นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 ที่ประชุมได้หารือถึงกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ.2552 ที่บังคับใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว และมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จึงมีมติเห็นชอบให้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ.2552 ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทำให้การรับชมภาพยนตร์เปลี่ยนแปลงไป โดยรับฟังความคิดเห็นให้รอบด้าน
นายปานปรีย์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้มีมติเห็นชอบให้ทบทวน ปรับปรุงแก้ไขประกาศคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เรื่อง เทศกาลภาพยนตร์ระหว่างประเทศที่นำภาพยนตร์ออกฉายได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาต พ.ศ.2560 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย โดยให้ สวธ.จัดทำแนวทาง กรอบการดำเนินงาน และหลักเกณฑ์กำหนดหน่วยงานที่สามารถนำภาพยนตร์ออกฉายได้โดยไม่ต้องพิจารณาและได้รับอนุญาตตามประกาศดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้เห็นชอบให้เพิ่มคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จากเดิม 6 คณะ เป็น 10 คณะ โดยมีด้านภาพยนตร์ 8 คณะ ด้านวีดิทัศน์ 2 คณะและปรับสัดส่วนคณะกรรมการให้มีภาคเอกชน จำนวน 3 คน และภาครัฐ จำนวน 2 คน
“นอกจากนี้มีมติเห็นชอบให้ สวธ.ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 จำนวน 4 ฉบับ และร่างประกาศจำนวน 3 ฉบับ โดยมีสาระสำคัญ เช่น ลดค่าธรรมเนียมตรวจพิจารณาสื่อโฆษณา และลดค่าออกใบแทนใบอนุญาต เพิ่มช่องทางการยื่นขออนุญาตและแก้ไขข้อมูลในใบอนุญาตด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น” รอง นายกฯกล่าว.
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่