การรับราชการตำรวจอย่างมีคุณค่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ทิ้งทวนก่อน “ถอดหัวโขน” ไปบรรยายพิเศษแก่นายร้อยตำรวจชั้นปี 1-4 เทียบเท่านักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 76-79 ห่างกับเขาถึง 40 รุ่น
เจ้าตัวบอกว่า ทุกช่วงชีวิตรับราชการตำรวจ ต้องมุ่งมั่นทำงาน ทำหน้าที่ในตำแหน่ง ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
เหมือนที่เขามุ่งมั่นทำงานสืบสวนเป็นงานที่ชอบ ถนัด และมีทักษะอย่างทุ่มเทตั้งใจจนเป็นที่ยอมรับและมักได้รับมอบหมายให้สืบสวนคลี่คลายคดีสำคัญ
ริเริ่มทำหลักสูตรฝึกอบรมด้านการสืบสวน “พัฒนานักสืบ” กลายเป็นต้นแบบหลักสูตรการสืบสวนในปัจจุบัน สร้างตำรวจที่เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนจำนวนมาก
ก่อนฝากข้อคิดการรับราชการตำรวจแก่นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นน้องว่า อยากจะเจริญก้าวหน้า ต้องหาเรื่องยากๆทำ อย่าทำเรื่องง่ายๆ
“ทุกการเดินทางในแต่ละช่วงชีวิต มีบทเรียนให้เราเรียนรู้เสมอ เช่น การทำคดีเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี คดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ที่โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ เข้ามามีบทบาท แสดงความคิดเห็นไหลไปตามกระแสสังคม”
ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานกระบวนการยุติธรรม ต้องยึดหลักให้ได้ แม้จะสวนกระแสสังคม ดังนั้นต้องเรียนรู้ ปรับตัว ยอมรับ เอาตัวรอดให้ได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
“ชีวิตขึ้นต้นมาเรื่องหนึ่ง เราไม่รู้ตอนลงท้ายเป็นอย่างไร อาจมีคนเขียนบทละครไว้ อย่าไปตั้งเป้ายศถาบรรดาศักดิ์ หรือตำแหน่ง เด็กบางคนมีเป้าหมายมีฐานะ ติดยศเร็ว คิดแบบไหนก็ไม่มีใครผิด แล้วแต่จริตของแต่ละคน” พล.ต.อ.สุวัฒน์ว่า
ชีวิตเดินคนเดียวไม่ได้ การทำงานต้องมีผู้บังคับบัญชา และต้องรักษาลูกน้องให้ดี.
...
สหบาท