ตร.รวบหลานชายอำมหิตฆ่าน้าชายดับอนาถคาห้องน้ำบ้านเช่าย่านบางมด พาพ่อป่วยเป็นอัมพาตมาขออาศัยบ้านผู้ตายอยู่ด้วยเพียงแค่ 7 วัน แต่เครียดขาดยารักษาอาการทางจิต ประกอบกับโมโหน้าเปิดทีวีเล่นโทรศัพท์และไอเสียงดังรบกวนพ่อไม่ได้พักผ่อน เข้าชกต่อยจับหัวโขกพื้นหลายครั้งจนตาย

หลานโมโหน้าทำร้ายดับอนาถ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.ดุสิต น้อยนาค รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเช่าเลขที่ 43/485 ถนนพระราม 2 ซอย 9 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.บางมด พ.ต.ต.พัฐกร ปิยธิติภูวดล สว.สส.สน.บางมด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราชและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวสูง 2 ชั้น ปลูกเรียงติดกันหลายคูหา จากการตรวจสอบภายในห้องน้ำบริเวณชั้น 1 พบศพนายโอภาส กาญจนเกรียงไกร อายุ 62 ปี ผู้พักอาศัย สภาพนอนตะแคงคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลฟกช้ำบวมปูดทั่วใบหน้า ศีรษะแตก และกระดูกซี่โครงหักหลายท่อน แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกายมาแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหนเดินวนเวียนอยู่ภายในบ้านชื่อ นายกิตติพงศ์ ศุภศักดิ์ธำรง อายุ 38 ปี หลานผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวให้การวกวนไปมาว่า ผู้ตายเป็นน้า ตนและบิดาเพิ่งเข้ามาขออาศัยอยู่กับผู้ตายได้ประมาณ 7 วัน เนื่องจากบิดาป่วยเป็นอัมพาต ส่วนตนมีอาการป่วยทางจิตรักษาตัวอยู่ที่สถาบันจิตเวชศาสตร์ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ประมาณ 5 ปี ก่อนเกิดเหตุเกิดความเครียดเพราะไม่ได้กินยามาหลายวันแล้ว ประกอบกับผู้ตายชอบเปิดโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์เสียงดัง แถมยังไอเสียงดังตลอดเวลา ได้เข้าไปชกต่อยผู้ตายและจับศีรษะโขกกับพื้นหลายครั้งจนแน่นิ่งไป

...

ขณะที่ น.ส.วาสนา กาญจนเกรียงไกร อายุ 29 ปี บุตรสาวนายโอภาสผู้ตายเล่าทั้งน้ำตาว่า ปกติบ้านเช่าหลังนี้ อาศัยอยู่รวมกันทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วยตนบิดาและพี่ชาย เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกิตติพงศ์ได้พาบิดาที่ป่วยเป็นโรคอัมพาตมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยเพื่อรักษาตัวที่ รพ.ตากสิน

เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน พวกตนเห็นเป็นญาติกันจึงอนุญาตให้อยู่ กระทั่งก่อนเกิดเหตุ ตนเดินทางกลับจากทำงานมาถึงบ้านพบว่าประตูเหล็กบานเลื่อนถูกล็อกจากด้านใน จึงตะโกนเรียกนานกว่า 30 นาที ก่อนที่นายกิตติพงศ์จะออกมาเปิดประตูให้ พร้อมทั้งพูดว่า “ขอโทษ ไปดูพ่อเถอะ นอนอยู่ในห้องน้ำ” กระทั่งพบว่าพ่อโดนทำร้ายร่างกายจนเขียวคล้ำไปทั้งตัวและซี่โครงหัก รีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.อ.มานพเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่มาขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านผู้ตาย อ้างว่า ตนมีอาการทางจิตและคับแค้นใจที่ผู้ตายมักเปิดโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์เสียงดังเกรงว่าพ่อซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคอัมพาตจะไม่ได้พักผ่อน จึงมีปากเสียงกันประจำ กระทั่งมาเกิดเหตุสลด อย่างไรก็ตาม สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แก่นายกิตติพงศ์เอาไว้ก่อน ส่วนคำกล่าวอ้างว่า มีประวัติรักษาอาการทางจิตนั้น จะประสานญาติพี่น้องให้นำหลักฐานมายืนยันเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป