นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคปอดอักเสบหรือ “ปอดบวม” เป็นโรคของการอักเสบในเนื้อปอด เกิดจากการติดเชื้อ เฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจ ส่วนมากพบในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา โดยเชื้อสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านระบบทางเดินหายใจ ด้วยการ ไอ จาม อีกทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุมักติดเชื้อจากการสำลักน้ำลาย น้ำดื่ม หรืออาหาร ส่งผลให้เชื้อที่สะสมอยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบนเข้าสู่บริเวณปอด จนเกิดโรคปอดอักเสบในที่สุด ปอดอักเสบมีระยะเวลาดำเนินโรคที่ไม่แน่ชัดขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ อาจสั้นเพียง 1-3 วัน หรือนานเป็นสัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่โรคปอดอักเสบจะเกิดหลังจากเริ่มป่วยเป็นไข้หวัด ผู้ป่วยมักมีอาการมีไข้สูง อ่อนเพลีย ไอมีเสมหะ ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก นอกจากนี้ผู้ป่วยที่สูงอายุที่มีโรคปอดอักเสบร่วมด้วย จะเริ่มมีอาการสับสนหรือซึมลง
นพ.อนก กนกศิลป์ ผอ.สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า หากเกิดโรคปอดอักเสบในผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนมากกว่าปกติ ดังนั้น ผู้สูงอายุควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดและพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบว่ามีอาการไข้สูง อ่อนเพลีย หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก ให้รีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง.