5 แรงงานไทยกลับถึงแผ่นดินเกิด โผกอดญาติร่ำไห้ด้วยความดีใจหลัง ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันนาน 482 วัน ก.ต่างประเทศ-แรงงานแจงการช่วยเหลือเยียวยาได้รับเงินก้อนแรกคนละ 6 แสนบาท ตามด้วยเงินช่วยเหลือรายเดือน เดือนละ 3 หมื่นบาท ด้าน “มาริษ” ยันไม่ยอมแพ้ในการช่วยเหลือ เร่งเดินหน้าตามหาอีก 1 ตัวประกัน และส่งร่างอีก 2 รายที่เสียชีวิตกลับมาตุภูมิ

หลังตกเป็นตัวประกันกลุ่มติดอาวุธฮามาสนานกว่าปี ในที่สุด 5 แรงงานไทยที่ไปทำงานด้านการเกษตร ณ ประเทศอิสราเอล เดินทางกลับถึงมาตุภูมิแล้ว เมื่อเวลา 07.35 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK374 ได้นำแรงงานไทย 5 คน ที่ถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2566 รวมเวลา 482 วัน และได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา เดินทางกลับมาพร้อมญาติ 4 คน ที่บินไปรับที่อิสราเอล ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ทั้ง 5 คน มีภูมิลำเนา จ.อุดรธานี 2 คน ได้แก่ นายวัชระ ศรีอ้วน อายุ 32 ปี และนายสุรศักดิ์ ลำเนา อายุ 30 ปี ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ แทนนา อายุ 35 ปี อยู่ จ.บุรีรัมย์ นายเสถียร สุวรรณคำ อายุ 34 ปี อยู่ จ.หนองบัวลำภู และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว อายุ 27 ปี อยู่ จ.น่าน

ขณะที่บรรยากาศในสนามบินสุวรรณภูมิบริเวณประตู 10 ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีญาติของแรงงานไทย 3 ครอบครัว เดินทางด้วยรถตู้ที่กระทรวงแรงงานจัดรับส่งจากภูมิลำเนามาถึงตั้งแต่เวลา 03.00 น. ส่วนญาติของนายวัชระ ศรีอ้วน และนายสุรศักดิ์ ลำเนา รอต้อนรับอยู่ที่บ้าน จ.อุดรธานี เนื่องจากทั้ง 2 คน เดินทางกลับโดยเครื่องบิน มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย รอรับ และอำนวยความสะดวกในการส่งกลับภูมิลำเนา

...

หลังจากคนไทยทั้ง 5 คน เสร็จสิ้นขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ ได้เดินออกมาเจอหน้าครอบครัว ต่างฝ่ายต่างโผเข้ากอดและร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้เจอหน้าลูกชายและได้กลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวอย่างปลอดภัย ภายหลังที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไทยและสื่อต่างชาติ ไม่เปิดโอกาสให้สื่อสัมภาษณ์แรงงานทั้ง 5 คน กระทรวงแรงงานได้นำแรงงานไทยและญาติแยกย้ายขึ้นรถตู้เดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนนายวัชระและนายสุรศักดิ์แยกเดินทางกลับโดยเครื่องบินไปลงสนามบินอุดรธานี ก่อนขึ้นเครื่อง นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้นำเค้กวันเกิดมามอบให้นายวัชระ อายุครบ 32 ปี ตรงกับวันเดินทางกลับไทยพอดี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสันติ บุญพร้อม อายุ 36 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ 1 ใน 17 อดีตตัวประกัน ที่มารอรับนายพงษ์ศักดิ์ แทนนา ว่าตนกับนายพงษ์ศักดิ์เคยทำงานอยู่ที่เดียวกันจนกลุ่มฮามาสจับไปเป็นตัวประกัน แยกกันไปคนละที่ ตนถูกปล่อยตัวกลับมาก่อนพร้อมตัวประกันไทย 17 คน เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2566 มารอรับเพื่อนกลับบ้าน ตัวประกันทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้ถูกทารุณโหดร้าย เพียงแค่กักบริเวณ ตอนที่ตนถูกจับก็ถูกกักบริเวณและเปลี่ยนสถานที่หลายครั้งในตึกร้างบ้าง ชั้นใต้ดินบ้าง อาหารการกินพออยู่ได้ ส่วนที่แต่ละคนไม่อยากพูดอะไร เพราะกลัวจะไปกระทบกับตัวประกันที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมา

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน รวมถึงนายกรัฐมนตรี ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยหยุดยั้งและไม่ยอมแพ้ในการช่วยเหลือ ผลของความตั้งใจก็ปรากฏให้เห็นในวันนี้ที่ทั้ง 5 คนได้รับการปล่อยตัว เราได้ทำงานกับมิตรประเทศมาโดยตลอด และน้ำตาของคนในครอบครัวแรงงานในวันนี้คือกำลังใจของข้าราชการทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทั้ง 5 คน สุขภาพร่างกายปกติ แข็งแรงดี แต่เป็นห่วงสภาพจิตใจเนื่องจากต้องเจอเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจมานาน 15 เดือน หลังจากนี้หวังว่าครอบครัวจะเป็นแรงใจให้ทุกคนมีจิตใจที่ดีได้เร็วขึ้น สำหรับคนไทยอีก 1 คน ที่ยังมีรายชื่อเป็นตัวประกันจะยังเดินหน้าติดตามหาต่อไป ส่วนแรงงานไทยอีก 2 คน ที่เสียชีวิต จะนำร่างกลับมาสู่มาตุภูมิให้เร็วที่สุด

ขณะที่นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ทุกภาคส่วนพยายามช่วยเหลือจนสำเร็จ ทั้ง 5 คน ถือว่าโชคดีที่ได้รับการปล่อยตัวออกมา กระทรวงแรงงานและอิสราเอลได้ประสานในการดูแลเยียวยา ครั้งแรกจะได้รับคนละ 6 หมื่นเชคเกล หรือราว 6 แสนบาท และรับรายเดือน เดือนละ 3,300 เชคเกล หรือ 3 หมื่นบาท ไปจนถึงอายุ 67 ปี หลังจากอายุ 67-80 ปี จะรับเป็นรายปี ปีละ 39,000 เชคเกล (ราว 3.71 แสนบาท) อายุ 80 ปีขึ้นไป รับปีละ 49,000 เชคเกล (ราว 4.66 แสนบาท) ถ้ากลับไปอิสราเอลสิทธิทั้งหมดจะถูกยกเลิก ส่วนตัวประกันอีก 1 คน ที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ทุกภาคส่วนพยายามประสานความช่วยเหลืออยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแรงงานอีก 1 ราย ที่มีชื่อเป็นตัวประกันและยังไม่ได้รับการปล่อยตัว คือ นายณัฐพงศ์ ปินตา จาก อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ขณะนี้ยังไม่ทราบสถานะว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่หรือถูกคุมขังอยู่ที่ไหน แรงงานที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 5 คน ต่างไม่เคยพบเห็นนายณัฐพงษ์ เพราะถูกแยกคุมขัง แต่เชื่อว่าน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ส่วนแรงงานไทยที่มีรายชื่อเป็นตัวประกันอีก 2 ราย คือ นายสนธยา อัครสี อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู และนายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ อายุ 42 ปี จ.หนองคาย ทางการอิสราเอลแถลงตั้งแต่เดือน พ.ค.2567 พบว่าทั้ง 2 ราย เสียชีวิตตั้งแต่ช่วงต้นของเหตุการณ์ในเดือน ต.ค.2566 จนถึงวันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนส่งร่างกลับไทย เหตุความไม่สงบในอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2566 มีแรงงานไทยเสียชีวิต 46 ราย ได้รับบาดเจ็บ 23 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 28 ราย

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงการกลับไทยของ 5 ตัวประกันคนไทยว่า นับตั้งแต่ เดือน ต.ค.2566 ความขัดแย้งระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ กลุ่มฮามาสและเครือข่ายพันธมิตร ได้ส่งผลให้แรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิต 46 คน ขณะที่การปล่อยตัวประกันไทย 5 คนกลับบ้านครั้งนี้ ถือเป็นดีลพิเศษ มิได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ข่าวบางกระแสบ่งชี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรอง “ประเทศที่สาม” ที่ระยะหลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในเกมอิทธิพลภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนการปล่อยตัวประกันเฟสแรกมีกรอบเวลาทั้งหมด 3 สัปดาห์ มีตัวประกันชาวอิสราเอลถูกปล่อยตัวแล้ว 21 คน ชาวไทย 5 คน แลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ในเรือนจำ 566 คน สำหรับคนไทยที่ยังถูกจับเป็นตัวประกันอยู่อีก 1 คน คือนายณัฐพงษ์ ปินตา ชาวจังหวัดแพร่

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่