กทม.สั่งโรงเรียนลำพะอง ข้างโกดังไฟไหม้ฉลองกรุง 55 เลื่อนเปิดเรียนไป 19 พ.ค. ให้แน่ใจว่ากลุ่มควันจะไม่ส่งผลกระทบกับเด็ก แนะสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อต้องอยู่ในรัศมี 300 เมตรจากจุดเกิดเหตุ ส่วนภาพรวมอากาศไม่ส่งผลกระทบประชาชนหากห่างเกิน 300 เมตร ขณะที่กรมควบคุมมลพิษเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งหวั่นสารเคมีรั่วไหลตอนที่ฝนตกและใช้วิธีกั้นไม่ให้น้ำจากโกดังออกมาสู่สาธารณะ ด้านตำรวจระบุ ยังเข้าตรวจสอบจุดต้นเพลิงไม่ได้ รอให้วิศวกรตรวจสอบประเมินโครงสร้างอาคารว่าปลอดภัยหรือไม่ ล่าสุดเพลิงสงบแต่ยังคงนักดับเพลิงไว้บางส่วนเพื่อฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้ไฟคุขึ้นอีก

จากเหตุเพลิงไหม้ข้ามวันข้ามคืน โกดังเก็บสินค้า บ.เฟอร์นิเจอร์และชุดอุปกรณ์เครื่องครัวพลาสติก ยี่ห้อคิงส์ ในซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบังกทม. ต้นเพลิงอยู่ชั้นใต้ดินที่มีเม็ดพลาสติกที่เพิ่งสั่งซื้อ มากว่า 300 ตัน ชุดผจญเพลิงยังเข้าไปไม่ได้เพราะความร้อนยังระอุ อีกทั้งอาคารเริ่มทรุดตัวทำได้แค่ควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อพยพชาวบ้านชุมชนโดยรอบย้ายไปที่วัดสุทธาโภชน์ และที่โรงเรียนวัดปลูกศรัทธา ห่างจุดเกิดเหตุ 7 กม. เพราะบริเวณที่เกิดเหตุอากาศเต็มไปด้วยสารพิษรัศมี 300 เมตร ขณะที่ตัวแทนผู้บริหารโรงงานยันเป็นเหตุสุดวิสัย ยินดีให้ความร่วมมือกับทางราชการ และขออภัยเพื่อนบ้านในชุมชน ยืนยันจะเยียวยาให้ดีที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 พ.ค. บรรยากาศบริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร พร้อมสำนักงานเขตลาดกระบังนำรถน้ำเข้าฉีด พบว่ายังมีกลุ่มควันสีขาวลอยออกจากบริเวณแนวกำแพงชั้นใต้ดินด้านหลัง โกดัง ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิง ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาช่วยให้กลุ่มควันจางลง

...

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักอนามัยลงพื้นที่ เข้าตรวจสอบบ้านพักประชาชนที่อยู่ในซอยฉลองกรุง 55 ข้างจุดเกิดเหตุเพื่อเข้าพูดคุยและช่วยดูแลด้านสุขภาพความเป็นอยู่ไม่ให้สูดดมควันพิษที่ฟุ้งกระจายอยู่โดยรอบ พร้อมให้คำปรึกษาที่ศูนย์บัญชาการเหตุบริเวณโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง)

ร.ต.อ.พิชิตชัย นาพัฒนกิจ รอง สว. (สอบสวน) สน.ฉลองกรุง เจ้าของคดี เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ว่า เบื้องต้น กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบจุดต้นเพลิงได้ รอให้วิศวกรตรวจสอบประเมินโครงสร้างอาคาร ว่าปลอดภัยหรือไม่ ประกอบกับยังคงมีกลุ่มควันอยู่ ส่วนการสอบปากคำเจ้าของโรงงานยังไม่สามารถติดต่อได้ แต่พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้

ขณะที่นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผอ.เขตลาดกระบัง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ยังคงเฝ้าระวัง และเข้าไปภายในอาคารเพื่อนำโฟมเข้าไปฉีดในจุดที่พบกลุ่มควันไฟ 4-5 กองเพื่อให้กลุ่มควันสงบลง ในวันนี้กรมควบคุมมลพิษได้ลงพื้นที่โกดังเก็บตัวอย่างน้ำทิ้ง สิ่งที่กังวลว่าสารเคมีจะรั่วไหลออกมาตอนที่ฝนตก หน่วยงานของกรุงเทพมหานครใช้การอุดกั้นไม่ให้น้ำในโกดังเก็บสินค้าออกมาสู่สาธารณะ ด้านโรงเรียนลำพะอง (ราษฎร์จำเริญบำรุง) ได้เลื่อนเปิดภาคเรียน จากเดิมที่ต้องเปิดในวันที่ 16 พ.ค.เป็นวันที่ 19 พ.ค.แทน เพื่อทำความสะอาดห้องเรียนที่อยู่ติดกับตัวโกดังเก็บสินค้าและให้แน่ใจว่ากลุ่มควันจะไม่ส่งผลกระทบกับเด็กนักเรียนด้วย ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราว ยังคงเปิดให้ประชาชนในพื้นที่เข้าไปพักอาศัยได้ แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไปพักกับญาติและครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์จะปิดวันนี้

ผอ.เขตลาดกระบังยืนยันอีกว่า โกดังดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนเป็นโรงงาน และการขออนุญาตเป็นการขอใบอนุญาตในรูปแบบโกดัง จากการเข้าไปสำรวจไม่พบเครื่องจักรอุตสาหกรรม พบเพียงสินค้าที่เป็นเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ส่วนโครงสร้างอาคารที่มีเสาบางส่วนผนังร่อน กังวลว่าจะมีการทรุดตัวหรือไม่ ประเด็นนี้จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ส่วนการตรวจวัดค่าฝุ่น pm 2.5/pm 10 และมลพิษในอากาศ กรมควบคุมมลพิษได้เข้าพื้นที่ใช้เครื่องมือตรวจสอบพบว่าในรัศมี 300 เมตร ห่างจากจุดเพลิงไหม้ พบว่า ปริมาณฝุ่น pm 10 วัดได้ 128 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร และส่วนฝุ่นขนาดเล็ก หรือ pm 2.5 ตรวจพบเฉลี่ย 118 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นค่าที่เกินกว่ามาตรฐาน ส่วนผลการตรวจวัดก๊าซพิษ และสารเคมี ณ จุดเดียวกันเมื่อเวลา 07.50 น. ด้วยเครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบก๊าซด้วยเทคนิค FTIR แบบพกพา พบว่าก๊าซพิษต่างๆ มีค่าไม่เกินค่ามาตรฐาน ดังนั้น โดยภาพรวม สารเคมีและก๊าซไม่ส่งผลกระต่อประชาชนในพื้นที่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร เห็นควรเสนอแนะให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อต้องอยู่ในบริเวณ รัศมี 300 เมตรจากจุดเกิดเหตุ

มีรายงานว่า ตัวแทนบริษัท สยามเฮ้าส์ แอนด์ โฮม จำกัด เจ้าของโกดังที่เกิดเหตุ ขอเลื่อนเจรจาพูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวตามนัดหมายในบ่ายวันนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพลิงสงบแล้ว โกดังเสียหายทั้งหมดทั้ง 2 หลัง แต่ยังคงมีกลุ่มควันเบาบางเล็กน้อย รวมทั้งยังมีกลิ่นพลาสติกที่ถูกเผาคละคลุ้งทั่วบริเวณ ขณะที่เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำดับเพลิงบริเวณโกดังถอนกำลังกลับเหลือไว้บางส่วนเพื่อฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้ไฟคุขึ้นมาอีก ก่อนที่จะส่งมอบพื้นที่ให้กับโรงงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 09.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบังว่า ได้นำรถโมบายของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบอากาศในพื้นที่ภาพรวมและตรวจสารเคมีรั่วไหล โดยจะรายงานให้กรุงเทพมหานครและประชาชนทราบ รวมถึงตอนนี้กรมโรงงานเข้าไปประจำในพื้นที่ ยืนยันจุดที่เกิดเหตุขออนุญาตจดทะเบียนเป็นโกดังใช้เก็บวัตถุดิบและสินค้าให้แก่โรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง ต้องตรวจสอบต่อไปหากมีใบประกอบกิจการโรงงานในพื้นที่ที่ไม่ได้ขออนุญาต จะมีความผิดโทษจำคุก 2 ปี เรื่องนี้นายกฯให้ความสำคัญมาก ต้องประสานผู้ว่าฯ กทม. ตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้ลักลอบประกอบกิจการโรงงาน โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายกระทรวงมหาดไทยและอุตสาหกรรม ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือสภาพอากาศไม่ดี พบสาร COC หรือสารก่อมะเร็งในอากาศ ต้องอพยพประชาชนในพื้นที่ออก เนื่องจากสารเหล่านี้เมื่ออยู่ในอากาศสามารถเดินทางได้ 700 เมตร แนะนำ กทม. ไม่ควรให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยเมื่อเช้าได้รายงานเลขาธิการฯนายกฯ

...

ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เผยเช่นเดียวกันว่า เช้าวันนี้กลุ่มควันเบาบางลงมาก มีเพียงจุดที่มาจากชั้นใต้ดินที่ยังมีเม็ดพลาสติกอยู่ เจ้าหน้าที่ทำงานได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ตอนนี้ทุกหน่วยงานที่มีเครื่องมือได้เข้าไปที่ศูนย์อำนวยการฯ ตรวจสอบเรื่องสภาพอากาศและแหล่งน้ำในพื้นที่ มีกรมควบคุมมลพิษ กรมควบคุมโรค สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เข้าไปช่วยดูแล เมื่อถามว่ามีสารเคมีอื่นนอกจากพลาสติกหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ ขณะที่การดูแลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปถามไถ่อาการ ว่าใครมีอาการผิดปกติ จะได้ให้เข้ารักษาตัว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา พร้อมกันนี้ได้คุยกับเจ้าของโรงงานซึ่งได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น หากมีผู้ได้รับผลกระทบ ก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่