อุบัติเหตุรถทัวร์ชนสนั่น 2 รายซ้อน รายแรกพุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้ที่จอดรอเลี้ยวกลับรถกลางถนน ถูกรถกระบะชนท้ายซ้ำอีก 2 คัน มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เป็นโชเฟอร์รถทัวร์กับพนักงานต้อนรับหญิง ส่วนผู้โดยสารบาดเจ็บระนาว คาดสาเหตุจากไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนดับสนิท ทำให้คนขับรถทัวร์มองไม่เห็นรถพ่วงที่รอเลี้ยวอยู่ ชาวบ้านโวยไฟส่องทางเสียมานานร่วมเดือนทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แจ้งแขวงทางหลวงไปแล้วอ้างรองบซ่อมอยู่ อีกรายฝนตกถนนลื่นชนซ้ำซ้อน 3 คันรวด รถบรรทุกเสียหลักชนแท่งแบริเออร์กลางถนนถูกกระบะกับรถทัวร์ชนซ้ำระเนนระนาด สองพ่อลูกโบกรถกระโดดหนีตาย ลูกชายโชคร้ายถูกแท่งแบริเออร์ทับขาหัก
ไฟถนนเสียชนวนอุบัติเหตุสลด รถทัวร์พุ่งชนท้ายรถพ่วงดับ 2 ศพ บาดเจ็บระนาวเปิดเผยเมื่อเวลา 22.10 น. วันที่ 16 มิ.ย. พ.ต.ท.สมบูรณ์ พุ่มขจร สว. (สอบสวน) สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถทัวร์ชนท้ายรถพ่วง และมีรถกระบะชนท้ายรถทัวร์ซ้ำซ้อนอีก 2 คัน บนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น กม.ที่ 478 จุดกลับรถเขาพาง หน้าซุ้มประตูภาคใต้ ตรงข้ามป้อมบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงท่าแซะ หมู่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ประสานชุดกู้ภัยสายชลเขตเมืองและท่าแซะระดมเจ้าหน้าที่พร้อมรถพยาบาลไปช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์ปรับอากาศ ร่วม บขส. วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-ระนอง สีขาวคาดฟ้าเหลือง ทะเบียน 15-4515 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ คือนายธนากร เอื้องาน คนขับรถทัวร์ และพนักงานต้อนรับหญิงยังไม่ทราบชื่อ ถูกอัดก๊อบปี้ติดคาเบาะนั่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดศพออกมา นอกจากนี้ ยังมีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถ 24 คน ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก ส่วนใหญ่แขนขาหักและฟกช้ำหลายราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลก่อนรีบลำเลียงส่ง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ รพ.ธนบุรี และ รพ.ท่าแซะ
...
ส่วนคู่กรณีที่ถูกรถทัวร์ชนท้ายเป็นรถพ่วง 22 ล้อ ทะเบียน 70-0900 ระนอง ทะเบียนพ่วง 70-0901 ระนอง บรรทุกไม้ยางพาราตัดท่อนขนาด 1.20 เมตรมาเต็มคัน จอดอยู่เลนขวาสุดตรงจุดกลับรถ ถูกชนท้ายพ่วงจนชุดเพลาล้อคู่หลังหลุด ท่อนไม้ยางพาราตกกระจายเกลื่อน นอกจากนี้ยังมีรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บร 1979 ชุมพร มีนายนิพนธ์ พูลชนะ อายุ 52 ปี เป็นคนขับ ชนท้ายรถทัวร์และรถกระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน กต 1691 ชุมพร มีนายศรณ์ฉัตร เศรษฐภาคย์ภคิน อายุ 45 ปี เป็นคนขับ ชนท้ายรถกระบะคันหน้าอีกที สภาพรถพังยับทั้ง 2 คัน
สอบถามนายมาโนช น้อยจิ๋ว อายุ 40 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกไม้ให้การว่า ขึ้นไม้มาจาก ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จะไปส่งเข้าโรงงานแปรรูปไม้ที่ จ.ตรัง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุต้องเลี้ยวกลับรถเพื่อไปเติมก๊าซในปั๊มฝั่งตรงข้าม โดยเปิดไฟเลี้ยววิ่งเลนขวามาจอดตรงจุดกลับรถ เพื่อรอให้ถนนอีกฝั่งว่างจะได้เลี้ยวออกไป แต่จอดรอได้ไม่นานก็ถูกรถทัวร์ชนท้ายอย่างจังจนรถกระเด็นไปตามแรง ก่อนจะมีรถกระบะชนท้ายรถทัวร์ซ้ำอีก 2 คัน ด้านคนขับรถกระบะทั้ง 2 คัน เผยว่า ขับรถตามกันมามีรถทัวร์อยู่ด้านหน้าใช้ความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อ ชม. จนมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆดูเหมือนรถทัวร์จะจอดนิ่งอย่างกะทันหัน เบรกไม่ทันทำให้พุ่งชนท้ายต่อๆกันจนรถพังเสียหายดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าไฟส่องสว่างบนถนนดับมืดสนิทเป็นทางยาว ประกอบกับรถพ่วงที่จอดรอกลับรถอยู่เลนขวาอาจจะจอดกินเลนไปกลางถนนเพื่อตีวงเลี้ยว ทำให้คนขับรถทัวร์มองไม่เห็นเลยพุ่งเข้าชนท้ายอย่างจัง ชาวบ้านระบุว่า ไฟส่องทางเสียมานานนับเดือนแล้ว มักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำ เคยโทรศัพท์สอบถามไปยังแขวงทางหลวงชุมพรอ้างว่ารองบประมาณจัดซื้อซ่อมแซมอยู่ อย่างไรก็ตาม ตำรวจบันทึกภาพและสอบปากคำพยานแวดล้อมไว้จำนวนหนึ่ง ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งทำความสะอาดและยกรถทั้งหมดออกจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากการจราจรติดขัดยาวกว่า 3 กม. หลังจากนี้จะสอบสวนผู้โดยสารรถทัวร์เพิ่มเติมเพื่อสรุปสำนวนคดี มีเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
อุบัติเหตุรถทัวร์อีกรายที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 17 มิ.ย. ร.ต.อ.เปล่ง พานแก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบอุบัติเหตุซ้ำซ้อนรถชนกัน 3 คัน ขณะฝนตกทำให้ถนนลื่น บนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงลงสะพานบ้านม้า กม.ที่ 24 ต.บ้านเกาะ พบรถบรรทุก 6 ล้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-0909 ยโสธร ชนแท่งปูนแบริเออร์ร่องกลางถนน มีรถกระบะชนท้าย 1 คัน และรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ สีขาวฟ้า ทะเบียน 16-6329 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายซ้ำอีกคัน จนรถบรรทุกและรถทัวร์ขึ้นไปเกยอยู่บนแท่งแบริเออร์
สอบถามนายสมกิจ คำทวี อายุ 55 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เผยว่า รถบรรทุก 6 ล้อ มีนายชัย คำทวี อายุ 35 ปี ลูกชายตนเป็นคนขับ ประสบอุบัติเหตุฝนตกถนนลื่นเสียหลักชนแท่งปูนแบริเออร์กลางถนน ลูกชายไม่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงรถเสียหายเล็กน้อย ตนทราบข่าวขับรถจากกรุงเทพฯมาดูลูกชายที่เกิดเหตุ พบว่ามีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ มาช่วยเคลียร์การจราจรเนื่องจากบริเวณจุดที่ชนอยู่เลนขวาสุด และมีฝนตกลงมาตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาก็ขับรถออกไปทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเตือน จนมีรถกระบะขับมาพุ่งชนท้ายรถเป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นายสมกิจเผยต่อไปว่า ตนกับลูกชายพยายามลงไปยืนโบกอยู่ท้ายรถเพื่อส่งสัญญาณให้รถวิ่งผ่านมามองเห็น ไม่ให้มีรถมาชนซ้ำอีก แต่แล้วจู่ๆรถทัวร์โดยสารที่วิ่งมาด้วยความเร็วเบรกไม่อยู่เนื่องจากถนนลื่น ทำให้พุ่งชนซ้ำอีกคัน ตนกับลูกชายต้องกระโดดหนีตายลงไปในร่องกลางถนนคนละทิศคนละทาง ตนปลอดภัยได้รับบาดเจ็บที่แขนเพียงเล็กน้อย แต่ลูกชายโชคร้ายถูกแท่งแบริเออร์ทับขาหักได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.ราชธานี ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์ 30 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บ มีรถทัวร์อีกคันมารับกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะต้องนำตัวคนขับทั้ง 3 คัน ไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่