ถึงกับร้องโอดครวญว่าถูก “รุมกินโต๊ะ” ไม่มีใครเป็นพวกช่วยเหลือเลย
ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ผู้โด่งดังคับแผ่นดิน ที่กำลังใกล้จุดอวสานเต็มทนแล้ว
เพราะยิ่งนานไปผู้คนก็ยิ่งเบื่อและรำคาญว่าเมื่อไรจะจบเสียที ตำรวจนั้นคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลประชาชนทั้งประเทศ
ไม่ใช่ให้ผู้คนมานั่งลุ้นว่าฝ่ายไหนจะแพ้ชนะอย่างนี้
ประเด็นที่เป็นสัจธรรมความจริงก็คือ ในสภาพที่เกิดขึ้นนั้น “บิ๊กโจ๊ก” ควรจะสังวรตัวเองได้แล้วว่า
ทำไมตัวเองจึงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ไม่ต่างไปจาก “หมาหัวเน่า” ก็ว่าได้
ก.ตร.ลงมติเอกฉันท์ยืนยันว่า คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็แสดงว่าทุกคนเห็นตรงกันไม่มีเสียงแตกเป็นไปอย่างอื่น
นั่นคือคำตอบที่ชัดเจน...
ยิ่งสู้ต่อไปจะด้วยการใช้วิธีการอย่างใดก็ไม่มีทาง แล้ว
ยิ่งล่าสุดประกาศจะฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี และ ก.ตร.ทั้งคณะก็ยิ่งชัดเจน
ขี้แพ้ชวนตี...
แต่ไม่มีใครกลัวหรือสนใจแล้ว มีแค่รอว่าคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) จะมีคำสั่งออกมาอย่างใดเท่านั้น
อย่าว่าแต่ประชาชนโดยทั่วไปเลย ตำรวจด้วยกันเขาก็เอือมกันหมดแล้ว
ยิ่งไปพูดว่าที่ตัวเองมีปัญหานั้น เป็นเพราะทำงานหนักมี
ผลงานทำให้คนอื่นไม่ชอบ จึงหาทางกลั่นแกล้งนั้นก็ยิ่งไปกันใหญ่
เพราะที่เติบโตขึ้นมาถึงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.อย่างรวดเร็วนั้น ไม่ใช่ฝีมือหรือมีผลงานอะไรหรอก แต่เป็นเพราะยอมเป็นลูกน้องคนสนิท ให้ผู้มีบารมีทางการเมือง จนได้รับการอุ้มชู กระโดดข้ามหัวนายตำรวจด้วยกัน
จนมีตำแหน่งสูงขึ้นอย่างพรวดพราด แบบไม่มีใครทำได้แบบนี้มาก่อน
...
นี่คือประเด็นหนึ่งที่ทำให้เพื่อนนายตำรวจด้วยกัน รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม แน่นอนว่าในใจก็คงไม่มีใครชอบไม่ได้อิจฉา
ยิ่งมาทำเป็นกร่างก็ยิ่งไปกันใหญ่
อีกประเด็น เมื่อการเมืองเปลี่ยนยุคตัวเองก็หวังเอาตัวรอด เอาความลับไปเปิดเผยว่า “นายเก่า”นั้นมีอำนาจสั่งการ ป.ป.ช.ได้
ก็เลยไปกันใหญ่!
วันนี้ “ทักษิณ” ผู้มากบารมีในยุคสมัยปัจจุบัน ยังบอกว่าปัญหา “ตำรวจ” ณ วันนี้ “วุ่นวาย” คล้ายจะบอกว่าไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย
ก็เหมือนจะบอกใบ้ว่าตัวใครตัวมัน
ที่มีข่าวว่ามี “ดีลลับ” ต่อรองระหว่าง “บิ๊กโจ๊ก” กับ “บิ๊กต่อ” ด้วยผู้มีอำนาจของแต่ละฝ่ายนั้น จึงไม่น่าใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
เพราะ “บิ๊กโจ๊ก” นั้นหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีใครเขาเอาด้วย
คนเรานั้นทำอะไรไว้ อย่าคิดว่าคนไม่รู้ ไม่สามารถหลอกกันได้ จึงไม่แปลกที่ทำให้เกิดยุทธการ “รุมกินโต๊ะ” โดยมิได้นัดหมาย
เพราะตำรวจนั้นเขี้ยวแค่ไหน ย่อมเป็นที่ทราบกันดี!
“สายล่อฟ้า”