“จอนนี่ มือปราบ” โร่แจ้งกลับทันควัน อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ และเจ้าหน้าที่รวม 3 ราย ความผิด ม.157-หมิ่นประมาท พร้อมโพสต์โต้เดือด ผิดก็มารื้อได้นักเลงพอ หลังถูกนิติกรกรมพัฒนาสังคมฯหอบหลักฐานแจ้งตำรวจ ปทส.ตรวจสอบรีสอร์ตสร้างรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ด้านอธิบดีแฉหลังตรวจพบบุกรุกปลายปี 64 ได้เจรจาประนีประนอมแต่อีกฝ่ายไม่ร่วมมือ ซ้ำยังข่มขู่ลูกปืนราคาไม่แพงอีก ขณะที่ ผบก.ปทส. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย“จอนนี่ มือปราบ” เดือดโดนรัฐร้องสร้างรีสอร์ตรุกที่นิคม โดยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ผู้รับมอบอำนาจจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.วัชรินทร์ ฟูสิทธิ์ ผบก.ปทส. ให้ตรวจสอบรีสอร์ตของ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ อดีต ผบ.หมู่ กก.สส.บก.ภ.จ.อุบลราชธานี หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง สร้างรีสอร์ตรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานีนายวัชระ โกเสนตอ เผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ เริ่มก่อสร้างรีสอร์ตเมื่อปี 2564 ทั้งนี้ กรมได้ลงบันทึกประจำวันพร้อมมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการสร้างรีสอร์ตตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ตไม่ให้ความร่วมมือ ซ้ำยังโวยวาย ข่มขู่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปในรีสอร์ตนายวัชระกล่าวว่า นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯชัดเจน เนื้อที่ 24,675 ไร่มีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนมีเคหสถาน และประกอบอาชีพที่มั่นคง การเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมต้องได้รับอนุญาตก่อน หรือแม้แต่จะนำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิในที่ดินใดๆ ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการก่อนเช่นกันจึงจะนำหนังสืออนุญาตไปขอออกเอกสารสิทธิได้ แต่จากการตรวจสอบ กรมไม่เคยให้อนุญาตใดๆกับบุคคลดังกล่าว ดังนั้น ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิหรือโฉนดที่ดินใดๆได้อย่างถูกต้องแน่นอนและเมื่อไม่มีเอกสารสิทธิหรือโฉนดทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าวซื้อที่ดินมาได้อย่างไร เพราะยังไม่เห็นหนังสือซื้อขายด้าน พล.ต.ต.วัชรินทร์ ฟูสิทธิ์ ผบก.ปทส.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี “จอนนี่ มือปราบ” ข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าที่ถูกกันไว้ 20% ของนิคมลำโดมน้อย ตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามมาตรา 15 จากนี้ บก.ปทส. จะไปตรวจสอบกับกรมพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเคยมีการร้องทุกข์เป็นคดีไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้ามีแล้ว ตำรวจ บก.ปทส.จะ ขอสำนวนมาสอบสวน แต่ถ้ายังไม่เคย บก.ปทส.จะรับสอบสวนพร้อมลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันทีว่าเป็นพื้นที่บุกรุกจำนวนเท่าใด ก่อสร้างอะไรไปบ้างหรือกระทำผิดกฎหมายใด จะต้องสืบสวนไปตั้งแต่ต้นว่าพื้นที่ตรงนี้เริ่มต้นจากอะไร มีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศที่จะทำให้ทราบว่าเริ่มมีการรุกล้ำที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ รวมถึงต้องสอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ด้วยผบก.ปทส.กล่าวอีกว่า ส่วน “จอนนี่ มือปราบ” ต้องเรียกสอบปากคำด้วย วันที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ หากอยากจะชี้แจงพร้อมจะรับฟัง แต่หากไม่ให้ความร่วมมือจะต้องใช้หมายค้นเข้าตรวจสอบ หรือ วันนี้สามารถส่งหนังสือหรือเข้ามาพบเพื่อชี้แจงมาก่อนได้ ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความยุติธรรมและรับฟังทั้ง 2 ฝ่ายบ่ายวันเดียวกัน นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) เผยว่า กรณีดังกล่าวตรวจพบเมื่อปลายปี 2564 ว่า ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ รุกล้ำปลูกสร้างอาคารทำรีสอร์ตในที่ดินนิคมฯ ที่เป็นพื้นที่สงวนไว้สำหรับป่าไม้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ นิคมฯชี้แจงทำความเข้าใจให้รื้อถอนโดยเจรจาประนีประนอมตั้งแต่ตรวจพบแต่ไม่ยอมปฏิบัติตาม กระทั่งปี 2565 นิคมฯมีหนังสือชี้แจงถึง ผวจ.และแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ท้องที่แต่ยังไม่ปฏิบัติตาม ยังข่มขู่เจ้าหน้าที่ นิคมฯ ด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงขั้นขู่ว่าลูกปืนราคาไม่แพง เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินเลยและหวั่นเกรงในความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่นิคมฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จึงมอบอำนาจให้นิติกรไปแจ้งความดำเนินคดี ทราบว่าเจ้าตัวไม่พอใจโพสต์ข้อความต่างๆผ่านเพจ ทั้งทราบว่าจะฟ้องร้องกลับ ก็ว่ากัน ไปตามกระบวนการกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้ประกอบการต่างๆ ที่บุกรุกที่ในนิคมฯโดยมิชอบด้วยกฎหมายพื้นที่ต่างๆอีกกว่า 10 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินคดี และอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายอื่นๆเช่นกันช่วงบ่ายวันเดียวกัน ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ “จอนนี่ มือปราบ” เดินทางไปที่ สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี แจ้งความดำเนินคดีกับนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการนายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ และนางจันที สมนา ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ข้อหาหมิ่นประมาทและมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเลือกปฏิบัติทั้งนี้ จอนนี่ มือปราบ ได้ตอบโต้เรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อบัญชีตะลึงกรุง จอนนี่มือปราบอย่างดุเดือดโดยสรุปว่า ร้องตรวจสอบรีสอร์ตตน ยินดีมากๆ หากรีสอร์ตผิดก็รื้อได้เลย ตนนักเลงพอ เชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ประกอบการแบบถูกต้องทุกอย่าง มีคนพาทำก่อนถึงไปลงทุน ตนไม่โง่ที่จะไปบุกรุกที่ดินขนาดนั้น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ก็รับรองถูกต้อง ที่ดินซื้อขายตกทอดมาถึงตนเป็นเจ้าที่ 8 ด้วยซ้ำ เพียงแต่รัฐไม่เคยคิดจะออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านนี่คือปัญหาหลัก เพราะบ้าน วัด โรงเรียน ตั้งมาก่อนกรมของคุณ ตนถูกตรวจสอบมานานมาก ตอนรับราชการโดนจนเบื่อเรื่องนี้อยากตอบโต้มานานมาก นายบอกนิ่งไว้จอนนี่ เจ้าหน้าที่ระดับล่างพวกคุณเขาหาทางออกให้ชาวบ้านกันไม่ได้ เพราะชาวบ้านเขาอยู่กันถูกต้อง ไฟฟ้า น้ำประปา ถนนหนทางเขาก็ทำถนนมาให้ชาวบ้านวัด โรงเรียนตั้งข้างรีสอร์ต มีประกอบการแพล่องอีกมากมาย ภาษีเขาจ่ายกันถูกต้อง เขาอยู่มาแต่บรรพบุรุษก่อนกรมของคุณจัดตั้งขึ้น ที่พอคุณจัดตั้งกรม มาเขียนประกาศระวางการควบคุมทับเอาที่บ้านเรือนสวนไร่นา เอาที่ดินของชาวบ้านไปออกประกาศ เพื่อจะเรียกชาวบ้านมาจ่ายเงินให้กับหน่วยงานของคุณโพสต์จอนนี่เผยอีกว่า หากจะตรวจให้ตรวจทุกๆรีสอร์ตที่ตั้งมาก่อนตนด้วย รวมทั้งบ้านเรือนชาวบ้าน รวมหมู่บ้านอื่นๆที่เขาอยู่มาก่อน หากเป็นข้าราชการที่ดีควรหาทางออกให้กับชาวบ้าน เกือบทั้งอำเภอชาวบ้านไม่มีเอกสารสิทธิกันทั้งนั้น ทั้งๆแผ่นดินประเทศเดียวกัน บางที่ดินออกโฉนดได้ บางที่แค่ตรงข้ามถนนหรือที่ดินติดกันเลย แต่ออกโฉนดเอกสารสิทธิไม่ได้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่