“เปรมชัย” พร้อมผู้ต้องหารายอื่นรวม 15 คน แห่เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาคาร สตง.ถล่มจากตำรวจ สน.บางซื่อ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 1 สัปดาห์ ตำรวจส่งฝากขังศาลอาญาทันทีพร้อมค้านประกันตัว รอง ผบช.น.แฉหลังสอบสวนพบพิรุธอื้อ แถม สตง.ยังจ่ายเงินให้กิจการร่วมค้าไปแล้วถึง 80 เปอร์เซ็นต์เป็นเงินรวม 900 ล้านบาท ทั้งที่งานก่อสร้างคืบหน้าแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วย ญาติเตรียมหลักทรัพย์คนละ 3 แสนขอประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาตกรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มี.ค. การรื้อซากเพิ่งเสร็จสิ้น ขณะที่การสืบสวนสาเหตุการถล่มโดย 2 หน่วยงานประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ล่าสุดคณะพนักงานสอบสวน บช.น.ขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวม 17 คน และประสานเข้ามอบตัวที่ สน.บางซื่อในวันนี้ความคืบหน้าจาก สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 พ.ค. นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการบริหารผู้มีอำนาจลงนามบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทนายความนั่งรถยนต์แลนด์โรเวอร์ พี 400 อี สีดำ ทะเบียน วข 3858 กรุงเทพมหานคร เดินทางมาที่โรงพัก นายเปรมชัยใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ลงมาจากรถนั่งวีลแชร์เข้าพบ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บช.น.แต่งตั้งเพื่อให้ปากคำตามข้อกล่าวหา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารับสารภาพหรือกังวลใจอะไรหรือไม่ รวมทั้งมีอะไรอยากขอโทษสังคมหรือไม่ เจ้าตัวมีท่าทีนิ่งเฉยไม่ตอบคำถามใดๆขณะที่นายพิมล เจริญยิ่ง ผู้ลงนามแบบแปลนวิศวกรโครงสร้าง นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา รองประธานบริหารอาวุโส บริษัทอิตาเลียนไทยฯ รวมถึงผู้ต้องหาคนอื่นๆต่างทยอยเข้ามอบตัวพร้อมทนายความเช่นกัน ทั้งนี้ ภายใน สน.บางซื่อ ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นปิดประตูทางเข้าเพื่อจัดระเบียบ ห้ามไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในโรงพักพ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ เผยสั้นๆว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้ง 17 คนเข้ามอบตัวเกือบครบแล้ว หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำแจ้งข้อกล่าวหา ช่วงบ่ายโมงจะคุมตัวทั้งหมดไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญารัชดา พนักงานสอบสวนจะคัดค้านประกันตัว เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เผยว่า เมื่อวานนี้คณะพนักงานสอบสวนไปขอหมายจับศาลอาญา และศาลอนุมัติหมายจับทั้งหมด 17 คน หลังผู้ต้องหาที่รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่ามีการออกหมายจับ กลุ่มบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้างทยอยเดินทางมามอบตัวที่ สน.บางซื่อ ตั้งแต่เช้าถึงตอนนี้รวม 15 คนแล้ว ยังขาดอีก 2 คนจากบริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด เป็นตัวแทนนิติบุคคลและในนามส่วนตัวจะเข้ามาช่วงบ่าย“พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งพฤติการณ์ของคดี รวมถึงการแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหารับทราบ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 15 คนให้การปฏิเสธ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา หลังจากนี้ผู้ต้องหาแจ้งว่าจะจัดเตรียมเอกสารและคำให้การส่งมอบให้พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนให้เวลา 1 สัปดาห์นัดหมายให้ส่งมาภายในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ส่วนช่วงบ่ายพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก” รอง ผบช.น.กล่าวพล.ต.ต.นพศิลป์เผยอีกว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนยังคงทำงานต่อเนื่อง คดีมีความเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องกับเจ้าหน้าที่รัฐหลายส่วน ขณะนี้ตำรวจประสานงานกรมสอบสวนคดีพิเศษคดีนอมินีและฮั้วประมูล ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ ยืนยันหากพยานหลักฐานไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะดำเนินคดีไม่ละเว้น ตั้งแต่คนทำทีโออาร์ สัญญาจ้างออกแบบ การจ้างควบคุมงาน และส่วนอื่นๆ ข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 227 และ 238 หากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานที่ระบุไว้ ส่งผลกระทบให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น และก่อความเสียหาย ย่อมมีความผิดตามกฎหมาย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การสนับสนุนและก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องมีความผิดเช่นกัน“โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ จากการตรวจสอบพบว่า มีการเบิกงบประมาณก่อสร้างไปแล้ว 22 งวด จาก 30 งวดเป็นเงินรวม 900 ล้านบาท สตง.เป็นผู้จ่ายเงินตามสัญญา ทั้งที่การก่อสร้างคืบหน้าเพียง 35 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ตามหลักการต้องคืบหน้า 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้ง ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทำไปตามพยานหลักฐานไม่ได้กลั่นแกล้งบุคคลใด กรรมใดรที่ใครก่อไว้ต้องสนองในชาตินี้แน่นอน” รอง ผบช.น.กล่าวเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ พาพยาบาล 1 คนมาคอยดูอาการนายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการฯบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เนื่องจากมีอาการป่วย ใส่ท่อปัสสาวะ ไม่สะดวกขึ้นรถตู้ไปศาล จึงต้องแยกขึ้นรถกระบะตำรวจ โดยจะมีพยาบาลอยู่ประกบระหว่างพาไปฝากขังศาลอาญาเวลา 13.21 น.พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ คุมตัว 14 ผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่มขึ้นรถตู้ตราโล่ 3 คัน ไปฝากขังศาลอาญารัชดาผัดแรก 12 วัน ส่วนนายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการฯบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ขอใช้สิทธิ์ผู้ป่วยนั่งวีลแชร์ต้องใส่ท่อปัสสาวะไม่สะดวกขึ้นรถตู้ ขอนั่งรถส่วนตัวเดินทางไปศาลอาญารัชดาแทน แต่ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ ปฏิเสธจัดรถกระบะตำรวจพาไปส่งศาลแทน ขณะที่เจ้าที่ตำรวจคุมตัวเข็นรถวีลแชร์นักธุรกิจคนดังขึ้นรถกระบะ สื่อมวลชนพยามสอบถามว่ามีความกังวลใจหรือไม่ที่ถูกดำเนินคดี อยากขอโทษสังคมอย่างไรบ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกอย่างไรกับการที่ตึก สตง.ถล่ม แต่นักธุรกิจคนดังกล่าวไม่ตอบส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ประกอบด้วย หนึ่งนิติบุคคลและหนึ่งบุคคลส่งทนายขอเลื่อนเข้ามอบตัวเป็นเช้าวันที่ 19 พ.ค.แทน เนื่องจากติดปัญหาด้านเอกสาร ทำให้ในวันนี้มีผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัว และดำเนินการฝากขังเพียงแค่ 15 คน ญาติผู้ต้องหาทั้ง 15 คน เตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวมูลค่ารายละ 300,000 บาท มีรายงานด้วยว่าผู้ต้องหาที่ขอเลื่อนมอบตัวประกอบด้วย นายพลเดช เทิดพิทักษ์วานิช อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาลำดับที่ 9 และนางปราณีต แสงอลังการ อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาลำดับที่ 10ที่ศาลอาญาเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร สว. (สอบสวน) สน.บางซื่อ คุมตัวนายสุชาติ ชุติปภากร อายุ 64 ปี นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี นายธีระ วรรธนะทรัพย์ อายุ 59 ปี นายสุพล อัครอารีสุข อายุ 51 ปี นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ อายุ 43 ปี นายอภิชาต รักษา อายุ 38 ปี นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 71 ปี นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา อายุ 65 ปี นายชวน หลิงจาง อายุ 42 ปี นายอนุวัต คันสร อายุ 53 ปี นายธิปัตย์ รัตนวงศา อายุ 42 ปี นายปฏิวัติ ศิริไทย อายุ 53 ปี นายกฤตภัฏ ปล่องกระโทก อายุ 51 ปี และนายสมชาย ทรัพย์เย็น อายุ 56 ปี มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-27 พ.ค.68 กรณีผู้ต้องหาทั้งหมดเกี่ยวพันการก่อสร้างอาคาร สตง.ที่เกิดถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดคำร้องความว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวนพบว่า การออกแบบแปลนอาคารที่เกิดเหตุไม่เป็นไปตามหลักมาตรฐาน (ปรากฏตามผลตรวจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง) การดำเนินการก่อสร้างพบว่า ใช้วัสดุต่ำกว่ามาตรฐาน (ปรากฏตามผลการตรวจของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง) การดำเนินการที่ต่ำกว่ามาตรฐานของผู้ดำเนินการก่อสร้างต้องเกิดจากการทำหน้าที่ของผู้ควบคุมงานที่ไม่ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลน พบว่ามีการแอบอ้างชื่อบุคลากรผู้ควบคุมงานที่เป็นวิศวกรมาเป็นผู้ควบคุมงานโดยผู้นั้นมิได้มาทำหน้าที่จริง แม้ว่าเหตุปัจจัยเพียงเหตุเดียวอาจไม่เป็นเหตุให้อาคารถล่มได้ แต่เมื่อเหตุปัจจัยทั้ง 3 เหตุมารวมอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เป็นสาเหตุให้อาคารที่เกิดเหตุพังถล่มจนเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย รับอันตรายสาหัสและสูญหายจำนวนมากการกระทำของผู้ต้องหาที่ 1-11 เป็นผู้มีวิชาชีพออกแบบควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ ส่วนผู้ต้องหาที่ 12-14 เป็นผู้มีวิชาชีพการออกแบบควบคุม หรือก่อสร้างซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่น ถึงแก่ความตาย และร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารราชการปลอมต่อมาศาลพิจารณายกคำร้องไม่อนุญาตให้ประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมทั้งหมดเข้าเรือนจำทันทีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่