กลางปี 2567 ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพิจิตร 3 คนออกพบปะชาวบ้านในพื้นที่ชุมชน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีรายได้น้อย อ้างว่าทำเอกสารขอสิทธิรับเงินหรือสิ่งของ

ช่วยเหลือจากทางราชการให้

เจ้าหน้าที่อ้างต้องการขอเอกสารบัตรประชาชน บัญชีธนาคาร ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันทำเอกสารปลอม ตัดต่อภาพใบหน้าบัตรประชาชนใส่เครื่องแบบ ออกหนังสือรับรองเงินเดือนว่าเป็นพนักงานข้าราชการ

ปลอมรายการเดินบัญชีของกลุ่มชาวบ้านว่ามีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นบาท และทำการส่งข้อมูลไปยังธนาคารเพื่อขออนุมัติบัตรสินเชื่อเงินสด บัตรเครดิต เมื่อได้รับการอนุมัติบัตรให้ส่งบัตรกดเงินสดเหยื่อมาที่เทศบาล

นำบัตรกดเงินสดใช้ส่วนตัว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และ ธนาคารกสิกรไทย ตรวจพบว่า กลุ่มลูกค้าที่มีสถานที่ทำงานอยู่ในสำนักงานเทศบาลเดียวกันพื้นที่ จ.พิจิตร จำนวน 40 ราย เข้ามายื่นขอสมัครสินเชื่อบัตรกดเงินสด

พบข้อพิรุธว่าอาจมีการทุจริต ตรวจสอบพบว่าผู้ที่ขอสินเชื่อส่วนใหญ่ เป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ไม่ได้เป็นผู้สมัครสินเชื่อจริง แจ้งความที่ บก.ป. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช สว.กก.4 บก.ป. ลงพื้นที่สืบสวนพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุตั้งแต่ปี 2567

เมื่อได้บัตรเครดิตจากธนาคารส่งมาให้กลุ่มผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพิจิตร นำไปกดเงินสดออกมาเต็มวงเงินของบัตรที่ได้รับอนุมัติวงเงินของธนาคาร ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

กลุ่มคนร้ายป้องกันไม่ให้ธนาคารตรวจจับความผิดปกติบัญชี ใช้วิธีชำระหนี้อัตราขั้นต่ำเพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบจากธนาคาร น.ส.นุชรีย์รับสารภาพว่า ต้องการหาเงินไปใช้หนี้นอกระบบ และเล่นพนันหวยออนไลน์

...

เป็นภัยสังคมที่เกิดขึ้นไม่เว้นคนพิการ.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม