ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบ ภาค 3 พิพากษาจำคุก 24 ปี “ประยุทธ มหากิจศิริ” นักธุรกิจหมื่นล้าน ฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ทุจริตรังวัดที่ดิน ฮุบที่ ส.ป.ก.-ป่าสงวน สร้างสนามกอล์ฟ “เมาน์เท่น ครีก” ขณะที่ “อุษณา” ลูกสาวคนเล็กโดนคุก 12 ปี ฐานเป็นผู้มอบอำนาจให้นำชี้ที่ดินข้างเคียง ส่วนจำเลยรายอื่นไม่มีใครรอด ศาลสั่งจำคุกยกก๊วน ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที รอลุ้นคำสั่งปล่อยตัว ชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค3 จ.สุรินทร์ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องนายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) กรณีการออกเอกสารสิทธิเกี่ยวกับที่ดิน น.ส.3 ก. และโฉนดที่ดิน ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มาทำการรังวัดแบ่งแยกและรวมโฉนด ทำให้มีเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้น 189 ไร่ จากที่ดินของสนามกอล์ฟเมาน์เท่น ครีก ที่มี เนื้อที่ดินทั้งหมด 2,304 ไร่ ของบริษัทไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ที่มีนายประยุทธ กรรมการบริหาร และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุจริตเกี่ยวกับการออกโฉนดในเขตที่ดินของรัฐ เป็นเขตป่าสงวนและเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ

ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 อ่านคำพิพากษาลงโทษนายประยุทธ มหากิจศิริ อายุ 79 ปี มีความผิดตาม ป.อาญา ม.149 ประกอบ ม.86 กระทงละ 4 ปี 6 กระทง รวม 24 ปี ส่วน น.ส.อุษณา มหากิจศิริ อายุ 45 ปี (ลูกสาวคนเล็กของนายประยุทธ) ฐานเป็นผู้มอบอำนาจให้นำชี้ที่ดินข้างเคียง มีความผิดตาม ป.อาญา ม.149 ประกอบ ม.86 กระทงละ 4 ปี 3 กระทง รวม 12 ปี ในส่วนจำเลยรายอื่นศาลสั่งจำคุกทุกราย

คดีดังกล่าว ป.ป.ช.ได้ชี้มูลตั้งแต่ปี 2564 ชี้มูลความผิดเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวกประมาณ 5-6 ราย อาทิ หัวหน้าฝ่ายรังวัด ช่างรังวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกลุ่มบริษัทเอกชน มีชื่อของนายประยุทธ มหากิจศิริ ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาถูกชี้มูลด้วย พบพฤติการณ์ว่ากลุ่มเอกชนได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ สอบเขตขยายเนื้อที่ของโฉนดที่ดิน เพื่อนำมาสร้างสนามกอล์ฟ “เมาน์เท่น ครีก กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ นครราชสีมา” ถือเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

...

จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มเอกชนดังกล่าว ได้ไปซื้อที่ดินที่มีโฉนด และซื้อที่ดินที่ไม่มีหลักฐานจากชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนจะนำมาสอบเขตเพื่อนำที่ดินที่ไม่มีหลักฐาน เข้าไปรวมกับที่ดินที่มีโฉนดให้เป็นผืนเดียวกัน เพื่อนำไปจัดทำสนามกอล์ฟดังกล่าว ที่ดินที่ไม่มีหลักฐาน มีทั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก. และเขตป่าสงวน ถือว่าร่วมกันกระทำความผิด แต่เนื่องจากเอกชนไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดตามมาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และมีบางรายโดนมาตรา 149 ด้วย รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐถูกชี้มูลความผิดตามมาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 149 และมีความผิดวินัยร้ายแรง อัตราโทษในมาตรา 149 ระบุให้จำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และระวางโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนอัตราโทษตาม มาตรา 151 จำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนอัตราโทษตามมาตรา 157 จำคุก 1-10 ปี

จำเลยคดีนี้ 11 ราย ประกอบด้วย นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว ลงโทษจำคุก 42 ปี นายเทียมศักดิ์ จินดา อดีตนายช่างรังวัด 7 ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายรังวัด ลงโทษจำคุก 30 ปี นายชายธง ณ สงขลา ลงโทษจำคุก 4 ปี นายภักดี ภักดีเมฆ อดีตนายช่างสำรวจ ระดับ 6 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.นครราชสีมา) ลงโทษจำคุก 4 ปี นายประทีป แสวงลาภ ลงโทษจำคุก 24 ปี บริษัท เลควูดคันทรี่คลับ จำกัด โทษปรับ 20,000 บาท

บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท โพสโค ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) โทษปรับ 60,000 บาท นายฌ็อง ปอล เทเวอรแน็ง สัญชาติฝรั่งเศส กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพัน บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ลงโทษจำคุก 12 ปี น.ส.อุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวนายประยุทธ มหากิจศิริ ลงโทษจำคุก 12 ปี นายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) จำคุก 24 ปี นายจิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา ลงโทษจำคุก 12 ปี แต่จำเลยรายนี้ไม่มาฟังคำพิพากษา มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลสั่งออกหมายจับ และปรับนายประกัน

ภายหลังฟังคำพิพากษา จำเลยทั้ง 6 ประกอบด้วย นายประยุทธกับพวกที่ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ตัดสินจำคุก ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 มีคำสั่งให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งประกันต่อไป คาดว่าใช้ระยะเวลา 1-2 วันทำการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งให้ไปประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ส่งผลให้นายประยุทธและพวก ต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวจำเลยทั้ง 6 คนไปควบคุมที่เรือนจำกลางจังหวัดสุรินทร์

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่