“ทนายตั้ม” เข้าให้ปากคำตำรวจ ปปป.มอบ หลักฐานสำคัญ 175 รายการ ระบุมาให้การเพิ่มและขอให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินและหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีม้าเว็บพนันว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจระดับไหนบ้าง ตั้งแต่ชั้นประทวนไปจนถึง พล.ต.อ. ยืนยัน 1 เม.ย.จะไปแจ้งความดำเนินคดีบิ๊กต่อและภรรยา รวมทั้งบัญชีม้า 2 ราย ข้อหาร่วมกันฟอกเงินตามนัดหมายที่ สน.เตาปูน ฟุ้งต่อวันเดียวกันช่วงบ่ายสองจะไปรัฐสภา หลัง “ชัยธวัช ผู้นำฝ่ายค้าน” ประสานมาขอดูหลักฐาน
ภายหลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นตัวแทน พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. แถลงถอนฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่ออกมาเปิดโปงแฉเส้นเงินเว็บพนันพันไปถึงนายตำรวจ ใกล้ชิดและครอบครัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ในคดีหมิ่น ประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท โดยให้เหตุผลเพราะอีกฝ่ายจะแจ้งความ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพวก รวม 4 คน ข้อหาฟอกเงินในวันจันทร์ที่ 1 เม.ย.นี้ ที่ สน.เตาปูน โดยทั้งคู่เสมือนเป็นตัวแทนของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่มีความขัดแย้งกัน จนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เซ็นคำสั่งย้ายทั้งคู่ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำให้ตำรวจมีความสามัคคี ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่เรื่องยังไม่จบเพราะมีมวยแทนของทั้ง 2 ฝ่ายออกมาขย่มกันต่อเนื่อง ถึงแม้นายษิทราจะปฏิเสธก็ตามที ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 มี.ค. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์ปณต บัวแก้ว รอง ผกก. (สอบสวน) กก.4 บก.ปปป. เพื่อให้สอบปากคำเกี่ยวกับหลักฐานที่นำมามอบให้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งเอกสารหลักฐานเรื่องส่วยที่นำมาให้เพิ่มเติมรวมทั้งหมด 175 รายการ
นายษิทราเผยว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติม นัดหมายกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ประเด็นที่จะให้ปากคำวันนี้เกี่ยวกับหลักฐานที่เคยยื่นในวันนั้น แต่วันนี้มาให้การเพิ่มเติมและให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้ระบุอย่างละเอียดในคำให้การและให้ตรวจสอบหลักฐานการโอนเงินว่าเกี่ยวข้องกับตำรวจระดับไหนบ้าง ตั้งแต่ระดับชั้น พ.ต.อ. ชั้นประทวน ไปจนถึงระดับชั้น พล.ต.อ. นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ 1 เม.ย. จะไปแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ภรรยา และบัญชีม้า 2 ราย ที่ สน.เตาปูน ข้อหาร่วมกันฟอกเงินตามที่นัดหมายไว้
...
นายษิทรากล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอเสียงสนทนาของตำรวจ 2 ราย ที่โพสต์ลงเพจตัวเอง เมื่อค่ำวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น เหตุเกิดเดือน ส.ค.65 เป็นการพูดคุยกันของทีมแม่บ้านตำรวจคอมมานโด และตำรวจ ปคม. ในการเก็บส่วยคาราโอเกะย่านลาดพร้าว ปกติ ปคม.เก็บอยู่ร้านละ 1,000 บาท 3 ร้าน ก็3,000 บาท ภายหลังมีตั๋วคอมมานโดเพิ่มเข้ามา ขอให้เก็บอย่างน้อยร้านละ 500 บาท รวมเป็น 4,500 บาทต่อร้าน
ทนายตั้มระบุว่า เรื่องเกิดขึ้นมาจากบัญชีม้าของ น.ส.พิมพ์พิไล ที่ถูกจับกุมคดีเว็บพนัน BNK Master และเว็บพนัน VENUS Master รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับดาบยาว หรือ ด.ต.อภิชาติ สุวรรณเพ็ชร สังกัด กก.1 บก.สอท.2 และรองฟาง หรือ พ.ต.ท.สุรกุล ธัญสิริดำรง รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.2 สองตำรวจไซเบอร์ลูกน้องคนสนิท ผบ.ตร. เรื่องการ รับเงินจากเว็บพนันและเรื่องเส้นทางการเงินตามที่ได้เคยเผยแพร่ไว้ วันนี้มาให้การเพื่อไปสู่การตรวจสอบ เรื่องเส้นทางการเงิน และเลขบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ปรากฏในรูปของสำนวนคดี เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์สั่งทีมกฎหมายถอนแจ้งความหมิ่น ประมาทฯ มองอย่างไรนั้น ทนายตั้มระบุว่า ตนปากไวไป หน่อยที่พูดที่วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี ว่าจะไปขอหมาย ศาลเรียกเอกสาร เช่น รายการเดินบัญชี (Statement) พวกเขาคงกังวลว่าจะไปเรียกเอกสารสำคัญอะไรมาเลยไปถอนฟ้อง ทำให้ตนไม่สามารถเรียกเอกสารอะไรโดยใช้หมายศาลได้ แต่ไม่เป็นไร ได้ระบุกับ ตำรวจไปแล้วว่าจะเรียกเอกสารทุกอย่างที่ได้ขอไป
นายษิทรากล่าวต่อว่า สำหรับการไปถอนฟ้อง ของคู่กรณีที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้ไปขอให้ถอนฟ้อง ไม่เกี่ยว กับการต่อรองอะไรกัน การที่เขามาฟ้องเองแล้วถอน ฟ้องเองเป็นสิทธิของเขา แต่เราจะดำเนินการต่อไป ตามที่นัดหมายไว้สองเรื่องคือ ดำเนินคดีกับตำรวจ และเรื่องส่วยที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ทุกหย่อมหญ้า ต้องเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จัดการอย่านิ่งเฉยเพราะทุกคนรู้เรื่องกัน หมด เป็นผู้นำรัฐบาลแต่ไม่คิดมาแก้ไขอะไรเลย ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีดีลลับ รับรองว่าที่นัดหมายทุกคนไว้จะไป แจ้งความจะไปตามเดิม ถ้ามีดีลลับคงไม่ไปแจ้งความ
ทนายตั้มกล่าวอีกว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านได้ประสานมาขอหลักฐานเผื่อจะช่วยอะไรได้ ตนเห็นถึงความตั้งใจของผู้นำฝ่ายค้าน วันจันทร์ที่ 1 เม.ย. ช่วง 14.00 น. จะไปพบนายชัยธวัช ที่รัฐสภาเพื่อให้ดูหลักฐานต่างๆ ส่วนจะไปเชื่อมโยงกับการอภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้หรือไม่นั้น ไม่ทราบว่าเขาจะอภิปรายเรื่องอะไรกันบ้าง แต่ถ้าข้อมูลที่ให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายไม่ว่าฝ่ายของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่เพราะว่าหัวหน้ารัฐบาลไม่ได้สนใจเรื่องส่วย ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านสนใจจึงประสานตนในเรื่องที่เคยแถลง ส่วนเรื่องของความปลอดภัยในวันนี้ยังไม่มีใครมาขับขี่รถตามรถตน แต่ก็ยังต้องระมัดระวังตัว ไปเล่นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนายตำรวจมากกว่า 1 แสนราย
มีรายงานว่า ก่อนนี้เมื่อค่ำวันที่ 30 มี.ค. ที่โรงเรียนวิเชียรชม ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา มีการจัดงานเพชรคืนถิ่น ครั้งที่ 1 กิจกรรมรวมใจเป็นหนึ่งคนใต้ ไม่ทิ้งกันให้กำลังใจ มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธีเปิดและพบปะกับเพื่อนพี่น้อง ประชาชนชาวสงขลา และศิษย์เก่าโรงเรียนวิเชียรชม รวมทั้งสมาชิกสมาคมชาวปักษ์ใต้ หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ทำพิธีเปิดเสร็จ ได้มีเด็กๆและคนในงานเข้าแถวยื่นดอกกุหลาบให้เป็นกำลังใจฝ่าฟันมรสุมที่เกิดขึ้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า คนใต้ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน ตนไม่เคยสร้างบ้านไว้ที่ไหน เพราะเคยพูดกับภรรยาว่าถ้าจะสร้างบ้านจะไม่สร้างบ้านไว้ที่อื่น จะต้องกลับมาอยู่สงขลามาพัฒนาจังหวัดบ้านเกิด เมื่อมีโอกาสว่างจะกลับสงขลาเหมือนที่มาวันนี้ พอมีเวลาว่างก็ได้กลับมาเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงสมัยเรียน และมาเยี่ยมโรงเรียนเก่าที่เคยศึกษาในชั้นประถม คนใต้ยังไงก็ไม่ทิ้งกันถ้าใครได้รับความเดือดร้อนติดต่อตนได้ตลอด หรือติดต่อไปทางสมาคมชาวปักษ์ใต้ หรือลูกหลานที่ไปเรียนกรุงเทพฯไม่มีที่อยู่ ต่อไปที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ที่กรุงเทพฯจะทำเป็นที่อยู่ให้ลูกหลานชาวปักษ์ใต้ได้ไปอยู่ระหว่างเรียนหรือศึกษา ส่วนประเด็นหมายเรียกขอไม่ตอบให้ไปถามทนาย เมื่อถามว่าฝากอะไรไปถึงทนายตั้ม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ตอบว่า เรื่องนี้ไม่รู้เรื่องเป็นเรื่องของเขาเอง ส่วนหมายเรียกทั้งสองหมายนั้น ให้ว่าไปตามกฎหมาย ตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่