เหยื่อเฒ่าชาวผู้ดี กวาดร่วมครึ่งล. เชื่อทําหลายราย

สืบ 5 ตามล็อกโจรเมืองผู้ดี วางแผนจับที่ปรึกษาบริษัทก่อสร้างประเทศฝรั่งเศส ชาติเดียวกันมัดมือเท้าปิดตารีดรหัสเอทีเอ็ม บังคับดื่มน้ำจนสลบคาห้องโรงแรมหรูห้าดาวย่านสุขุมวิท กวาดทรัพย์ครึ่งล้าน ตำรวจตะครุบตัวได้ขณะหาเหยื่อที่ล็อบบี้โรงแรมย่านซอยนานา เชื่อทำมาแล้วหลายรายแต่เหยื่อไม่แจ้งความ

ตำรวจไทยจับโจรเมืองผู้ดีสะกดรอยชิงทรัพย์ เหยื่อชาติเดียวกันรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ก.พ. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.ลุมพินี ร่วมแถลงจับกุมนายจอห์น เลน อายุ 67 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.99/2561 ลงวันที่ 15 ก.พ.61 ข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนและเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยใบอนุญาตสิ้นสุด พร้อมของกลางนาฬิกายี่ห้อพันนาราย 1 เรือน ปากกามองต์บลังค์ 2 ด้าม เงินสกุลแอฟริกาใต้ 800 แรนด์ คิดเป็นเงินไทย 2,144 บาท เสื้อเชิ้ตสีฟ้า 1 ตัว และเชือกสีน้ำตาล 1 เส้นที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมได้ที่ปากซอยสุขุมวิท 4 (ซอยนานา) ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กทม. วันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 12 ก.พ. นายไมเคิล จอห์น ทราเวิร์ส อายุ 69 ปี สัญชาติอังกฤษ ที่ปรึกษาบริษัท ก่อสร้างแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เข้าแจ้งตำรวจ สน.ลุมพินี ว่า ถูกคนร้ายจับมัดชิงทรัพย์สินไปจำนวนมาก เหตุเกิดในห้องพักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ย่านสุขุมวิท สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายไมเคิลนั่งดูการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ล็อบบี้โรงแรม ก่อนขึ้นลิฟต์กลับห้องพักเลขที่ 2515 ชั้น 25 ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ เดินตามไปถึงห้องพัก ผลักนายไมเคิลเข้าไปในห้องล็อกคอใช้เชือกมัดมือสองข้าง แล้วใช้หน้ากากอนามัยปิดตา จากนั้นรื้อค้นทรัพย์สินเป็นนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อพันนารายราคา 2 แสนบาท ปากกายี่ห้อมองต์บลังค์ 2 ด้าม ราคา 6 หมื่นบาท เงินสดและทรัพย์สินอื่นรวม 19 รายการ รวม 440,781 บาท บังคับให้นายไมเคิลบอกรหัสเอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อนบังคับให้ดื่มน้ำผสมยาจนสลบไป ต่อมาชุดสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกับ กก.สส.บก.น.5 และตำรวจท่องเที่ยว ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดขอศาลออกหมายจับตามภาพ สืบสวนจนได้เบาะแสคนร้ายจะหาเหยื่อย่านซอยนานา จึงไปดักจับกุมได้

...

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างเคยทำงานเป็นวิศวกรในประเทศกาตาร์จนเกษียณ มาอยู่ในประเทศไทยได้ 40 ปี มีภรรยาชาวไทยพักอยู่แถวหาดบางแสน จ.ชลบุรี ไม่รู้จักกับผู้เสียหาย เงินที่กดจากบัตรเอทีเอ็มนั้นผู้เสียหายให้บัตรไปกดเงินเอง ส่วนเชือกรองเท้าของกลางมีไว้ใช้ป้องกันตัว เชื่อว่าทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง พฤติกรรมจะนั่งดูเหยื่อตามล็อบบี้โรงแรมหรูเน้นเฉพาะคนต่างชาติเพราะเหยื่อไม่ค่อยแจ้งความ พอสบโอกาสจะสะกดรอยเดินตามขึ้นไปบนห้องปล่อยให้เหยื่อไขกุญแจ ก่อนล็อกคอลากเข้าห้องใช้เชือกมัดมือเท้า บังคับให้ดื่มน้ำจนสลบแล้วรื้อค้นทรัพย์สินหลบหนีไป ฝากถึงผู้ประกอบการโรงแรมทุกที่ ถ้ามีเหตุขอให้รีบแจ้งตำรวจทันที อย่าเก็บไว้ หรือมองว่าเป็นเรื่องเสียหายของโรงแรม ไม่ต้องกลัวเสียชื่อเสียงเราต้องร่วมมือกัน

ด้านนายไมเคิล เหยื่อโจรที่มายืนดูการแถลงข่าว กล่าวขอขอบพระคุณตำรวจไทยที่จับคนร้ายได้ รู้สึกตื้นตันจนบอกไม่ถูกได้ปากกายี่ห้อมองต์บลังค์ที่ลูกสาวตนมอบให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาส แม้มูลค่าไม่มาก แต่ถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจมาก