ร้องแล้วโทษจิ๊บๆ เพียงแค่โดนย้าย
ผอ.ฝ่ายสืบสวนองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ พาผู้ปกครองและผู้เสียหายสาววัย 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนย่านคลองเตย แจ้งความจับครูสอนพละและภาษาอังกฤษ ร.ร.วัดสะพาน หลังก่อเหตุข่มขืนแฉเหยื่อ 3 ปีที่แล้วเคยถูกครูคนเดียวกันพยายามข่มขืนมาก่อน รวมทั้งทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิง 15คน โดนตั้งคณะกรรมการสอบพบผิดวินัยร้ายแรง ถูกลงโทษแค่ไม่พิจารณาขั้นเงินเดือน 2 วาระ แต่ยังได้สอนต่อ หลังจากนั้นลวงเหยื่อไปเจรจายอมความกลับบังคับข่มขืนจนสำเร็จ รองปลัด กทม.เผย รอผลสรุปอีกครั้งหากพบผิดจริงโทษให้ออกหรือไล่ออก
แจ้งจับครูข่มขืนนักเรียน เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ก.ค. นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผอ.ฝ่ายสืบสวนองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ นำ น.ส.ปุ้ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 แห่งหนึ่งย่านคลองเตย พร้อมมารดา นำผลตรวจร่างกายจาก รพ.ตำรวจ มาพบ ร.ต.ท.หญิง จิดาภา จิตติมณี รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าเรือ แจ้งความดำเนินคดีกับนายทิมทอง ปัญญาอิน ครูวิทยฐานะครูชำนาญการ สอนวิชาพละและวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดสะพาน ถนนทางรถไฟเก่าสายปากน้ำ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. หลังข่มขืน น.ส.ปุ้ม ภายในห้องลูกเสือ ชั้น 3 ของอาคารเรียน เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายรณสิทธิ์กล่าวว่า พ่อแม่ของน้องปุ้มเป็นลูกจ้างชั่วคราวดูแลฝ่ายอาคารโรงเรียนวัดสะพานและพักอาศัยอยู่ในโรงเรียน น้องปุ้มเรียนที่วัดสะพาน ตั้งแต่ ป.1 จนถึง ป.6 ก่อนถูกข่มขืนเคยถูกครูทิมทองทำอนาจารเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หรือตอนที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 อายุ 12 ปี หลังเลิกเรียนครูเรียกให้ไปช่วยทำความสะอาดในห้องเรียนโดนผลักไปนอนกับพื้นแล้วขึ้นคร่อม ถลกเสื้อนักเรียนแต่ดิ้นสู้สุดชีวิตขาไปเตะเข้าที่เป้ากางเกงจนครูจุกหนีมาได้ น้องปุ้มเล่าให้แม่ฟัง แต่ทำอะไรไม่ได้ และทราบว่ามีเพื่อนนักเรียนหญิงอีก 15 คน เคยถูกทำอนาจาร อาทิ โอบกอด จูบ หอมแก้ม เป็นต้น ผู้ปกครองของเด็กทราบเรื่องแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียน มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยพบผิดวินัยร้ายแรง แต่โทษคือไม่พิจารณาขั้นเงินเดือน 2 วาระ จากนั้นสอนอยู่ในโรงเรียนตามปกติ
...
นายรณสิทธิ์เผยอีกว่า หลังน้องปุ้มเรียนจบชั้น ป.6 ไปเรียนต่อที่โรงเรียนอื่น แต่ต้องกลับมาพักอาศัยที่โรงเรียนเดิม ผ่านไป 3 ปี มีจดหมายทางราชการมาช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ให้ไปให้การสำนักงานเขตคลองเตย จากนั้นวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครูทิมทอง พยายามขอเจรจากับน้องปุ้มแต่ถูกปฏิเสธ ก่อนจะอ้างว่านัดผู้เสียหายอีก 15 คนไว้แล้ว อยากจะคุยพร้อมกันทุกคนและเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหาร ตอนเวลา 4 ทุ่มครึ่ง เมื่อถึงเวลานัดหมาย น้องปุ้มเห็นครูกำลังยืนคุยอยู่กับญาติน้อง จากนั้นครูเดินมาหาน้องปุ้มถามหาเพื่อนๆ แต่ครูบอกว่าไม่มีใครมาแล้ว และบอกว่าขออนุญาตแม่และญาติแล้วจะพาไปเที่ยว เมื่อสักครู่ที่ยืนคุยกันจึงหลงเชื่อ จากนั้นครูพาไปร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งนั่งกินข้าว ก่อนครูจะดื่มเบียร์ไป 4 ขวด และชวนให้ดื่มด้วยแต่น้องปฏิเสธและเริ่มพูดคุยขอให้ให้การช่วยครูเรื่องการทำอนาจารเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ก็ปฏิเสธ
“เมื่อกลับมาถึงโรงเรียนครูทิมทองใช้น้องปุ้มไปเปิดห้องลูกเสือที่อยู่ชั้น 3 ของอาคาร เพื่อจะเจรจาอีกครั้ง ก่อนนั่งคุยชั่วครู่ผลักน้องปุ้มล้มไปพร้อมกับเก้าอี้นอนลงที่พื้นขึ้นคร่อม แต่ครั้งนี้ดิ้นรนขัดขืนไม่ได้ ถูกข่มขืนและครูปลอบใจว่าไม่ได้ตั้งใจ สั่งอย่าไปบอกใคร พร้อมให้เงิน 100 บาท ไปซื้อข้าวที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นให้ น้องปุ้มรับปากจะไปซื้อให้ แต่ขอให้ครูรออยู่ในห้อง จากนั้นน้องถือโทรศัพท์วิ่งออกมาแล้วโทร.ตามให้คนมาช่วย ต่อมาพ่อแม่พี่ชายและเพื่อนพี่ชายมาถึงในเวลาไม่กี่นาที รวมทั้งเจ้าหน้าที่เวรของโรงเรียน 2 คน และตำรวจ สน.ท่าเรือ อีก 2 นาย แต่พบว่าครูหลบหนีไปแล้วและติดตามตัวมาได้ภายหลัง ตำรวจแจ้งข้อหาข่มขืนกับครูทันทีคงไม่ได้เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ตำรวจแจ้งข้อหาแค่เมาสุราและก่อความวุ่นวาย ส่งตัวน้องปุ้มไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ เมื่อต้นเดือน ก.ค. ผลการตรวจร่างกายออกมาว่ามีร่องรอยการฉีกขาดที่อวัยวะเพศ เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดบางส่วน และทราบภายหลังว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค. มีคำสั่งให้ครูทิมทองย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตคลองเตย ฝ่ายการศึกษา” นายรณสิทธิ์กล่าว
นายรณสิทธิ์กล่าวต่ออีกว่า พาน้องปุ้มเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีต่อครูทิมทอง โดยมีสหวิชาชีพ อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ พนักงานสอบสวน และครอบครัว ร่วมสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดี 4 ข้อหาหนัก ได้แก่ 1.พรากผู้เยาว์ 2.ข่มขืนกระทำชำเรา 3.อนาจาร 4.ทำร้ายร่างกาย แก่ครูทิมทอง หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ด้านมารดาน้องปุ้มกล่าวสั้นๆว่า ทุกอย่างให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม สภาพจิตใจของน้องดีขึ้นแต่ต้องให้เวลาที่ศาลาว่าการ กทม. นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัด กทม. เปิดเผยถึงกรณีครูโรงเรียนวัดสะพาน สังกัด กทม. ถูกกล่าวหาข่มขืน และกระทำอนาจารเด็กนักเรียนในโรงเรียนว่า ผอ.เขตคลองเตยได้รายงานเบื้องต้นว่า โรงเรียนดังกล่าวเปิดสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ครูที่ถูกล่าวหาอายุ 26 ปี เป็นครูประจำชั้น ป.3 สอนวิชาพละและภาษาอังกฤษ ขณะที่ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 15 ปี จบการศึกษา จากโรงเรียนมา 3 ปีแล้ว และทราบว่าเป็นบุตรของนักการภารโรงที่โรงเรียนแห่งนี้ บางครั้งไปช่วยป้า หรือญาติขายของข้างนอก และกลับมาพักภายในโรงเรียน
ทั้งนี้ จากข้อมูล เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2561 ต่อมาช่วงเช้าวันเดียวกันผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สน.ท่าเรือ และไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย.2561 สำนักงาน เขตคลองเตย ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และสอบสวนความผิดทางวินัย วางกรอบการสอบสวนหาข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน ปัจจุบันผลการสอบสวนยังไม่สรุปอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้สำนักงานเขตคลองเตยมีคำสั่งลงวันที่ 15 มิ.ย.2561 ให้ครูคนดังกล่าวไปช่วยงานฝ่ายการศึกษา สำนักงานเขตคลองเตย จนกว่าผลการ สอบสวนจะปรากฏชัดเจน สำหรับแนวทางการพิจารณาหากพบว่ามีความผิดจริง เป็นความผิดวินัยร้ายแรงบทลงโทษคือให้ออกหรือไล่ออก
...