หลานชายอ้างป่วยทางจิต เพิ่งพาพ่อป่วยอัมพาต มาขออาศัยอยู่กับลุง โมโหทำร้ายร่างกายผู้มีพระคุณดับคาห้องน้ำ ฉุนเปิดโทรทัศน์-เล่นโทรศัพท์ เสียงดัง ลูกสาวเหยื่อกลับมา ยังเดินนิ่งมาขอโทษ และให้ไปดูพ่อ นอนอยู่ในห้องน้ำ...

เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.ดุสิต น้อยนาค รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังหนึ่ง พระราม 2 ซอย 9 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.บางมด พ.ต.ต.พัฐกร ปิยธิติภูวดล สว.สส.สน.บางมด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวสูง 2 ชั้น จากการตรวจสอบภายในห้องน้ำบริเวณชั้นที่ 1 ของบ้านหลังดังกล่าว พบศพ นายโอภาส กาญจนเกรียงไกร อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นผู้พักอาศัย และเป็นผู้เช่า อยู่ในสภาพนอนตะแคงคว่ำหน้า มีบาดแผลฟกช้ำบวมปูดทั่วใบหน้า ศีรษะแตก และกระดูกซี่โครงหักหลายท่อน แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว ไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน เดินวนเวียนอยู่ภายในบ้าน ทราบชื่อ นายกิตติพงศ์ ศุภศักดิ์ธำรง อายุ 38 ปี มีความสัมพันธ์เป็นหลานผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้ จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวให้การวกวนไปมา ว่า ตน และบิดา ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยผู้ตาย เพิ่งเข้ามาขออาศัยอยู่กับผู้ตายได้ประมาณ 7 วัน เนื่องจากบิดาตนป่วยเป็นอัมพาต ส่วนตนนั้นมีอาการป่วยทางจิต รักษาตัวอยู่ที่สถาบันจิตเวชศาสตร์ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา มาได้ประมาณ 5 ปี โดยก่อนเกิดเหตุนั้น ตนเกิดความเครียด เพราะขาดยามาหลายวันแล้ว ประกอบกับผู้ตายชอบเปิดโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์เสียงดัง แถมยังไอเสียงดังตลอดเวลา จึงเข้าไปชกต่อยผู้ตาย และจับศีรษะโขกกับพื้นหลายครั้งจนแน่นิ่งไป

...

ขณะที่ น.ส.วาสนา กาญจนเกรียงไกร อายุ 29 ปี บุตรสาว นายโอภาส ผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ปกติบ้านเช่าหลังนี้ อาศัยอยู่รวมกันทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วยตน บิดา และพี่ชาย จนเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกิตติพงศ์ ได้พาบิดาที่ป่วยเป็นโรคอัมพาต มาขอพักอาศัยอยู่ด้วย พวกตนเห็นเป็นญาติกัน จึงอนุญาตให้อยู่ กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนเดินทางกลับจากทำงานมาถึงบ้าน พบว่า ประตูเหล็กบานเลื่อนถูกล็อกจากด้านใน จึงตะโกนเรียกนานกว่า 30 นาที ก่อนที่ นายกิตติพงศ์ จะออกมาเปิดประตูให้พร้อมทั้งพูดว่า “ขอโทษ ไปดูพ่อเถอะ นอนอยู่ในห้องน้ำ” กระทั่งพบว่า พ่อตนโดนทำร้ายร่างกาย จนเขียวคล้ำไปทั้งตัว และซี่โครงหัก จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.อ.มานพ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่มาขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านผู้ตาย อ้างว่า ตนเองมีอาการทางจิต และคับแค้นใจที่ ผู้ตายมักเปิดโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์เสียงดัง เกรงว่าพ่อซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคอัมพาต จะไม่ได้พักผ่อน จึงมีปากเสียงกันประจำกระทั่งมาเกิดเหตุสลด อย่างไรก็ตามจะสั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แก่ นายกิตติพงศ์ เอาไว้ก่อน ส่วนคำกล่าวอ้างว่า ตัวเองมีประวัติรักษาอาการทางจิตนั้น จะประสานญาติพี่น้องให้นำหลักฐานมายืนยันเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.