ดีเอ็นเอของนักสืบรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่เหมือนกัน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ทิ้งมรดกนักเรียนนักสืบ 5G เพื่อรองรับ วิถีโซเชียลที่เปลี่ยนโลก ปลูกฝังการทำงานเป็นทีม เน้นเรื่องของความเสียสละ อดทน มุ่งมั่น ทุ่มเท ทำไม่เลิก
“ทำงาน 24 ชั่วโมง ไม่มีพักจนกว่าจะจับคนร้ายได้ เราไม่เคยคิดว่าเราจับคดีนี้ได้แล้วจะได้ 2 ขั้น หรือว่าจะได้รางวัล” อาจารย์ใหญ่นักสืบว่า
รางวัลของเรา คือ การที่เรานำความยุติธรรมคืนให้กับคน
สิ่งที่เจ้าตัวอยากจะแนะนำนักสืบ 5G นอกจากเรื่องการปรับตัวกับแนวทางความเปลี่ยนแปลงในการทำงาน ต้องแสวงหาความร่วมมือจากภายนอกด้วย ลำพังตำรวจหน่วยเดียวทำงานไม่ได้
เหตุผลเพราะ ตำรวจกำลังทำงานภายใต้ความกดดัน สังคมต้องการผลสัมฤทธิ์ที่เร็วกว่าเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในระดับหน่วยงานขึ้นเพื่อจะแก้ปัญหาการทำงานให้เกิดความรวดเร็วในเรื่องการผัดฟ้อง ฝากขัง รวมถึงเรื่องการใช้อำนาจตามกฎหมายในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
พล.ต.อ.สุวัฒน์ยกตัวอย่างบ้านติดกันจอดรถขวางกัน หรือสุนัขไปฉี่รดหน้าบ้านเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ สุดท้ายยิงกันตาย หรือคนไปตัดผมแล้วไม่ได้ตามทรง นัดไปนัดมาแทงกันตาย เรื่องของผู้ชายมาตามตื๊อผู้หญิง ทะเลาะกัน ตำรวจทำอะไรไม่ได้ แค่เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน เตือนอยู่ 3-4 รอบ ในที่สุดไปฆ่ากันตาย
เรื่องแบบนี้ จำเป็นต้องหากติกาใหม่ๆมาใช้ทำงาน
“ขณะเดียวกันอย่างที่บอกคดีธรรมดาเป็นเรื่องใหญ่ได้ อย่างคนตกน้ำคนหนึ่ง เราใช้คนเป็นร้อย ใช้เวลาเป็นเดือนไม่ได้เกิดความรวดเร็ว ไม่ได้ทำให้รู้สึกพอใจ แต่ต้องทำแล้วถึงวันหนึ่งจะเห็นว่าสุดท้ายแล้วจะได้เห็นความใครผิด ใครถูก ใครอะไร”
...
เหล่านี้เป็นความท้าทายของโลกอนาคตสำหรับนักสืบยุค 5G.
สหบาท