เอฟบีไอประสานกองปราบฯ รวบหนุ่มอเมริกันวัย 48 ปี ผู้บริหารระดับสูงบริษัทขนส่งในสหรัฐอเมริกา คาคอนโดมิเนียมย่านปากทางลาดพร้าว ตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงินมโหฬาร 1.7 พันล้านบาท หลังร่วมกับพวก 9 คนที่ถูกจับหมดแล้วโกงบริษัทมานานนับ 10 ปี เผยหนุ่มมะกันผู้ต้องหาเข้าออกเมืองไทยมานับ 10 ปี จนมีเมียคนไทยและลูกวัย 12 ขวบ

เอฟบีไอประสานกองปราบฯตามจับผู้ต้องหาหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินมูลค่า 1.7 พันล้านบาทครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 14 เม.ย. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายลาร์ส วินเทล บาวเออร์ ชาวอเมริกันเชื้อชาติเยอรมัน อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 232/2566 ลงวันที่ 3 เม.ย.2566 ข้อหา “สมคบกันฉ้อโกง ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยการติดสินบนผู้ที่มีอำนาจ, ฉ้อโกงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสมคบกันฟอกเงิน” จับได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยลาดพร้าว 10 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา หรือเอฟบีไอ (Federal Bureau of Investigation: FBI) ได้เปิดปฏิบัติการจับกุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทขนส่งในสหรัฐอเมริกา หลังร่วมฉ้อโกงการดำเนินงานของบริษัทในเกือบทุกด้านนานกว่า 10 ปี สร้างความเสียหายรวมกว่า 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,773 ล้านบาท ปฏิบัติการดังกล่าว ทางการสหรัฐอเมริกาจับกุมผู้สมรู้ร่วมคิดได้รวม 9 ราย เหลือนายลาร์สเพียงคนเดียวที่เป็นระดับผู้บริหารหนีมาอยู่ในประเทศไทย ประสานมายังกองปราบฯ จนนำมาสู่การสืบสวนจับกุม สอบสวนเบื้องต้นรับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวจริง และพร้อมยินยอมให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกา ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

...

รายงานข่าวแจ้งว่า แนวทางการสืบสวนพบว่า นายลาร์ส เดินทางเข้าประเทศไทยมาตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อน มีภรรยาเป็นคนไทย มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 12 ปี จากนั้นเดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นระยะ ล่าสุดพบว่าเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 เม.ย.66 ก่อนที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอจะประสานหมายจับมาให้กองปราบฯจับกุมตัวในที่สุด