เดิมจีนมีแคว้นเล็กๆมากมาย ต่อมา 7 แคว้นใหญ่ วุ่ย เจ้า หาน ฉิน ฉี ฉู่ และเอียน ค่อยๆผนวกแคว้นเล็กไว้ จุดเริ่มต้นยุคจั้นกว๋อ พ.ศ.67เรื่องแรก ในยุคจั้นกว๋อ (ยุคสงครามชิงความเป็นใหญ่) ประวัติศาสตร์จีนบันทึกไว้ ซีเหมินเป้า ปราบความงมงาย บอกเล่าสาเหตุที่แคว้นเล็กถูกแคว้นใหญ่กลืนได้ ประการหนึ่ง(แลหลังแดนมังกร ถาวร สิกขโกศล แปล สำนักพิมพ์นานมี พ.ศ.2542)ปีแรกของยุคจั้นกว๋อ ขุนนางตระกูลหาน เจ้าวุ่ย ตั้งตัวเป็นเจ้าครองนคร แบ่งแคว้นจิ้นออกเป็นสามแคว้น แคว้นวุ่ยเข้มแข็งที่สุด พ.ศ.135 แคว้นวุ่ยปราบแคว้นจงซานได้ ก็ส่งแม่ทัพซีเหมินเป้า ไปเป็นเจ้าเมืองเยว่เมืองเยว่อยู่ระหว่างแคว้นหานและแคว้นเจ้า สภาพเมืองโรยร้าง ราษฎรน้อย ซีเหมินเป้าแปลกใจ สอบถามก็ได้ความ ทุกฤดูใบไม้ผลิ เจ้าเมืองจะเลือกเอาหญิงสาวไปโยนลงแม่น้ำ สังเวยเทพเจ้า ราษฎรกลัวจึงอพยพหนีก่อนถึงพิธี แม่มดจะส่งบริวารไปค้นคัดเลือกหญิงสาวชาวบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรมการเมืองก็ขูดรีดเอาเงินค่าพิธีได้ไปปีละหลายร้อยหมื่นตำลึง แต่แบ่งไปใช้ในพิธี 20–30 หมื่นตำลึงซีเหมินเป้า รู้ต้นสายปลายเหตุแล้วก็เงียบไว้ รอจนถึงวันเทศกาล จึงไปร่วมพิธีบนฝั่งโหมประโคมดนตรี ซีเหมินเป้ามองแม่มดหญิงชราหน้าตาอัปลักษณ์ มีศิษย์หญิงสองคนถือกระถางกำยานและเครื่องเซ่นขนาบข้าง...มองหน้าสาวสวยวัย 14 ปี ร้องไห้น้ำตาโชกเสื้อผ้า กำลังถูกนำไปนั่งเรือน้อยทำด้วยมัดอ้อ“เจ้าสาวคนนี้ ยังสวยไม่พอ ต้องเลือกหาเจ้าสาวคนใหม่ ซีเหมินเป้าเสียงดัง เราต้องรบกวนแม่มดไปช่วยผัดเทพเจ้า” ว่าแล้ว ซีเหมินเป้าก็สั่งบริวารจับตัวแม่มดโยนลงแม่น้ำยายแม่มดว่ายกระเสือกกระสนครู่หนึ่งก็จมหาย ซีเหมินเป้ารีรออีกครู่แล้วบ่น “แม่มดแก่แล้ว ใช้การไม่ได้” แล้วสั่ง “ลูกศิษย์แม่มด ลงตามไปดู” เสียงโครมๆ ศิษย์แม่มดสองคนถูกจับโยนน้ำตาม“ผู้หญิงก็ใช้การไม่ได้เรื่อง” ซีเหมินเป้า เล่นมุกต่อ “ต้องขอรบกวนผู้ใหญ่บ้าน”...แล้วทุกคนก็ถูกโยนลงน้ำถึงคิวกำนัน กรมการเมือง ซีเหมินเป้าแสร้งถาม “เทพเจ้าแห่งแม่น้ำมีอยู่ที่ไหน” ไม่มีคำตอบซีเหมินเป้าได้ทีก็สำทับ “เรื่องเทพเจ้าล้วนเป็นเรื่องที่แม่มดกุขึ้นหลอกลวงชาวบ้าน”“การจับพวกแม่มดโยนลงน้ำ พวกท่านเห็นสมควรหรือไม่” ซีเหมินเป้าถามชาวบ้าน “สมควรๆ” เสียงขานรับพร้อมๆกัน ซีเหมินเป้าชี้หน้ากำนัน กรมการเมือง ต่อไปถ้าใครรื้อฟื้นประเพณีนี้ขึ้นมา ข้าจะส่งไปหาเทพเจ้าคาดโทษพวกข้าราชการขี้ฉ้อจบ ซีเหมินเป้ายึดทรัพย์คนโกงมาแจกจ่ายชาวบ้าน ให้แยกย้ายกันไปทำมาหากิน ราษฎรพวกที่อพยพหนีจากเมืองเยว่ ได้ข่าวดีก็ชวนกันกลับซีเหมินเป้านำราษฎรขุดคลองเพิ่มอีก 12 สาย ระบายน้ำจากแม่น้ำเข้ามาทำการเพาะปลูก ที่ดินที่เคยแห้งแล้งก็กลายมาเป็นไร่นาอุดมสมบูรณ์ เมืองเยว่ก็พลิกฟื้นอ่านเรื่องนี้จบ ผมหลับตาเห็นภาพ ผู้นำหญิงเผ่าเยว่เชื่อผี รู้ต่อมา ผู้นำชายเก่งหมักเหล้า เหล้าเหมาไถขึ้นชื่อมาถึงสมัยเหมาเจ๋อตง จะพูดแบบเหมาๆ คนเผ่าเยว่รบแพ้ จนถูกกลืนเป็นเผ่าฮั่น ก็เพราะเหตุเชื่อผีขี้เมาสองประการนี้จีนเขาแปลคำเยว่ ว่า “คนเถื่อน” ว่ากันว่ามีเป็นร้อยเผ่า ผมเขินๆครับ เมื่ออ่านเจอว่า หนึ่งในร้อยคือเผ่าไทบ้านเมืองใกล้ๆกำลังมีเลือกตั้ง...สังเกตได้ที่หัวใจ ผู้นำเผ่า เอ๊ย! พรรคไหน จะไม่ชนะ...พรรคที่หัวหน้าไปหาเสียงที่ไหน ก็ต้องไหว้พระไหว้ผีเอาฤกษ์...แสดงว่าใจไม่สู้ ไม่อ้างโพลก็เดาได้ ยังไงๆก็แพ้.กิเลน ประลองเชิง