ไฟใต้ยังไม่ดับ และยังคงอยู่คู่กับประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้าย 4–5 คน แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่รัฐ ปิดบังใบหน้า จี้รถไปจอดที่หน้าบ้านนายอำเภอตากใบ นราธิวาส  เกิดระเบิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย ย้อนหลังกลับไปอีกไม่กี่วัน เกิดการปล้นปืนที่ อ.แว้ง นราธิวาส

นั่นก็คือการปล้นปืนเจ้าหน้าที่และวางเพลิง ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ในพื้นที่อำเภอแว้ง นราธิวาส เช่นเดียวกัน คนร้ายบุกโจมตีอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และหน่วยอื่นๆ และมีการฟ้องเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อศาลจังหวัดนราธิวาส “คดีตากใบ” เพื่อไม่ให้ขาดอายุความ ภายใต้วันที่ 25 ตุลาคม เจ้าหน้าที่รัฐที่กลายเป็นจำเลย ก่อนที่คดีจะหมดอายุความ มีทั้ง พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์ศิริ อดีตแม่ทัพภาค 4 ปัจจุบันเป็น สส.พรรคเพื่อไทย และยังมีอดีตนายตำรวจระดับ  พล.ต.อ.และอดีตข้าราชการระดับสูง ในข้อหาเกี่ยวกับการเสียชีวิตของประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจ อ.ตากใบ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม

เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่รัฐ มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง มีฝูงชนถูกจับขึ้นรถ นอนทับซ้อนกันบนรถทหาร เพื่อนำส่งตัวค่ายทหาร  เสียชีวิตจำนวนมากเนื่องจากขาดอากาศหายใจ รวมเป็น 78 ศพ ต่อมารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทำการตรวจสอบ  และเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตคนละ 7.5 ล้านบาท

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ส่งคณะผู้แทนไทย เพื่อพูดคุยสันติสุขกับคณะผู้แทนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยมีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพการเจรจา  แต่การเจรจายังไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ก็ยังมีการเจรจากันอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน การปล้นปืนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อเร็วๆนี้ คล้ายกับอดีตที่ผ่านมา

...

เคยมีการปล้นอาวุธจากค่ายทหารครั้งใหญ่ เมื่อเดือนมกราคม 2547 ในช่วงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ทำให้ไฟใต้ลุกลามกลายเป็นศึกใหญ่ รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ในปี 2547 แต่อดีตนายกฯทักษิณเคยยอมรับกับ นสพ.สิงคโปร์ ในภายหลังว่ากระทำรุนแรงต่อชาวมุสลิมในภาคใต้เป็นความผิดพลาด

นายทักษิณพูดกับสื่อสิงคโปร์ว่า การเป็นตำรวจ ทำให้ถูกสอนว่าต้องใช้กำปั้นเหล็ก และถุงมือกำมะหยี่ แต่ตนใช้กำปั้นเหล็กมากไป และเสียใจในสิ่งที่กระทำ น่าคิดว่าไฟใต้พัวพันนายกฯตระกูลชินวัตรมาแล้ว 2 คน จะต่อยอดมาถึงคนที่ 3 คือนายกรัฐมนตรีแพทองธารหรือไม่ นักวิชาการส่วนใหญ่แนะให้ใช้แนวทางสันติ ห้ามใช้กำปั้นเหล็ก.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม