วางแผนป้องกัน 2 ผู้ต้องหาคดี อาคาร สตง.ถล่มที่เหลือเผ่นหนีออกนอกประเทศ แจกหมายจับไปให้ ด่านทั่วประเทศคุมเข้ม หวั่นผวาคำสั่งศาลไม่ให้ประกันตัว 14 ผู้ต้องหา ลอตแรก ตัดสินใจเผ่นหนี ส่วนผู้ต้องหาลอตสองอยู่ระหว่างคณะพนักงานสอบสวนนครบาลตรวจสอบข้อมูล โดยเฉพาะหลังพบข้อมูลการเบิกจ่ายเงินให้ผู้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 900 ล้านบาท ทั้งที่งานก่อสร้างคืบหน้าไปเพียง 30-40 เปอร์เซ็นต์ ด้านกรมราชทัณฑ์แจง “เปรมชัย” และผู้ต้องหาสูงอายุอีกคน ยังอยู่ในแดนพยาบาลเรือนจำ ไม่ได้ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์แต่อย่างใด
กรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มี.ค. การรื้อซากเพิ่งเสร็จสิ้น ขณะที่การสืบสวนสาเหตุการถล่มโดย 2 หน่วยงาน ประกอบด้วยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ล่าสุดคณะพนักงานสอบสวน บช.น. ขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวม 17 คน เข้ามอบตัวที่ สน.บางซื่อ แล้ว 15 คน ฝากขังศาลอาญาโดยตำรวจค้านประกันตัว ปรากฏว่าศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว ส่งผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าเรือนจำรวมทั้งนายเปรมชัย กรรณสูต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าจาก สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พ.ค. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ เผยว่า คดีตึก สตง.ถล่มลอตแรก มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ 17 ราย เข้ามอบตัวแล้ว 15 ราย รวมนิติบุคคล ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนคือ นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาที่ 9 และนางปราณีต แสงอลังการ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาที่ 10 มีคนหนึ่งเป็นผู้ต้องหาในนามนิติบุคคลให้ทนายขอเลื่อนเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 16 พ.ค.เพื่อเตรียมหลักฐานและหลักทรัพย์ประกัน จะเข้ามอบตัวช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 19 พ.ค.นี้กับคณะพนักงานสอบสวน หลังสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนจะคุมตัวส่งฝากขังศาลทันที โดยคัดค้านการประกันตัวเหมือนกับผู้ต้องหากลุ่มแรก
...
มีรายงานว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่จะเข้ามอบตัวพรุ่งนี้เวลา 09.00 น. ที่ สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่ยังป้องกันกรณีผู้ต้องหาหลบหนีไม่มามอบตัว เนื่องจากทราบอยู่แล้วว่าจะไม่ได้ประกันตัว ประสานตำรวจ ตม.เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ หลังดำเนินการกับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คนเรียบร้อย ผู้บังคับบัญชานัดประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีทั้งหมดเวลา 16.00 น. ที่ สน.บางซื่อ เพื่อตรวจดูสำนวนของผู้ต้องหาแต่ละคน และรวบรวมสำนวนให้แน่นหนามากที่สุด สำหรับผู้ต้องหาชุดต่อไปที่จะออกหมายจับคาดต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพัก
มีรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหาคดีอาคาร สตง.ถล่มลอตสอง คณะพนักงานสอบสวนพุ่งเป้าไปที่ข้าราชการของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารทั้งหมดทุกขั้นตอน เพราะจากข้อมูลที่พบเบื้องต้นว่า มีการจ่ายเงินค่างวดให้ผู้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 900 ล้านบาท ทั้งที่ความคืบหน้าโครงการมีเพียง 30-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อยู่ระหว่างหาพยานผู้รู้เกี่ยวกับระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ เพื่อหาตัวเลขกลางในการเบิกจ่ายเงินโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐ เพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนขยายผล ถึงสาเหตุของการเบิกจ่ายเงินออกไปให้บริษัทก่อสร้างก่อนช่วงเวลาอันควร เหมือนมีผลประโยชน์อะไรมาเกี่ยวพันด้วยหรือไม่
ที่กรมราชทัณฑ์ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า คดีตึก สตง.ถล่ม เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯรับตัวฝากขังผัดแรก ในส่วนผู้สูงอายุ 2 คน คือ นายพิมล เจริญยิ่ง และนายเปรมชัย กรรณสูต ทางพยาบาลเรือนจำประเมินแล้วเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตัวเองลำบาก จึงให้แยกกักโรคโควิด-19 เพื่อเฝ้าดูอาการที่แดนพยาบาล และจัดให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) เป็นอดีตแพทย์เป็นผู้ดูแล เรือนจำอนุญาตให้รับยารักษาโรคประจำตัวที่ติดตัวมาด้วย ขณะนี้ทั้งคู่ยังคงอยู่ในแดนพยาบาลของเรือนจำ ยังไม่ได้ส่งตัวออกรักษายังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แต่อย่างใด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่