วันนี้ผมขอแสดงความชื่นชม แบงก์ชาติ ที่ออกกฎเข้ม ปราบบัญชีม้าคอลเซ็นเตอร์จีนเทา อย่างจริงจัง ด้วยปฏิบัติการ “ปิดปากม้า” ปิดบัญชีม้าทุกบัญชีตั้งแต่ 31 มกราคม 2568 ห้ามธนาคารทุกแห่งทำธุรกรรมโอนเงินเข้าบัญชีที่เสี่ยงต้องสงสัยเป็นบัญชีม้า ผู้โอนจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีที่ต้องสงสัยดังกล่าวได้ และให้สถาบันการเงินแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการว่า บัญชีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นบัญชีม้าหรือเสี่ยงเป็นบัญชีม้า ปัจจุบันแบงก์ชาติสามารถทำได้กับธนาคารบางแห่งแล้ว คาดว่าจะทำได้ครบทุกธนาคารภายในเดือนมีนาคมนี้ บัญชีม้าเทาเข้มและม้าเทา จะมีการ “ปิดปากม้า” ในเดือนมีนาคมเช่นเดียวกันไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ เป็นการยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน
การออกมาตรการ “ปิดปากม้า” ครั้งนี้ถือเป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุด เครือข่ายมือถือและธนาคารไหนประมาทโอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าบัญชีม้า ก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
คุณดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ เปิดเผยถึง มาตรการลดจำนวนบัญชีม้า และลดความเสียหายของประชาชนที่ถูกหลอกลวง 3 มาตรการ มาตรการแรก คือ การเพิ่มคำจำกัดความของการเป็นบัญชีม้า ที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องจัดการให้มากขึ้น จากเดิมที่มี “ม้าดำ” ซึ่งเป็นบัญชีที่ ปปง.ประกาศแล้วว่าเป็นบัญชีม้า “ม้าเทาเข้ม” บัญชีที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความ และ “ม้าน้ำตาลเข้ม” ซึ่งเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจสอบแล้วเห็นว่า น่าจะเข้าข่ายบัญชีม้า แต่ยังไม่มีการแจ้งความว่าได้รับความเสียหายจากกรณีนี้ ธปท.ให้แบ่งม้าเพิ่มอีก 2 สี คือ “ม้าเทาอ่อน” ซึ่งธนาคารเห็นชัดเจนว่าเป็นบัญชีม้า แต่ยังไม่มีการแจ้งความ และ “ม้าน้ำตาลอ่อน” ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย เช่น มีการโอนเงินเข้าออกทันทีที่มีเงินเข้ามา หรือโอนเงินไปยังบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ บัญชีคริปโตฯบ่อยครั้ง รวมทั้งให้ติดตามบัญชีม้าที่เป็น “นิติบุคคล” เพิ่มขึ้นด้วย
...
มาตรการที่ 2 การจัดการกับ “บัญชีม้าระดับบุคคล” ที่เข้มข้นขึ้น จากเดิมที่ธนาคารระงับการโอนเงินออกจากบัญชีม้า และปฏิเสธการเปิดบัญชีใหม่ กับ บัญชีม้าดำ ม้าเทา ม้าเทาอ่อน ในช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ธปท.จะยกระดับให้การห้ามเอาเงินออกจากบัญชีเพิ่มเติม ครอบคลุมไปถึงกรณีของบัญชีที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเป็นบัญชีม้า แต่ยังไม่ถูกแจ้งว่าทำให้เกิดความเสียหายด้วย โดยจะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้
ธปท.ยังได้เพิ่มมาตรการใหม่ คือ การปฏิเสธไม่ให้โอนเงินเข้าไปยังบัญชีของม้าทุกประเภทที่ระบุได้ชัดเจนว่ามีความเสี่ยงสูง เป็นการป้องกันไม่ให้เงินไปถึงมือของมิจฉาชีพตั้งแต่แรก และเหยื่อไม่ได้รับความเสียหาย โดยธนาคารต้องแจ้งเตือนให้ผู้โอนรู้ตัวว่า อาจกำลังโอนเงินไปยังบัญชีม้า การห้ามโอนเงินไปยังบัญชีม้าดำ ม้าเทาเข้ม ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนกรณี ม้าสีเทาอ่อน ม้าสีน้ำตาลเข้ม จะเริ่มห้ามโอนในเดือนมีนาคมนี้ กรณี “ม้าน้ำตาลอ่อน” อาจจะมีการ หน่วงเวลาการชำระเงิน หรือ แจ้งให้ลูกค้าทราบการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย หรืออื่นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับมาตรการภายในของแต่ละธนาคาร
ส่วน บัญชีม้านิติบุคคล ธปท.ห้ามนำเงินออกหากได้รับแจ้งว่าเกิดความเสียหาย
มาตรการที่ 3 เป็นการขยายวงการจัดการบัญชีม้าในวงที่กว้างขึ้น โดยกำหนดให้ ธนาคารต้องแลกเปลี่ยนรายชื่อบุคคลที่ธนาคารตรวจสอบพบว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยระหว่างกันเพิ่มเติม แม้ยังไม่ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย หรือม้าเทาอ่อน ม้าน้ำตาล จากเดิมที่แลกเปลี่ยนกันเฉพาะรายชื่อบุคคลที่เป็นม้าดำกับม้าเทาเท่านั้น เพื่อให้ธนาคารดำเนินการป้องกันภัยทุจริตให้ครอบคลุม รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น ต่อไปนี้ “บัญชีม้า” เปิดที่ธนาคารไหน ทุกธนาคารจะรู้หมด มีการแชร์ข้อมูลร่วมกัน แก๊งคอลหลอกแล้วโอนเงินเข้าแบงก์ไม่ได้ เจ้าของเงินก็ปลอดภัย แบงก์ชาติเปิดเกมรุกออกมาตรการปิดบัญชีม้าแล้ว กสทช. ที่ดูแลคอลเซ็นเตอร์ทำไมยังนั่งเฉยอยู่หือ?
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม