“งานของผู้ใหญ่”...ชั่วร้าย กว่าฮั้วประมูล ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ฟันธง เพราะโครงการที่ว่าล็อกตัวผู้รับเหมาได้ หรือนำไปเร่ขายต่อเป็นทอดๆเรื่องแบบนี้...“ข้าราชการ” รู้กันบ้างไหม? ว่ากันตามเสียงสะท้อนจากความเป็นจริงที่ทำๆกันอยู่ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมายและเป็นที่รับรู้ทั่วไปของคนค้าขายในวงการ โดยทั่วไป “ผู้รับเหมา” จะไม่ยุ่งกับงานที่เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นงานของผู้ใหญ่ และการเร่ขายงานเหล่านี้จะมีผู้รับเหมาซื้องานไป...ด้วยหวังจะได้กำไรงามสุดท้าย...เจ๊ง เพราะต้นทุนสูงจากค่านายหน้าที่บวกๆกันไว้... แล้วโครงการสร้างไม่เสร็จ หากจะจำแนกแยกพฤติกรรมหลักที่ทำให้เกิดงานของผู้ใหญ่ จะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก...โครงการที่ข้าราชการนำไป “บรรณาการ” ให้นักการเมืองหรือคนมีสีตำแหน่งใหญ่ที่มีโอกาสให้คุณให้โทษแก่พวกตนได้ เพื่อเป็นการตอบแทนหรือผูกมิตรสร้างพันธสัญญาว่าจะให้การดูแล ช่วยเหลือหรือส่งข่าว หากมีเรื่องร้องเรียนหรือข่าวฉาวโฉ่ โควตานี้ผู้รับไปจะนำไปขายเองหรือให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้แล้วรอกินเปอร์เซ็นต์ก็ได้พฤติกรรมเช่นนี้เห็นได้มากใน 5 กรมที่มีงบประมาณสร้างถนนและเขื่อนริมน้ำจำนวนมากในแต่ละปี เพราะเขาสามารถควบคุมผู้รับเหมาชั้นหนึ่งและชั้นพิเศษได้ง่ายกลุ่มที่สอง...งานที่นักการเมืองหรือข้าราชการตำแหน่งใหญ่ เป็นผู้ปลุกปั้นวางแผนโครงการ วิ่งงบ วิ่งขออนุมัติโครงการเอง โครงการมักถูกออกแบบให้รวบการจัดซื้อจัดจ้างเป็นก้อนใหญ่ แม้จะแยกดำเนินการได้ เพื่อสะดวกและปลอดภัยในการเรียกรับสินบนก้อนโตจากเอกชนรายเดียวหรือน้อยรายซึ่งมักเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องก่อสร้างในหลายจังหวัด หรือจัดซื้อแล้วจัดส่งกระจายไปให้หน่วยงานจำนวนมากตัวอย่างที่ชัดเจนคือคดีทุจริตก่อสร้างโรงพักตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศที่กำหนดให้ผู้รับเหมารายเดียวได้งานทั้งหมดไป ทั้งที่รู้ดีว่าเขาไม่มีทางทำได้แน่นอนผู้รับเหมาย่อมต้องขายงานไปให้ผู้รับเหมาอื่นโดยปริยายกลุ่มที่สาม...งานที่เอกชนวิ่งขายงานกันเอง แยกเป็นกรณีเอกชนที่ “ได้งานแล้ว” จึงเอางานไปเร่ขายงานกินส่วนต่าง 5-10% รูปแบบนี้ผู้ซื้องานต้องทำงานในนามของผู้รับงานจากรัฐ (ผู้ขายงาน) หรือนอมินี อีกกรณีคือ เอกชน “ยังไม่ได้งาน” แต่ได้ตกลงกับผู้มีอำนาจในหน่วยงานรัฐแล้ว จึงเอาโควตานี้ออกเร่ขาย หากใครซื้องานไปก็ต้องมาร่วมกันวางแผนเขียนทีโออาร์เพื่อล็อกสเปก...ฮั้วประมูลต่อไป โดยผู้ซื้องานต้องจัดหาบริษัทคู่เทียบมาร่วมยื่นซองประมูลเอาเอง ในวงการเรียกงานพวกนี้ว่า “งานมีเจ้าของ”องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ชวนประชาชนเฝ้าระวังจับตาการ “คอร์รัปชัน” ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมรับมือแต่เนิ่นๆ ทั้ง อบจ.และเทศบาลรวมกันกว่า 2,500 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงบริหารงาน พุ่งเป้าหมายสูงสุดมุ่งหวังเห็นโครงการรัฐไม่ถูกทิ้งร้าง...สร้างไม่เสร็จผลาญเงินภาษีประชาชนดร.มานะ ย้ำว่า พฤติกรรมโกงกินและไร้รับผิดชอบของผู้มีอำนาจ ทำให้เกิดอาคารราชการทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นของหน่วยงานเดิมๆ แม้จะมาจากหลายหน่วยงานแต่กลับมีรูปแบบเหมือนกัน เช่น ศูนย์โอทอป ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์การเรียนรู้ ประปาหมู่บ้าน โรงน้ำดื่มประชารัฐ ฯลฯทุกวันนี้...ยังไม่มีใครตอบได้ว่า ทั่วประเทศมีโครงการเน่าๆ อยู่มากน้อยแค่ไหน มูลค่ารวมกันมากแค่ไหน?อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าโครงการทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จที่กระจายทั่วประเทศจำนวนไม่น้อยเป็นโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทำด้วยงบประมาณของตนเอง หรือเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น น้ำประปาชุมชน เตาเผาขยะ โรงปั่นไฟฟ้า ฯลฯ โครงการพวกนี้จะคล้ายๆกับที่ อปท.อื่นในย่านใกล้เคียงทำกันอาจเพราะต้องการให้มีผลงานไม่น้อยหน้าที่อื่น หรือถูกโน้มน้าว กดดัน จาก “เครือข่าย” ข้าราชการระดับสูง พ่อค้า นักการเมืองและ ผู้มีอิทธิพล ที่เตรียมแผนการจัดซื้อและจ่ายเงินทอนทุกอย่างมาให้แล้ว ขณะที่อีกกลุ่มจะมีความซับซ้อนกว่ามาก เป็นโครงการของหน่วยงานจากส่วนกลางที่คิดขึ้นเอง เขียนโครงการ จัดหางบประมาณ หาผู้รับเหมาก่อสร้างให้ โดยอ้างว่าทำไปเพื่อสนับสนุนหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมี อปท.เป็นเป้าหมายเช่นกัน เช่น โครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง โครงการสนามกีฬา 31 แห่งน่าสนใจว่าโครงการเหล่านี้กระจัดกระจายหลายจังหวัด และมีบ้างที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ เช่น อควาเรียมหอยสังข์ที่สงขลา มูลค่า 1,400 ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้โครงการประเภททิ้งร้างสร้างไม่เสร็จเกิดขึ้นจาก...คอร์รัปชันและผลประโยชน์ทับซ้อนตอกย้ำพฤติกรรมที่ชั่วร้ายกว่าฮั้วประมูลคือ งานที่ถูกระบุว่าเป็น “งานของผู้ใหญ่” เพราะล็อกตัวผู้รับเหมาได้ หรือนำไปเร่ขายผ่าน “นายหน้า” เพื่อกินส่วนต่าง 3–10% ก็ได้เมื่อมีผู้รับเหมาซื้องานไปด้วยหวังจะได้กำไรงาม แต่หากไม่สามารถลักสเปก ลดเนื้องานได้ตามต้องการ สุดท้ายก็เจ๊งเพราะต้นทุนสูงจากค่านายหน้าที่บวกๆกันไป ทำให้โครงการนั้นสร้างไม่เสร็จถัดมา...คือ ความมักง่าย เพราะหน่วยงานส่วนกลาง เจ้าของงบประมาณ...โครงการ ทำไปโดย “ไม่สอบถาม” ความต้องการ หรือ “ไม่ศึกษา” ความเหมาะสมก่อน ส่งผลให้หลายพื้นที่ไม่ยอมรับโอนโครงการ เพราะไม่อยากได้ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ทำเลไม่ดี ห่างไกลชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวไม่คุ้มค่าที่ผ่านมาเรื่องร้องเรียนถึง ป.ป.ช.ประมาณร้อยละ 40 เป็นเรื่องเกี่ยวกับ อปท.และมีงานวิจัยระบุว่า คนใน อปท.ร้อยละ 21.6 ยืนยันว่า เคยพบเห็นการทุจริตในหน่วยงานของตน โดยในจำนวนนี้ มีเพียงร้อยละ 4 เท่านั้นที่ทำเรื่องร้องเรียน และนี่เป็นเหตุผลที่เชิญชวนประชาชนมาร่วมกันทำหน้าที่ตรวจสอบและติดตาม“สรุปคือ...ประเทศไทยไม่ได้ยากจน เห็นได้จากมีแหล่งทุนที่กำเงินไปลงทุนมากมาย แต่สุดท้ายคอร์รัปชันได้ผลาญทรัพยากรชาติ ทำลายความรู้สึกและอนาคตประชาชนไปอย่างไร้ยางอาย”­­­­­­­­­.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม