พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 หรือที่เรียกว่า พ.ร.บ.อุ้มหาย มีผลบังคับใช้ทันทีหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมฯ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อขยายเวลาการมีผลใช้บังคับเฉพาะมาตรา 22-25 ออกไป ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรค 1คนที่เดือดร้อนคือ ผู้ปฏิบัติ ส่วนใหญ่ก็ตำรวจนี่แหละ?เพราะมีหลายเรื่อง ถ้าเอาตามตัวบทกฎหมายเป๊ะๆถึงกับหนาวๆร้อนๆ เพราะใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ มันมีโทษสำหรับตำรวจผู้ปฏิบัติด้วย!มันเลยมีความคิดเลยเถิดไปว่า แล้วอย่างนี้จะเอาชีวิตราชการไปเสี่ยงเพื่อ?ในเมื่อการตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง เกิดผิดพลาดหรือไปขัดข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.อุ้มหายที่เป็นเรื่องใหม่ขึ้นมาจะทำเอาหน้าที่การงานตัวเองไปเสี่ยงติดคุกติดตะรางซะเปล่าๆ!จน “บิ๊กเด่น” ผบ.ตร. ถึงขนาดออกมาปรามให้ตำรวจ ห้ามใส่เกียร์ว่าง...แต่ก็ว่าไม่ได้ จะไปบังคับขู่เข็ญยังไง เพราะทุกคนก็มีครอบครัวต้องดูแล มีลูกต้องเลี้ยงผลเสียมันเลยมาลงที่ชาวบ้านและสังคม เดี๋ยวคงได้เห็น “โจรเต็มบ้านเต็มเมือง” เพราะกฎหมายที่ออกมาช่วงหลังถูกมองว่า คุ้มครองสิทธิ์โจรมากกว่าสุจริตชน?พอดีมีนายตำรวจมือทำงาน เขียนปัญหาของตำรวจชั้นผู้น้อยผู้รับความเสี่ยงเต็มๆมาให้ ลองอ่านแล้วคิดตามหาคำตอบกันดู...คำถาม “นิยาม” คำว่า ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตาม พ.ร.บ.นี้ มีขอบเขตแค่ไหน?ในการจับและควบคุมตัวต้องกระทำการบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องขณะจับ และควบคุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนหรือปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวไปหากมีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถบันทึกภาพและเสียงได้อย่างต่อเนื่อง จะต้องดำเนินการอย่างไร มาตรา 22 วรรคแรก (อ่านต่อพรุ่งนี้)สหบาท