“นายกฯอิ๊งค์” เรียกประชุมตำรวจ-ดีเอสไอ ถกคืบหน้าเอาผิดคดีตึกก่อสร้าง สตง.แห่งใหม่ถล่ม แย้มมีหมายจับเร็วๆนี้ ขึงขังสั่งทุกหน่วยให้ความร่วมมือตำรวจมากขึ้น เฉ่ง สตง.ส่งเอกสารให้ตำรวจล่าช้า ลั่นเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องนี้จะไม่มีคนรับผิดชอบ ขณะที่โฆษกดีเอสไอเผย คดีนอมินีคืบหน้าไปมากอยู่ในขั้นตอนพิจารณาแจ้งข้อหา พร้อมเชิญ 51 วิศวกรเข้าให้ข้อมูล ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร.ลั่นใครเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม ดำเนินคดีหมด ชี้รายละเอียดเยอะยังไม่ชัดหมายจับกี่คน ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย พบเพิ่มอีก 6 ศพ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ปรับลดยอดผู้เสียชีวิตจาก 44 เหลือ42ราย หลังต้องตรวจอัตลักษณ์ยืนยันใหม่ 2 ร่าง
ภายหลัง “ดีเอสไอ” เปิดฉากบุกค้น 4 จุดที่เกี่ยวข้องกับ “บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ-กิจการร่วมค้า PKW” สร้าง “ตึก สตง.ถล่ม” ใจกลาง กทม. หลังนายกรัฐมนตรีสั่งให้รับเป็นคดีพิเศษเพราะเชื่อว่ามีการก่อสร้างไม่โปร่งใส เป็นอาคารก่อสร้างแห่งเดียวที่ถล่มลงมาจากผลพวงแผ่นดินไหวจากประเทศเมียนมาและอยู่ห่างไกลเป็นพันกิโลเมตร จากการตรวจค้นดีเอสไอยึดเอกสารและเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลอื้อรวมทั้งรายชื่อ 51 วิศวกร จ่อเรียกสอบผู้เกี่ยวข้อง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้รับงานก่อสร้าง-ผู้เกี่ยวข้อง กลุ่มผู้ทำบัญชี-ตรวจสอบบัญชี และกลุ่มผู้เสนอราคา นัดทยอยให้ปากคำ 18 เม.ย.-15 พ.ค.นี้ ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมทันทีหลังคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รายงานผลพุ่งเป้าที่การออกแบบ-ปล่องลิฟต์อสมมาตร และพบมีการปลอมลายเซ็นวิศวกรคุมงาน ส่วนการค้นหาผู้ติดใต้ซากตึก สตง. ทีมกู้ภัยยังไม่ท้อระดมเครื่องตัดแก๊สเข้าช่วย หลังเจออุปสรรคใหญ่เป็นเหล็กเส้นเรียงเป็นแพขวางเจาะเข้าโพรงไม่ได้ โดยยอดผู้เสียชีิวิตที่นำออกมาแล้วมีทั้งหมด 44 ศพ ยืนยันอัตลักษณ์บุคคลได้แล้ว 33 คน ยังค้นหาผู้สูญหายอีก 50 คน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
...
พบเพิ่มทั้งตัวและชิ้นส่วน
วันที่ 18 เม.ย. การปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างใหม่พังถล่ม เขตจตุจักร กทม. เข้าสู่วันที่ 22 แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหลายหน่วยงานยังเดินหน้าเครื่องจักรกลหนักเจาะสกัดแผ่นคอนกรีต และโกยเหล็กเส้น สลับกับทีมค้นหาเดินเท้าพร้อมอุปกรณ์ตัดเหล็กเส้นที่ถักทอในแผ่นคอนกรีต ขุดรื้อซากที่ทับถมกองเป็นภูเขาขนาดย่อม มีโดรนและทีมสังเกตการณ์มุมสูงสนับสนุนตลอดการค้นหาต่อเนื่องตลอดทั้งคืนตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ถึงเวลา 12.00 น. วันที่ 18 เม.ย.พบร่างผู้ประสบภัยเพิ่ม 5 ร่าง และอีก 1 ครึ่งร่างท่อนบน รวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมาก ในบริเวณพื้นที่โซน B และโซน C
นิติเวชจัดชุดคัดกรองอวัยวะ
นอกจากนี้ ทีมนิติเวชยังจัดชุดทีมค้นหาชิ้นส่วนอวัยวะ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR และสุนัข K-9 ตรวจค้นกองดินที่จุดทิ้งเศษซากวัสดุก่อสร้างซากตึก สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อคัดกรองหาชิ้นส่วนอวัยวะผู้สูญหายที่อาจตกหล่นติดไปกับเศษซากวัสดุก่อสร้าง โดยการคัดกรองวันนี้ พบชิ้นส่วนปลายนิ้วเท้าซ้ายผู้สูญหายได้ 1 ชิ้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ทยอยรวบรวมชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันบุคคลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ปรับยอดใหม่พบศพ 42 ราย
ขณะที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้สูญหายเหตุอาคารก่อสร้าง สตง.ถล่ม ณ เวลา 10.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ยังไม่เปลี่ยนแปลงจากยอดสรุปเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรับข้อมูลจากเดิมที่ระบุว่ามีผู้ประสบเหตุ 103 ราย แยกเป็นผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 50 ราย เปลี่ยนเป็นมีจำนวนผู้ประสบเหตุ 103 ราย แยกเป็นผู้เสียชีวิต 42 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหา 50 ราย
เก็บภาพมุมสูงจำลองเหตุถล่ม
เวลา 10.30 น. คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วยพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และทีมผู้เชี่ยวชาญจากกรมโยธาธิการไปลงพื้นที่เก็บหลักฐานชิ้นส่วนวัสดุก่อสร้างเพิ่มเติม ได้เก็บหลักฐานซากโครงสร้างตึกบริเวณโซน B รวมทั้งเก็บภาพมุมสูงสภาพซากตึกไปประกอบแบบจำลองการถล่มของตึก สตง.ด้วย
พบกลุ่มศพปล่องบันไดหนีไฟ
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยว่า วันนี้ยอดความสูงของอาคาร สตง.ที่มีความสูงเมื่อวานอยู่ที่ 13.05 เมตร ตอนนี้ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 12.45 เมตร เป็นยอดบริเวณด้านหน้าติดกับโซนบี บริเวณด้านหลังโซนซี เจ้าหน้าที่ขุดลึกเพิ่มลงไป 3 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตตั้งแต่เย็นวันที่ 17 เม.ย. 2 ร่างครึ่ง รวมทั้งหมด 6 ร่าง ชิ้นส่วนมนุษย์อีก 14 ชิ้น อยู่ระหว่างรอสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคล บริเวณโซนซี และโซนบี เจ้าหน้าที่พบปล่องบันไดข้างลิฟต์มีป้ายบอกเลขชั้น 17-18 และราวบันไดกันตก พบกลุ่มร่างผู้เสียชีวิตติดค้างอยู่ คาดว่าเป็นปล่องบันไดหนีไฟอย่างแน่นอน
ขอพื้นที่รถไฟเพิ่มเก็บเศษซาก
นายสุริยชัยกล่าวต่อว่า คาดว่าไม่น่าจะมีโพรงขนาดใหญ่แล้ว จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญจากหลายส่วน มองว่าอาคารมีทั้งหมด 30 ชั้น ความสูง 90 เมตร มีน้ำหนักที่มากพอถล่มทับถมลงมาพร้อมกันในทีเดียวจนถึงชั้นใต้ดิน ขนาดหมวกนิรภัยคนงานที่รองรับน้ำหนักได้ 400 กก. ถูกทับจนแบน ตอนนี้ยังใช้แผนเดิมต่อไปยังไม่มีการปรับแผนคาดว่าจะถึงบริเวณชั้นหนึ่งได้ คือสิ้นเดือนเมษายน อุปสรรคตอนนี้คือเศษเหล็ก เศษปูนที่นำออกมาแล้วไปไว้ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยเริ่มมีพื้นที่ไม่พอ จะประสานผู้ว่าการการรถไฟขอใช้พื้นที่เพิ่มเติม ตอนนี้ต้องเก็บเศษปูนเหล็กทั้งหมดไว้ในครอบครองของรัฐก่อน หากคดีจบแล้วเจ้าของทรัพย์สินจะเป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ให้ความสำคัญกับผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคาร ถ้าจะให้ใช้ความระมัดระวังในการเก็บหลักฐาน จะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องการค้นหาร่างผู้ติดค้าง “เรายังคงเน้นค้นหาร่างผู้สูญหาย”
...
นายกฯถกคืบหน้า ตร.–ดีเอสไอ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าผลการสอบสวนกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม มี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ต.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ (ผบก.นต.รพ.ตร.) พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เข้าร่วม
ขอทุกหน่วยร่วมมือ ตร.มากกว่านี้
น.ส.แพทองธารแถลงหลังการประชุมว่า ต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมือกับตำรวจเพิ่มเติมมากกว่านี้ เพราะยังมีเรื่องเอกสารสำคัญได้รับความร่วมมือค่อนข้างช้า เราต้องหาหลักฐานและเหตุผลให้ครบจะได้มีข้อมูลที่รับผิดชอบต่อชีวิตที่เสียไป ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทั้งหมดจาก สตง. รายงานผลจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ ที่ตรวจสอบว่ามีการผิดสัญญาแต่ไม่มีการยกเลิกสัญญาต้องขอดูเอกสารเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีการติดตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาและกรมทรัพยากร ธรณี ถึงผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลางซึ่งมีหน่วยงานในกำกับดูแลมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างดูคุณภาพวัสดุก่อสร้าง เพื่อชี้วัดและมีอำนาจในการบอกเลิกสัญญา
สั่งโยธาผังเมืองอย่าดูดาย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหน่วยงานที่ร่วมตรวจรับการออกแบบการก่อสร้างและการตรวจรับงาน เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในความเสียหายนี้ต้องให้ความร่วมมือเต็มที่กับตำรวจ ผู้ที่เกี่ยวข้องของกรมโยธาธิการที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง. ที่ผ่านมา ควรแยกออกจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนดังกล่าวด้วย แต่ละหน่วยงานควรคัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุดังกล่าวออกจากคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนตรงนี้
...
รับเรื่องนี้ไม่ได้–ขอ ปชช.มั่นใจ
น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า ดีเอสไอกำลังดำเนินคดีกับเรื่องมาตรฐานเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงคุณภาพปูนที่ไม่ได้มาตรฐาน และการแก้ไขแบบ Core Wall หรือผนังรับแรงเฉือนจากแรงลมในอาคารสูงและการแก้ไขแบบปล่องลิฟต์ที่เป็นจุดศูนย์กลางของตึกโดยไม่เสริมเหล็ก ทำให้เกิดความเสี่ยงของอาคาร รวมถึงการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและการฮั้วประมูลจะเน้นย้ำเรื่องนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ขอประชาชนมั่นใจว่าเรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ปล่อยมือ ส่วนตัวรับเรื่องนี้ไม่ได้กับการมีคนเสียชีวิตจากเหตุตึกถล่ม 1 ตึก แต่เข้าใจได้อยู่แล้วถ้ามีแผ่นดินไหวเหมือนที่เมียนมาไหวกันทั้งหมดและรุนแรงมันห้ามไม่ได้ แต่อันนี้มีแค่ 1 ตึก ยังติดตามเรื่องนี้อยู่อย่างจริงจัง
ย้ำไม่ร่วมมือจะตกเป็นขี้ปาก
เมื่อถามว่า สตง.ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรารอเอกสารจาก สตง. แต่ทราบว่าทุกหน่วยงานคงมีหลายเรื่องที่ต้องทำ เมื่อถามต่อว่าตั้งข้อสังเกตหรือไม่ เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้ความร่วมมือให้ข้อมูล น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้ข้อมูลเต็มที่ต้องถูกตั้งข้อสังเกตอยู่แล้ว ต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จะได้ไม่เป็นข้อครหาของประชาชน
แย้มไม่นานจะมีหมายจับ
น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า สำหรับการทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่ม ที่ร่วมกับ 4 สถาบันการศึกษาบวกกรมโยธาธิการและผังเมือง ใน 90 วัน อันนี้คือหาเหตุผลโดยละเอียดว่าลมแรงสั่นสะเทือน ปูนหรือเหล็กหรืออะไรทำให้ตึกถล่มลงมา นั่นคือเหตุผลในเชิงลึก แต่ระหว่างนี้การดำเนินการต่างๆ มันถูกหมดหรือยัง ตั้งแต่เริ่มนับหนึ่ง หากจะสรุปอะไรในวันนี้ต้องรอตำรวจหรือดีเอสไอหาหลักฐานให้ชัดเจนก่อน พูดไปก่อนจะโดนฟ้องร้อง ได้พูดคุยกับตำรวจแล้วว่าเมื่อมีหลักฐานเพียงพอให้ออกได้เลย ไม่นานจะเริ่มออกหมายจับ
...
สั่งตำรวจให้ทำเต็มที่จริงจัง
เมื่อถามว่ายิ่งตรวจสอบยิ่งพบข้อสงสัยที่อาจมีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง จะใช้โอกาสนี้สะสางทั้งหมดหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เราทำทุกอย่างตามหลักฐานที่มีย้ำไปกับตำรวจว่าให้ทำเต็มที่และจริงจัง เมื่อถามย้ำว่าคนใน สตง.ต้องรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ต้องดูตามหลักฐานจะไม่เหมารวม สมมติหัวข้อแรกเรื่องการออกแบบผิดต้องดูรายชื่อว่าใครรับผิดชอบ หน่วยงานไหนดูแล เราจะดูเป็นหัวข้อๆไป ให้ตำรวจเป็นผู้ชี้ หากหลักฐานเพียงพอก็ต้องเป็นไปตามนั้น เมื่อถามอีกว่าจากข้อมูลที่ได้รับใกล้ออกหมายจับได้หรือยัง นายกฯกล่าวว่า การออกหมายจับใกล้มากแล้ว
เป็นไปไม่ได้ที่ไม่มีคนผิด
เมื่อถามว่าสังคมตั้งคำถามจากเหตุการณ์นี้อาจไม่มีใครรับผิดเลย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนผิดในเรื่องนี้ ทราบอยู่แล้วว่าต้องมีบางจุดที่ผิดไปจากทุกตึก ชัดเจน จะไม่ต้องมีใครรับผิดชอบเลยเป็นไปได้ยากมาก เมื่อถามอีกว่าจะย้ำไปยังหน่วยงานรัฐที่มีการจ้างงานขนาดใหญ่ให้รอบคอบมากขึ้น ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องรอบคอบอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะตึกของหน่วยงานรัฐ แต่ทุกตึกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะเกี่ยวกับชีวิตประชาชนที่ต้องไปอยู่ในตึกทุกวัน ฉะนั้น ทุกตึกต้องรับผิดชอบ แต่เมื่อเกิดปัญหาเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินคดี ตรวจสอบ และต้องทำให้ชัดเจน
ตรวจสอบอยู่ปลอมลายเซ็น
เมื่อถามว่ามีประเด็นเกี่ยวกับการปลอมแปลงลายเซ็นของผู้ออกแบบ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ได้รับรายงานว่าบางท่านแจ้งมาว่าลายเซ็นถูกปลอมแปลง ต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ลายเซ็นที่แท้จริงเป็นอย่างไร เมื่อถามถึงการปรับแก้ core wall หรือผนังรับแรงเฉือน (จากแรงลมในอาคารสูง) ทำให้กำแพงบางลง นายกฯกล่าวว่า มีหลักฐานบางอย่างตามที่สื่อทราบ แต่ต้องขอข้อมูลให้ครบกว่านี้ ตามที่สื่อรายงานก็เป็นอย่างนั้น แต่ในส่วนของผู้เซ็นรับไม่แน่ใจว่าใครเซ็นบ้าง ต้องตรวจสอบว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง
โพสต์เสียใจทุกครอบครัวเหยื่อ
ต่อมาเวลา 12.31 น. น.ส.แพทองธารโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก และ X ว่า “เรื่องตึก สตง. ยังเป็นวาระใหญ่ของคนไทยตอนนี้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะทำงานอย่างไม่ปล่อยมือเช่นกัน สำคัญที่สุดคือการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ ขอให้รายงานข้อมูลกลับไปยังครอบครัว และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกครอบครัวที่สูญเสีย”
“ภูมิธรรม” แฉมีปลอมลายเซ็นอีก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีตึก สตง.ถล่มว่า เท่าที่ทราบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีความคืบหน้ามากขึ้นพอสมควร ได้รายงานเบื้องต้นว่าดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ค่อยๆคลี่คลายลง ตอนนี้มีการสอบหลายส่วน มีความเกี่ยวพันหลายเรื่องโดยเฉพาะวิศวกรคุมแบบเป็นเรื่องสำคัญ เท่าที่รับข้อมูลคาดว่ามีบุคคลที่ถูกปลอมลายเซ็นอีกหลายคน
“ผู้ช่วยเปีย” ลั่นใครผิดดำเนินคดีหมด
ด้าน พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวถึงการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีตึก สตง.ถล่มว่า ยังไม่ทราบว่าจะออกหมายจับได้จำนวนเท่าไหร่ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ขอเวลาอีกสักนิด รายละเอียดเยอะมาก แต่เท่าที่คุยกันกรอบปัจจุบันไม่เกิน 7 วัน แต่ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อถามว่าหมายจับจะออกเฉพาะคนออกแบบ หรือเจ้าหน้าที่ สตง.ด้วย พล.ต.ท.สมประสงค์กล่าวว่า ทุกคนที่กระทำผิดจะต้องดำเนินคดีหมด เมื่อถามว่า สตง.ที่เป็นคนอนุมัติแบบและการใช้งบประมาณถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะมีการเอาผิด สตง. พล.ต.ท.สมประสงค์กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้กระทำผิดกฎหมายมาตราใดบ้าง ใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจึงจะตอบได้ ตอนนี้เริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว
ทยอยเรียกสอบ 51 วิศวกร
วันเดียวกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้น 4 เป้าหมายทำให้พบข้อมูลเกี่ยวกับ 51 วิศวกร จะต้องทยอยเชิญทั้งหมดเข้าให้ข้อมูลในฐานะพยานเพื่อขอข้อมูลโดยเฉพาะประเด็นการควบคุมงาน ล่าสุดมี 2 วิศวกรเข้าให้ข้อมูลแล้ว ได้แก่ 1.นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ 2.นายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ดีเอสไอจะเชิญวิศวกรทั้ง 51 ราย เข้าให้ปากคำพยานแน่นอน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการควบคุมงานจริงหรือไม่ มีใครเป็นวิศวกรในโครงการนี้จริงบ้าง แล้วจึงจะขยายผลไปได้ว่ามีการปลอมลายเซ็นหรือไม่ กระบวนการทำงานถูกต้องหรือไม่
ใครเกี่ยวเรียกสอบหมด
ส่วนกรณีนายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี ที่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร สตง.นั้น พนักงานสอบสวนไปพบเจ้าตัวแล้ว พบว่าป่วยจริงเจ้าตัวขอเวลาเตรียมเอกสารมาให้การ คาดเป็นช่วงสัปดาห์หน้ายืนยันว่าผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่แจ้งขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน หรือกรณีของนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ต้องเรียกมาสอบปากคำ นัดหมายไว้เรียบร้อยแล้วหรือหากตำรวจ สน.บางซื่อ เรียกสอบปากคำนายปฏิวัติ ดีเอสไออาจไปร่วมสอบด้วยได้
เตรียมพิจารณาแจ้งคดีนอมินี
พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมคดีนอมินีขณะนี้ คืบหน้ากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนี้เป็นกระบวนการพิจารณาว่าหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใดหรือไม่ ส่วนคดีที่ทำคู่ขนานจะมีทั้งคดีฮั้วประมูล ได้ขยายผลออกมาโดยองค์ประกอบความผิดมีหลายเรื่อง เช่น การที่ทำให้การแข่งขันราคาไม่เป็นธรรมโดยใช้กลอุบายฟันราคาเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาแล้วไปลดค่างานหรือดำเนินการอย่างอื่นลดค่าใช้จ่ายก็เข้าข้อกฎหมายนี้ได้
ไม่หวั่นคนแก้แบบเส้นใหญ่
โฆษกดีเอสไอกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีคดีเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เหล็กเส้นที่ตกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ดีเอสไอร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ.ที่หากพบความผิด เจ้าหน้าที่ สมอ.จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นอีก 1 คดี และคดีสุดท้ายที่ดีเอสไอตรวจสอบคือ กรณีบริษัทที่ขายเหล็กให้กับโครงการก่อสร้างเกี่ยวกับเอกสารภาษีที่ไม่ถูกต้อง ยังยืนยันว่าไม่กังวล แม้จะมีกระแสข่าวว่าคนที่แก้ไขแบบอาคาร สตง. มีความเกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. เรื่องนี้สปอตไลต์สังคมค่อนข้างเยอะไม่น่าจะมีปัญหาและดีเอสไอรับคดีขนาดใหญ่ทำงานเป็นรูปแบบคณะกรรมการ เรื่องนี้จึงไม่เป็นประเด็น
“อนุทิน” มอบสินไหมทายาท
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. มหาดไทย เป็นประธานมอบเงินค่าจัดการศพผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแผ่นดินไหว 28 มี.ค.จำนวน 100,000 บาท ให้แก่ น.ส.ชลิดา ทองพุฒ ทายาทนายชัชวาล ทองพุฒ ชาวพิษณุโลก ที่เสียชีวิตในเหตุตึก สตง.ถล่ม โดยนายอนุทินเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ส่วนการมอบเงินค่าจัดการศพทายาทผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ฝ่ายปกครองได้ร่วมกับ ปภ. ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 จังหวัดแล้ว จะมีการลงพื้นที่เพื่อมอบเงินค่าจัดการศพภายในวันเดียวกันนี้
อายัดห้ามเคลื่อนย้าย
เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมาย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เข้าอายัดสถานที่ปฏิบัติงานชั่วคราวของกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซีและกิจการร่วมค้าพีเคดับเบิ้ลยู (PKW) 24 ตู้คอนเทนเนอร์ในอาคารจอดรถสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดถล่ม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษมีหนังสือแจ้งไปยัง ผกก.สน.บางซื่อ และ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือรักษาสถานที่เพื่อการสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายเจ้าหน้าที่ ตรวจตราสภาพสถานที่ เพื่อป้องกันการยักย้ายทำลายพยานเอกสาร และยังมีหนังสือเรียกให้ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจจัดการแทนกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซีชี้แจงข้อเท็จจริง ส่งบุคคลมาให้ถ้อยคำและแจ้งการอายัดอาคารสำนักงานชั่วคราวและทรัพย์สินในสำนักงานระหว่างการตรวจสอบพิจารณา พ.ต.ต.วรณันเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุตึกถล่มในวันที่ 28 มี.ค. กรุงเทพมหานคร สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และกรมการทหารช่าง กองทัพบก ได้รักษาสถานที่เกิดเหตุไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ ขณะนี้ตู้คอนเทนเนอร์ 24 ตู้ กิจการร่วมค้าฯ ทั้ง 2 แห่ง ใช้เป็นไซต์งานก่อสร้างมีการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างไว้เป็นจำนวนมาก อาจมีพยานหลักฐานที่มีความสำคัญต่อรูปคดี
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่