รองปลัด อว.นำทีมสอบผู้บริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เคลียร์ปมฉาวการซื้อขายวุฒิปริญญาบัตร หลัง “ซ้อลักษณ์” แจ้งตำรวจโรงพักเมืองสกลนคร อ้างถูก “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง หลอกสูญเงิน 2 แสนบาท ชี้หลังเกิดเรื่องมีคำสั่งให้ผู้บริหารระดับคณะพ้นตำแหน่งไปแล้ว ขณะที่มหาวิทยาลัยยันไม่เกี่ยวข้อง ด้านพนักงานสอบสวนเดินหน้ารวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาเจอหมายจับจากคดีอื้อฉาวแวดวงการศึกษา กรณี น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ หรือ “ซ้อลักษณ์” แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ให้ดำเนินคดี น.ส.ชลิดา หรือต้นอ้อ พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง อ้างว่าถูกหลอกซื้อขายวุฒิปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยพิษณุโลกและยังแอบอ้างเสนอซื้อขายตำแหน่ทางการเมือง มีคนขับรถนักการเมืองในฝั่งรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการอุดมศึกษาและสถาบันการเมืองความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ก.ค. พ.ต.ท.ธนกฤต เจริญเนติกุล รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองสกลนคร เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ แจ้งความ 2 เรื่อง คือคดีฉ้อโกงและคดีปลอมแปลงเอกสาร ในส่วนคดีฉ้อโกงผู้เสียหายอ้างว่าถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์จำนวน 200,000 บาท ด้วยการปลอมวุฒิการศึกษาปริญญาบัตร ส่วนคดีปลอมแปลงเอกสารหนังสือจัดตั้งมูลนิธิ ผู้เสียหายอ้างว่าไม่ได้เป็นคนลงลายมือเซ็นชื่อ แต่มีการมอบเอกสารให้ พ.ต.อ. ชัชวาลย์ ดวงแก้ว ผกก.สภ.เมืองสกลนคร กำชับให้ทำด้วย ความละเอียดรอบคอบและความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย“ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เบื้องต้นสอบปากคำผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว หากมีหลักฐานแน่ชัดก็จะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาตามหมายเรียกจะออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนการสั่งฟ้องคดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพยานและหลักฐาน” พ.ต.ท.ธนกฤตกล่าววันเดียวกัน นายศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จ จริง กรณีการซื้อขายวุฒิปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยพิษณุโลก นำทีมกฎหมายลงพื้นที่สอบถามรายละเอียดข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก นำโดยนายมานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษนายศุภชัยเปิดเผยว่า น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. สั่งการให้นำทีมกฎหมายลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสังคมและความเชื่อมั่นต่อระบบการอุดมศึกษาของประเทศ พร้อมกำชับให้เร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมคลางแคลงใจ จากการตรวจสอบของคณะกรรมการ ได้รับรายงานว่ามหาวิทยาลัยได้ตั้งกรรมการสอบสวนและพบว่ามีผู้บริหารระดับคณะมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการดังกล่าว มหาวิทยาลัยมีคำสั่งให้ผู้บริหารระดับคณะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และรายงานสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกทราบแล้ว รวมทั้งจะรายงานให้ อว.ทราบภายใน 7 วันด้านนายมานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่าย บริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งยินดีร่วมมือกับ อว.และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ความจริงว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายปริญญาบัตรดังกล่าว และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก กระบวนการหลังจากนี้มหาวิทยาลัยจะปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ควบคุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคอยสอดส่องดูแลภายในอย่างเข้มงวดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่