จังหวัดนครสวรรค์นับเป็นแหล่งปลูกกล้วยน้ำว้าดง (น้ำว้าเขียว) ที่สำคัญ เนื่องจากพื้นที่สามารถปลูกได้ทั้งปี เกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี จึงเกิดแนวคิดรวมกลุ่มแปลงใหญ่กล้วยตัดใบ เพื่อจัดหาและขยายตลาดโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

เป็นแปลงใหญ่กล้วยตัดใบแห่งเดียวในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เริ่มดำเนินการมาเมื่อปี 2565 สมาชิก 32 ราย มีพื้นที่ปลูกรวม 374 ไร่ ปลูกกล้วยพันธุ์น้ำว้าเขียว เนื่องจากสามารถตัดใบได้ตลอดทั้งปี สีสวยกว่ากล้วยพันธุ์อื่น เมื่อนำไปห่อหุ้มอาหารหรือขนมจะไม่มีรสขมของใบกล้วยปะปนกับอาหาร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลิตของกลุ่มแปลงใหญ่กล้วยตัดใบ พบว่าในปีแรกจะมีต้นทุนก่อนให้ผลผลิตไร่ละ 9,875 บาท ประกอบด้วย ค่าหน่อพันธุ์กล้วย ค่าเตรียมพื้นที่ ค่าแรงงานปลูก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

การดูแลรักษา เกษตรกรจะให้น้ำสปริงเกอร์แบบท่อนในสวนกล้วยหรือสูบแบบเทราดเฉลี่ยเดือนละ 2-4 ครั้ง และหลังจากเกษตรกรนำหน่อพันธุ์กล้วยมาปลูกจนได้อายุ 7-8 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นกล้วยเจริญเติบโตเต็มที่

...

ในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรจะมีต้นทุนเฉลี่ยไร่ละ 13,933.75 บาท/ปี ค่าใช้จ่ายหลักๆคือ การเก็บเกี่ยวผลผลิต เนื่องจากเกษตรกรให้ความสำคัญในกระบวนการเก็บเกี่ยวและการรักษาใบกล้วยให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานตรงกับความต้องการของตลาด จึงต้องใช้ความพิถีพิถัน

ด้วยการตัดใบแล้วนำก้านใบมาซอย แยกใบออกจากก้าน พับใบเป็นมัด ในหนึ่งมัดจะมี 10 พับ น้ำหนัก 10 กก. โดยการเก็บ เกี่ยวจะทำในช่วงที่ไม่มีน้ำค้าง เพราะหากเก็บเกี่ยวช่วงมีความ ชื้นผลผลิตใบกล้วยจะแตกและฉีกขาด โดยจะนิยมเก็บเกี่ยวในช่วงเช้า 06.00-08.00 น. และช่วงเย็น 17.00-18.00 น. เกษตรกรจะได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 3,360 กิโลกรัม/ปี

สำหรับราคาขายได้ (ธันวาคม 2566) เฉลี่ย กก.ละ 8-10 บาท แต่หากเป็นช่วงฤดูแล้งที่ใบกล้วยขาดแคลน จะได้ราคาจะสูงถึง กก. 11-14 บาท เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ยไร่ละ 26,880 บาท/ปี คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ หรือกำไรไร่ละ 12,946.25 บาท/ปี

ผลผลิตส่วนใหญ่ ร้อยละ 85 พ่อค้าคนกลางในพื้นที่ที่เข้ามารับสินค้าเพื่อนำไปส่งต่อตลาดขายส่ง และผลผลิตร้อยละ 15 จำหน่ายเองโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ส่วนใหญ่จะส่งไปขายที่ตลาดสี่มุมเมือง จะได้ราคาสูงกว่าที่จำหน่ายผ่านพ่อค้าคนกลางประมาณ กก.ละ 3-4 บาท.

...

ชาติชาย ศิริพัฒน์

คลิกอ่าน "ข่าวเกษตร" เพิ่มเติม