค่าใช้จ่ายจากการจัดประชุมสัมมนา ไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2563-31 ธ.ค.2564 และให้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวไปหักภาษีได้ 2 เท่า ในวงเงิน 30,000 บาทต่อปี ในระยะเวลาเดียวกัน โดยทั้งหมดต้องเข้าพักโรงแรมที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

เลื่อนจ่ายภาษีช่วงปิดชั่วคราว

ข้อเสนอที่ 2 ขอให้รัฐบาลเข้มงวดโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อให้คนมาใช้โรงแรมที่ถูกกฎหมาย เวลาจับกุมขอให้จับตาม พ.ร.บ.โรงแรม และ พ.ร.บ.การควบคุมอาคาร และทุกครั้งให้ระงับการใช้อาคาร พร้อมกับเสนอให้เพิ่มโทษโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต จากจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาทและปรับเพิ่มอีกวันละ 1 หมื่นบาท ขอให้เปลี่ยนการปรับเป็น 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท รวมทั้งขอให้ในการโฆษณาโรงแรมรวมทั้งการขายผ่านระบบออนไลน์ จะต้องใส่หมายเลขผู้ประกอบการด้วยทุกครั้ง ข้อเสนอที่ 3 ขอให้พิจารณาภาษีสนับสนุนการลงทุนเพื่อพัฒนาปรับปรุงโรงแรม การป้องกันภัยโควิด-19 และซื้อเครื่องจักรใหม่ โดยนำค่าใช้จ่ายไปหักภาษีได้ 3 เท่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.63-31 ธ.ค.64 ข้อเสนอที่ 4 ขอเลื่อนการจ่ายภาษีตาม พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในช่วงการปิดกิจการโรงแรมชั่วคราว เพราะเดิมการจ่ายตามภาษีโรงเรือนจะคิดจากรายได้ ขณะที่ตามกฎหมายใหม่คิดจากมูลค่าที่ดินของโรงแรม

...

ถ้าคุมเชื้อได้ให้เลิกกักตัว นทท.

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ได้พูดคุยถึงนโยบายรัฐบาลที่ออกมาว่ามีอะไรถูกใจ อะไรไม่ถูกใจ สมาคมโรงแรมได้ชมการควบคุมโรคของรัฐบาลว่าทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ในการพิจารณาเปิดน่านฟ้าต่อไปให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ต้องควบคุมให้ดี และต้องยกเลิกมาตรการกักตัว 14 วัน เช่น หากจีนและไทยต่างดูแลการแพร่ระบาดของโรคได้ดีแล้ว ระหว่าง 2 ประเทศนี้ หากมีระบบการทำเอกสารรับประกัน นักท่องเที่ยวจากจีนก็ไม่ต้องถูกกักตัว 14 วันเป็นต้น ส่วนเอกสารรับประกันจะเป็นอย่างไร อยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด อีกทั้งได้ขอให้รัฐบาลออกแนวทางปฏิบัติให้กับสำนักงานประกันสังคมแต่ละจังหวัด เพราะตอนนี้มีหลายจังหวัดไม่ยอมวินิจฉัยการว่างงานที่มาจากเหตุสุดวิสัยให้กับลูกจ้างของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราว เพื่อจ่ายเงินว่างงานให้ 62% ของค่าจ้างรายวัน อ้างว่าส่วนกลางยังไม่ให้แนวปฏิบัติมา ทำให้วินิจฉัยให้ไม่ได้

ทวงเงิน กห.ค่า State Quarantine

ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโรงแรมไทยเปิดเผยต่อว่า สุดท้ายได้แจ้งนายกฯว่าโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นศูนย์กักตัวของภาครัฐ หรือ State Quarantine ยังไม่ได้เงินจากกระทรวงกลาโหมเลย เพราะงบยังไม่ถูกส่งมา ได้คุยกับทีมของกระทรวงกลาโหมแล้วขอให้วางบิลกลับมา เมื่องบอนุมัติมา จะเบิกจ่ายได้ทันที ตรงนี้นายกฯได้ถามขึ้นมาว่าคุยกันแล้วใช่ไหมพร้อมพูดแซวตัวเองว่าใครเป็นรัฐมนตรีกลาโหม

มท.สั่งทุก จว.ตั้ง ศปก.ควบคุมโรค

วันเดียวกัน มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 7 พ.ค. ถึงผู้ว่าราชการ ทุกจังหวัด ขอให้จังหวัดดำเนินการตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ในแต่ละระดับ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แต่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัด (ศปก.จ.) นายอำเภอเป็นผู้แต่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) และนายกเทศมนตรีเทศบาล เทศบาลเมืองเป็นผู้แต่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคเทศบาลนคร เทศบาลเมือง (ศปก.ทน. ,ศปก.ทม.) ตามโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด พร้อมกำกับดูแลติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคในพื้นที่โดยเคร่งครัด มีอำนาจหน้าที่ คือ 1.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในคำสั่ง ศบค. เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย

...

ศบค.ชมผู้ประกอบการร่วมมือ

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ผลการตรวจกิจการ กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนปรนในวันที่ 7 พ.ค. ตรวจ 15,414 แห่ง ปฏิบัติตาม 14,993 แห่ง ไม่ปฏิบัติตาม 421 แห่ง คิดเป็น 2.73% ถือว่าลดลงกว่าวันที่ผ่านมา ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือมากขึ้น ย้ำว่าเราไม่ต้องการลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน แต่ต้องการทำให้เกิดความปลอดภัย ถ้าทำดีแล้วก็ให้ทำต่อ ถ้าทำไม่ดีก็ปิดเพื่อให้ปรับปรุงให้ดีแล้วมาเปิดใหม่ ดังนั้น หากอยากเปิดพื้นที่กันมากๆฝากให้ช่วยกันทำทั้งมาตรการหลักและมาตรการเสริมเกิน 90% หรือ 100%

“อุตตม” หาวิธีช่วย 1.7 ล.คน ชวด 5 พัน

ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เผยถึงความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาทว่า จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนมีผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิ์จากเงินเยียวยาทั้งหมด 16 ล้านคน ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เพราะข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง จัดอยู่ในกลุ่มที่ถือว่าลงทะเบียนไม่ผ่านประมาณ 1.7 ล้านคนนั้น กระทรวงการคลังจะตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น ก่อนส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูล เพื่อหามาตรการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ต่อไป

...

ยัน นศ.ทำงานหาเงินเรียนได้สิทธิ์

รมว.คลังกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ออกข่าวว่าจะมีการเปิดลงทะเบียนใหม่ในมาตรการเยียวยากลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียนและนักศึกษาพาร์ตไทม์นั้น ยืนยันว่าไม่มีการเปิดลงทะเบียนใหม่ หลังจากปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 22 เม.ย. และการจ่ายเงินจะยึดเกณฑ์จากการประกอบอาชีพเป็นหลัก หากนักศึกษาทำงานด้วยเพื่อเก็บเงินไปเรียน กรณีนี้ได้รับเงินเยียวยาแน่นอน แต่นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนไว้ในเว็บเราไม่ทิ้งกัน.com อยู่ก่อนแล้ว ถ้ายังไม่ได้รับเงินก็สามารถยื่นทบทวนสิทธิ์ได้ถึงวันที่ 10 พ.ค.63 ส่วนนักศึกษาพาร์ตไทม์ที่ยังไม่ลงทะเบียนถือว่าไม่ได้รับสิทธิ์ตามระเบียบ

อาทิตย์หน้าจ่ายครบ 13.4 ล.คน

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิ์เยียวยา 5,000 บาท 13.4 ล้านคนแล้ว กระทรวงการคลังได้จ่ายเงินเยียวยาไปแล้วกว่า 11 ล้านคน และจะจ่ายให้ครบ 13.4 ล้านคนภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนที่มาร้องทุกข์ที่กรมประชาสัมพันธ์นั้น ส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จเพราะข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง ถือว่าลงทะเบียนไม่ผ่าน มีอยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน ซึ่งไม่ได้เข้าไปสู่กระบวนการคัดกรอง กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลืออยู่ต่อไป

ย้ำทบทวนสิทธิ์ได้ถึง 15 พ.ค.

เลขาฯ รมว.คลังกล่าวต่อว่า อยากจะย้ำว่าใครที่ต้องการทบทวนสิทธิ์ขอให้รีบไปลงทะเบียนในเว็บ เราไม่ทิ้งกัน.com ภายในวันที่ 10 พ.ค. ถ้าหากลงไม่ทันสามารถเดินทางมาที่กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อยื่นทบทวนสิทธิ์ได้ทางเอกสารถึงวันที่ 15 พ.ค.63 บางรายเมื่อส่งข้อมูลแล้วไม่มีผู้พิทักษ์สิทธิ์ติดต่อไปก็ไม่ต้องตกใจ เพราะในระบบอาจจะตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่ยื่นทบทวนสามารถรอรับเงินโอนเข้าบัญชีได้เลย

ร้องเรียนเริ่มน้อยหลังเงินเข้า บช.

สำหรับบรรยากาศที่ลานจอดรถกรมประชาสัมพันธ์ในวันเดียวกัน มีประชาชนมาร้องทุกข์เรื่องเงินเยียวยาค่อนข้างน้อยกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยมีผู้มาต่อคิวร้องทุกข์พันกว่าคนเท่านั้น จากช่วงที่ผ่านมามีคนมาร้องเรียนถึง 3,000 คน เนื่องจากประชาชนที่ลงทะเบียนที่ผ่านสิทธิ์เริ่มได้รับเงินในบัญชีแล้ว ทำให้ผู้ที่มาร้องเรียนมาน้อยลง ประกอบกับช่วงแรกที่เปิดโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนประชาชนแห่กันมาจำนวนมากโดยเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนคาดว่าจะสามารถเคลียร์ประชาชนที่มารับเรื่องร้องทุกข์ได้เสร็จสิ้นภายใน 16.00 น.

แม่ค้าหมูปิ้งร่ำไห้อุ้มลูกทวงสิทธิ์

น.ส.สมบุญ แสงอาทิตย์ อาชีพขายหมูปิ้งอุ้มลูกวัย 2 เดือน มายื่นขอทบทวนสิทธิ์ เล่าให้ทีมข่าวไทยรัฐทีวีฟังด้วยน้ำตาว่า ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.แต่ระบบแจ้งว่าหมายเลขบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง ไม่พบข้อมูลลงทะเบียน วันนี้มายื่นขอรับเงินเยียวยาเนื่องจากครอบครัวลำบากมาก สามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัวถูกให้ออกจากงาน ตอนนี้รับจ้างทั่วไปรายได้วันละ 300 บาท แต่ต้องเลี้ยงดูทั้งครอบครัว ตัวเองช่วยอะไรก็ไม่ได้ ขายหมูปิ้งก็ไม่ได้ เพราะพิษโควิด-19 และต้องเลี้ยงลูก หวังได้รับเงินเยียวยาห้าพันบาทไปแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในครอบครัว

เกษตรกรไม่มี บช.ธกส.ทยอยแจ้งเว็บ

ขณะที่นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ธ.ก.ส.เปิดให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิเยียวยา 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน ที่ไม่มีบัญชี ธ.ก.ส.ไปแจ้งในเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 7 พ.ค. พบว่ามีเกษตรมาแจ้งบัญชีแล้ว 200,000 ราย จากตัวเลขของเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีของ ธ.ก.ส.ทั้งสิ้น 400,000 ราย คาดว่า 200,000 รายที่เหลือจะเข้ามาแจ้งบัญชีครบในเร็วๆนี้

ย้ำไม่ใช่เว็บรับลงทะเบียนเยียวยา

ส่วนเกษตรกรที่มีบัญชี ธ.ก.ส.อยู่แล้วไม่ต้องดำเนินการใด เพราะขณะนี้กระทรวงเกษตรกรฯส่งรายชื่อเกษตรกรที่จะได้รับเงินมาให้แล้ว 8.3 ล้านราย ธ.ก.ส.จะนำรายชื่อดังกล่าวไปตรวจสอบกับการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ของอาชีพอิสระ โดย ธ.ก.ส.เตรียมจ่ายเงินให้เกษตรกรวันแรกวันที่ 15 พ.ค.นี้ จำนวน 1 ล้านราย อยากทำความเข้าใจกรณีของ www.เยียวยาเกษตรกร.com ว่าเป็นเพียงช่องทางในการแจ้งบัญชีธนาคาร สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีของ ธ.ก.ส.และช่องทางในการตรวจสอบเงินในมาตรการเท่านั้น ไม่ใช่การลงทะเบียนเกษตรกรเพื่อรับเงินเยียวยา โดยการลงทะเบียนเกษตรกรและการคัดกรองเกษตรกรนั้นดำเนินการโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”

สั่ง 7 หน่วยงานรอรับเรื่องร้องเรียน

วันเดียวกัน นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าวว่า สั่งการให้ 7 หน่วยงานที่เป็นนายทะเบียนรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมหม่อนไหม กรมประมง กรมปศุสัตว์ โรงงานยาสูบ สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้ตั้งหน่วยงานเตรียมรับการร้องเรียน หรืออุทธรณ์ กรณีเกษตรกรอาจไม่พอใจ หรืออาจตกหล่น ไม่ได้รับเงินเยียวยาเกษตรกรจากรัฐบาลจำนวน 5,000บาทระยะเวลา 3 เดือน แต่ต้องรอให้ประกาศรายชื่อ และจ่ายเงินผ่านพ้นไปก่อน

อ้างเสี่ยงผิด ก.ม.ถ้าเยียวยาชาวนา

สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่ไม่เคยมีทะเบียน รัฐบาลให้โอกาสขึ้นทะเบียนเพิ่มภายในวันที่ 15 พ.ค.63 ส่วนที่ชาวนาบางส่วนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนใหม่ เพราะเป็นช่วงฤดูแล้ง ยังไม่สามารถทำนาได้ จึงไม่มีพืชในแปลงมายืนยัน ต้องเห็นใจข้าราชการด้วย เพราะหากลงทะเบียนให้ จะเอาอะไรมายืนยันว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเป็นเกษตรกรจริง เมื่อไม่มีข้าวในนา เบื้องต้นคือไม่ใช่ชาวนา ไม่ใช่เกษตรกร เพราะโครงการนี้ เป็นโครงการเยียวยาเกษตรกร หากเกษตรจังหวัด หรือเกษตรอำเภอ ให้ลงทะเบียนไป ได้เงินเยียวยาไปแล้วเกิดไม่ปลูกข้าว ข้าราชการก็ทำผิดกฎหมาย แบบนี้ใครจะรับผิดชอบ

“จุรินทร์” จ่อพักหนี้เกษตรกร 1 ปี

ขณะที่ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเพื่อพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรลูกหนี้กองทุนฯที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด โดยสั่งการให้สำนักงานกองทุนฯแก้ระเบียบคณะกรรมการกองทุนฯ 2 ฉบับเพื่อออกมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย แก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้กองทุนฯ เบื้องต้นจะพักชำระหนี้ 1 ปีบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร 4.5 หมื่นราย และมาตรการอื่นผ่านองค์กรเกษตรช่วยเหลือสมาชิกกองทุนฯในการประกอบอาชีพอีก 20,000 ราย

บอร์ดประกันสังคมไม่โอชดเชย 75%

อีกด้านหนึ่งในมาตรการของรัฐเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 นางอรุณี ศรีโต กรรมการประกันสังคมฝ่ายลูกจ้าง กล่าวถึงการประชุมบอร์ดประกันสังคมเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ว่า ได้พิจารณาเรื่องที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน แถลงกับสื่อมวลชน เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาจ่ายเพิ่มเงินชดเชยว่างงานจากเหตุสุดวิสัยให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิม 62% ของเงินเดือนที่กำหนดเพดานไว้ไม่เกิน 15,000 บาท เป็น 75% ที่ประชุมไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน บอร์ดประกันสังคมกังวลเรื่องอนาคตของเงินประกันสังคมที่เป็นเงินของผู้ประกันตนที่สะสมไว้ในอนาคต หากมีการใช้จ่ายภายใต้เงื่อนไขที่ไม่รัดกุม ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายประกันสังคมจะเกิดความเสียหาย หากเงินกองทุนว่างงานหมด แต่ในปี 2564-2565 เกิดมีการว่างงานเป็นล้านๆคน ถามว่ารัฐบาลจะมาจ่ายให้หรือไม่ รมว.แรงงาน มีเจตนาดี แต่โดยหลักการเรื่องนี้จะต้องคุยกันในที่ประชุมบอร์ดประกันสังคมด้วยระบบไตรภาคี

เผยไม่สบายใจตั้งแต่เพิ่ม 62%

นางอรุณีกล่าวว่า เรามีความไม่สบายใจตั้งแต่ครั้งก่อนที่บอร์ดประกันสังคมมีมติให้จ่ายเงินกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย 50% แต่ รมว.แรงงาน ใช้ อำนาจเพิ่มให้เป็น 62% ถ้ารัฐบาลสั่งให้หยุดกิจการเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เราไม่ขัดข้องที่จะจ่ายเงินชดเชย แต่ผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสเนื่องจากขายของไม่ดีแล้วหยุดงาน มาผสมโรงรับเงินชดเชยประกันสังคม 62% ต้องนึกถึงผู้ใช้แรงงานและนายจ้างที่เป็นเจ้าของเงิน และมีรัฐบาลมาช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย ต้องฟังเสียงเจ้าของสิทธิคือผู้ประกันตนทั้ง 15 ล้านคน รมว.แรงงาน อย่าทำให้กระบวนการแรงงานไม่สบายใจ และมีความรู้สึกว่าใช้อำนาจเกินเลย ไม่เช่นนั้นแรงงานอาจจะออกมาต่อว่าแล้วจะเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะกระบวนการแรงงานมีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องเงินกองทุนประกันสังคม

ถ้าอยากเพิ่ม 75% ต้องไปของบ รบ.

นางอรุณีกล่าวอีกว่า กองทุนประกันสังคมมีหลายกอง แยกเป็นกองใครกองมัน กรณีว่างงานมีเพียง 1.6 แสนล้านบาท จะมาบอกว่ากองนั้นเหลือเยอะ แล้วนำมาใช้ก่อนไม่ได้ โดยเฉพาะกรณีชราภาพ ที่มีเจตนาให้ผู้ใช้แรงงานได้ใช้เมื่อเกษียณอายุ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของดอกผลกองทุน ไม่อยากให้ไปยุ่งเกี่ยว เพราะเงินในส่วนนี้จะช่วยให้คนที่ทำงานมาชั่วชีวิตได้รับเงินบำนาญเพิ่มมากขึ้น หาก รมว. แรงงานยังยืนยันที่จะเสนอเรื่องนี้ให้ ครม. พิจารณา ลำพังบอร์ดประกันสังคมฝ่ายลูกจ้างและนายจ้าง คงทำอะไรไม่ได้มาก แต่ว่าเมื่อเรายืนยันเจตนารมณ์คนงานจะออกมาปกป้องเงินของเขาเอง ไม่ให้มือที่มองไม่เห็นมาล้วงเอาไปโดยผิดหลักการ ขณะนี้คนงานเริ่มไม่สบายใจ หากมากกว่านี้อาจจะเกิดม็อบแรงงานได้ หาก รมว.แรงงาน อยากเพิ่มเงินชดเชยเป็น 75% ต้องไปของบจากรัฐบาล จากนายกฯให้มาเติมในส่วนที่บอร์ดประกันสังคมมีมติให้ไปก่อนหน้านี้ แม้กระทั่งเงินสมทบที่รัฐบาลค้างชำระก็ต้องไปทวงคืน เพราะเงินกองทุนประกันสังคมเริ่มร่อยหรอ แต่ทุกวันนี้รัฐบาลกำลังผลักภาระให้กับสำนักงานประกันสังคม

ปล่อยกู้ 3 หมื่นล้านป้องกันว่างงาน

นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส.เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการจากผลกระทบโควิด-19 สปส.มีโครงการสินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท ให้สถานประกอบการกู้เป็นทุนเสริมสภาพคล่องเพื่อให้มีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการกู้เพื่อ Refinance ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินปล่อยกู้ของแต่ละธนาคารที่เข้าร่วมโครงการขณะนี้มี 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) วงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) วงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท มีระยะเวลายื่นขอกู้ถึง 31 ธ.ค. หรือจนกว่าเงินจะหมด โดยสถานประกอบการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 50 คน กู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท มีลูกจ้าง 51-200 คน กู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท และมีลูกจ้างเกิน 200 คน กู้ไม่เกิน 15 ล้านบาท หากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 คงที่ 3 ปี ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 คงที่ 3 ปี สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม และต้องรักษาลูกจ้างไม่น้อย กว่าร้อยละ 80 ของจำนวนลูกจ้างในวันที่ได้รับสินเชื่อตลอดอายุโครงการ 3 ปี เพื่อไม่ให้มีการเลิกจ้างงาน

ยังคุมเข้มผู้ประกอบการขนส่ง

ส่วนเรื่องของการเดินทางหลังมีมาตรการผ่อนปรน นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การจัดการขนส่งสาธารณะทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ มีการออกประกาศ คำสั่ง ควบคุมพื้นที่ ควบคุมกิจกรรม และกำหนดเวลาการเดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยกระทรวงคมนาคมออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการรถโดยสารระหว่างจังหวัดงดเดินรถ 203 เส้นทาง จาก 800 กว่าเส้นทาง ขณะที่การเดินทางโดยรถไฟระหว่างจังหวัด จากปกติวันละ 500 ขบวน ลดลงเหลือ 43 ขบวนต่อวัน และวิ่งระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากติดช่วงเวลาเคอร์ฟิว

บีทีเอสให้ขึ้นได้ 250 คน/ขบวน

ปลัดกระทรวงคมนาคมเผยอีกว่า ส่วนกรณีวันที่ 5 พ.ค. ที่มีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส หนาแน่นและแออัดนั้น ต้องขออภัยและขอชี้แจง เนื่องจากเกิดความขัดข้องของระบบ ไม่สามารถเดินรถได้ 3-4 ขบวน การควบคุมการเว้นระยะห่างทางสังคมทำได้ยากมาก เป็นบทเรียนสำคัญ และวันที่ 6 พ.ค. ที่เป็นวันหยุด ได้ให้หน่วยงานจัดเตรียมระบบซักซ้อมการเว้นระยะห่างทางสังคม มีประชาชนให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามข้อแนะนำต่างๆที่กำหนดไว้ ปกติรถไฟฟ้าบีทีเอส 1 ขบวน บรรจุผู้โดยสารได้ 1,000-1,100 คน แต่เมื่อมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ผู้โดยสารจึงเหลือเพียง 250 คนเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ระบบขนส่งสาธารณะด้านอื่น ทั้งรถโดยสารประจำทาง การโดยสารทางเรือ จะใช้มาตรการเดียวกัน

สนามบิน 18 แห่งรองรับบินใน ปท.

นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ต้องเพิ่มความถี่ของการเดินรถให้เพียงพอหรือไม่นั้น ความจำเป็นในการเว้นระยะห่างต้องมี และเมื่อมีคนใช้บริการมากขึ้นจำเป็นต้องปรับขบวน เพิ่มขีดการเดินรถให้เต็มพิกัด แต่ต้องเว้นระยะเวลาการให้บริการในแต่ละช่วงขบวนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 นาที ถ้าน้อยกว่านี้อาจเกิดความไม่ปลอดภัย ส่วนการเดินทางทางอากาศในเดือน พ.ค. มี 5 สายการบินจะเปิดให้บริการ ในพื้นที่ท่าอากาศยาน 18 แห่ง เพื่อรองรับผู้โดยสารเดินทางในประเทศเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. เพื่อให้เหลือเวลาก่อนเวลาเคอร์ฟิว

พณ.แถลงจับตุนแมสก์เพิ่ม

ด้านนายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) และหัวหน้าฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส.) เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ระหว่างวันที่ 5-7 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 4 ราย แบ่งเป็น กทม. 3 ราย จ.อุบลราชธานี 1 ราย ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ มีจำนวนเพิ่ม 417 ราย แยก เป็น กทม. 186 ราย และ ตจว. 231 ราย สำหรับสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ในขณะนี้ โดยรวมความ ต้องการซื้อไข่ไก่ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนซื้อเท่าที่พอเพียงต่อการบริโภค ทั้งนี้ หากพบการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าแพงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด

ศบค.ชี้จับกลุ่มดื่มเหล้ายังอันดับ 1

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า ผลการปฏิบัติการงานด้านความมั่นคงในช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 7 พ.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 พ.ค. มีผู้กระทำผิดชุมนุม มั่วสุม 126 ราย การดื่มสุรายังเป็นอันดับหนึ่ง ออกนอกเคหสถาน 610 ราย ขอเน้นย้ำว่าแม้จะมีการผ่อนคลายแต่ต้องจำกัดพฤติกรรมในบางส่วน ต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่แพร่กระจายเชื้อ

ศาลยโสธรปรับ 1 พันไม่ใส่แมสก์

ที่ศาลจังหวัดยโสธร ศาลพิพากษาคดีที่อัยการยื่นฟ้องนายเซ็ง ทองคำ อายุ 51 ปี นายบรรหาญ ธิมาชัย อายุ 33 ปี และนายประคอง พูศรี อายุ 39 ปี ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั่งดื่มสุรา และไม่ใส่หน้ากากอนามัยหน้าบ้านเลขที่ 70 หมู่ 17 บ้านคำแดง ต.เดิด อ.เมืองยโสธร เมื่อบ่ายวันที่ 5 พ.ค. พิพากษาจำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละ 12,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 15 วัน ปรับคนละ 6,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 1 ปี ต่อมาช่วงบ่าย ศาลจังหวัดยโสธรอ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประยุทธ์ ยืนยงค์ อายุ 40 ปี คนงานก่อสร้าง เป็นจำเลยในฐานความผิดฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดยโสธรเรื่องให้ผู้ออกนอกเคหสถานสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 7 พ.ค. จำเลยไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะเดินอยู่ในตลาดใหม่ ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร พิพากษาปรับ 2,000 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 1,000 บาท ถือเป็นรายแรกของ จ.ยโสธร ที่ถูกจับข้อหาไม่ใส่หน้ากากอนามัยขณะออกมาเดินตลาด

ก๊วน ผญบ.เขย่าไฮโลในรีสอร์ต

ส่วนการจับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 7 พ.ค. ชุดเคลื่อนที่เร็ว จังหวัด สมุทรสงคราม นายวริศธิ์นันย์ เสือทอง นอภ.บางคนที สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหารเข้าปิดล้อมตรวจค้นรีสอร์ตเรือนอธิษฐาน หมู่ 3 ต.โรงหีบ อ.บางคนที หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการตั้งวงดื่มสุราและเล่นพนันไฮโล จับกุมตัวได้ 7 คน ขณะล้อมวงเล่นไฮโลและดื่มสุราอยู่หน้าห้องพัก ในจำนวนนี้มีนายสาคร จันรัศมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.โรงหีบ รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังพบนายเวชยันต์ คงประชา นายก อบต.โรงหีบ นอนหลับอยู่ในห้อง เจ้าตัวอ้างว่าเช่าห้องพักรีสอร์ตพักอาศัยเป็นรายเดือน ดื่มสุราตั้งแต่เย็นแต่เลิกดื่มและเข้านอนตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่ง เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวไปไม่ได้แจ้งข้อหา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนไปสอบสวนดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และลักลอบเล่นการพนัน

หลอกเชิดเงินเยียวยาลุงวัย 63

ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายเล็ก ปิ่นปาน อายุ 63 ปี อยู่ห้องเช่าในซอยสุขสวัสดิ์ 70/2 ต.บางครุ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.สายันต์ ภูพรรนา สว. (สอบสวน) หลังเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ว่า ถูก น.ส.น้ำ ไม่ทราบชื่อจริง อายุประมาณ 30-35 ปี หลอกเอาเงินที่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลไป 8,000 บาท นายเล็กเผยว่า พักอยู่ห้องเช่าเพียงลำพัง เมื่อวันที่ 4 พ.ค. นำสมุดบัญชีธนาคารไปเช็กยอดเงินผู้สูงอายุ พบมีเงินเข้ามา 10,000 บาท เป็นเงินเยียวยาจากรัฐบาลให้ผู้เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิดที่หลานชายลงทะเบียนให้ไว้ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไรเพราะไม่ค่อยรู้หนังสือ นำสมุดธนาคารไปให้ น.ส.น้ำ เพื่อนข้างห้องช่วยดู น.ส.น้ำอาสานำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินให้ และนำเงินมาให้ตน 2,000 บาท ก่อนที่ น.ส.น้ำกับสามีจะปิดห้องกลับต่างจังหวัด ภายหลังตรวจสอบบัญชีธนาคารถึงทราบว่า น.ส.น้ำกดเงินออกมาทั้งหมด 10,000 บาท แต่เอามาให้ตน 2,000 บาท เชิดเงินไป 8,000 บาท จึงมาแจ้งความให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี

สาวถูกตุ๋นซื้อหน้ากากอนามัย

วันเดียวกัน น.ส.ณัฏฐณิชา มีมูล อายุ 33 ปี เข้าแจ้งความ พ.ต.ต.อุทัย อบมาลี สว. (สอบสวน) สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี ว่า ทำอาชีพเรือประมงต้องการหาซื้อหน้ากากอนามัยให้สามีและลูกน้องใช้ พบประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก ระบุชื่อ “อรุณทิพย์ กำเหนิดเพ็ชร์ 092-7560410” เห็นมีชื่อและเบอร์โทรศัพท์ชัดเจนจึงมั่นใจ สั่งซื้อหน้ากากอนามัย 20 กล่อง กล่องละ 300 บาท เป็นเงิน 6,000 บาท บวกค่าส่งอีก 120 บาท รวม 6,120 บาท หลังจากโอนเงินไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ. แต่ไม่ยอมส่งสินค้ามาให้ พยายามทวงถามแต่ไม่ได้รับคำตอบ จนกระทั่งปิดเฟซบุ๊กไปและโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ มั่นใจว่าถูกหลอกจึงนำหลักฐานมาแจ้งความให้ตำรวจติดตามตัวเจ้าของเฟซบุ๊กมาดำเนินคดี

คัดกรองเข้มละหมาดวันศุกร์

ส่วนการละหมาดญุมอะห์ หรือละหมาดวันศุกร์ของชาวมุสลิม เริ่มกลับมาละหมาดเป็นวันแรกหลังจากต้องงดมากว่า 1 เดือนจากมาตรการป้องกันโควิด-19 บรรยากาศตามมัสยิดต่างๆในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ทั้งสตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีการคัดกรองอย่างเข้มงวด ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย นำผ้าปูรองมาจากบ้าน มีเจ้าหน้าที่ อสม.ตรวจวัดไข้ที่ประตูทางเข้า มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ถึงเวลาละหมาดต้องยืนตามระยะห่าง 1-2 เมตร และใช้เวลาที่สั้นกว่าปกติเพื่อไม่ให้มีการรวมตัวกันนานเกินไป อย่างไรก็ตาม แม้จะอนุญาตให้กลับมาละหมาดวันศุกร์ได้อีกครั้ง แต่ยังงดกิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมอื่นๆที่รวมกลุ่มและการเลี้ยงละศีลอดในเดือนรอมฎอน

พิษณุโลกคลายล็อกขายเหล้าได้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก แจ้งผลการประชุมกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่มีนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก เป็นประธานว่า คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า จ.พิษณุโลก ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นวันที่ 28 แล้ว จึงมีมติคลายล็อกให้สามารถจำหน่ายสุราได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. และอีกมติหนึ่งให้คลายล็อกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จ.พิษณุโลกเปิดให้บริการได้ตามปกติ นพ. รัฐภูมิ ชามพูนท รรท.นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ขอประชาชนอย่าประมาทเพราะสาเหตุหลักของผู้ติดเชื้อของไทยมาจากการดื่มสุราและสังสรรค์ นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจร้านอาหารและร้านตัดผมที่เปิดบริการ เพื่อดูมาตรการรักษาความสะอาด การตรวจวัดไข้ รักษาระยะห่าง และมีแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นบรรทัดฐานให้ปลอดจากโรคโควิด-19

ตลาดนัดจตุจักรเริ่มคึกคัก

ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร พ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดเริ่มทยอยมาเปิดร้านเพื่อนำสินค้าออกมาจัดเรียงให้ เป็นระเบียบก่อนเปิดจำหน่ายเป็นทางการในเช้าวันที่ 9 พ.ค. หลังหยุดขายยาวมากว่า 1 เดือน เนื่องจากมีคำสั่งให้ปิดตลาดนัดทุกแห่งใน กทม.ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สำหรับบางร้านที่จัดหน้าร้านเสร็จ เริ่มมีลูกค้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า ที่โดยมากเป็นสินค้าเครื่องอุปโภคและต้นไม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดในตลาดนัดสวนจตุจักร สลับเวรนำยาฆ่าเชื้อมาฉีดพ่นบนพื้นถนน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่จะเดินทางมาจับจ่ายในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เจ๊พอนชี้ ลูกค้าหลักต่างชาติหาย

เจ๊พอน หรือนายศิธร มีชูนึก สาวประเภทสอง เจ้าของร้านอุปกรณ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง KAORI SPA โครงการ 17 เล่าว่า ขายของที่นี่มากว่า 20 ปี โรคโควิดทำให้ต้องหยุดขายยาวนานที่สุด เดือดร้อนมากจากการขาดรายได้ เท่าที่สังเกตในสัปดาห์แรกของการเปิดตลาดนัดจตุจักร คาดว่าจะมีผู้ค้ามาเปิดขายเพียงแค่ร้อยละ 30 เพราะช่วงที่ผ่านมาหลายคนไม่มีงานทำต้องเดินทางกลับไปอยู่ภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เมื่อมีการประกาศผ่อนปรนก็ยังไม่สามารถกลับเข้ามาใน กทม.เพื่อขายของได้ ด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งการเดินทางข้ามจังหวัดและเรื่องค่าใช้จ่าย ประกอบกับลูกค้าส่วนใหญ่ระยะ หลังๆเป็นลูกค้าชาวต่างชาติร้อยละ 70 ปัจจุบันนับเป็นศูนย์ เพราะไม่สามารถเข้ามาในประเทศได้เหลือเฉพาะลูกค้าชาวไทย ที่กำลังซื้อลดน้อยลงเพราะเศรษฐกิจหยุดชะงักไปนาน ไม่ได้คาดหวังเรื่องกำไรจากการขายเพียงแต่ต้องกลับมาขายเพราะไม่ได้ทำงานมานาน อยากออกมาเจอลูกค้าบ้างมาเข้าสังคมคนในอาชีพเดียวกันเหมือนที่เคยทำมาตลอดบ้าง ปัญหาอีกอย่างคือ ตอนนี้กลางวันอากาศร้อนมาก ประกอบกับระเบียบของตลาดนัดอนุญาตให้ขายได้ถึงแค่ 6 โมงเย็นเท่านั้น

คดีเลื่อนมากสุดในประวัติศาสตร์

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม หรือ ก.ป.ศ. ที่มีนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ออกประกาศเรื่องการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ให้ศาลชั้นต้นทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณา ที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 พ.ค.นั้น พบมีคดีเลื่อนนัดพิจารณาของศาลชั้นต้นทั่วประเทศ รวม 163,620 คดี ทั้งนี้ ก.ป.ศ.ยังมีมติให้เลื่อนคดีจัดการพิเศษที่รับฟ้องใหม่ในเดือน มี.ค.-พ.ค. กำหนดวันนัดพิจารณาคดีเริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นต้นไป และศาลอาจกำหนดให้มีการพิจารณาคดีเพิ่มในช่วงนอกเวลาราชการและวันหยุดราชการ ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ทั้งนี้ นายสราวุธระบุด้วยว่าการเลื่อนพิจารณาคดีครั้งนี้ถือเป็นการเลื่อนคดีที่มีจำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์