รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากที่ผ่านมาการเลื่อนขึ้นตำแหน่งประเภททั่วไปของครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องใช้หลักเกณฑ์และวิธีการตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่ นร 1006/ว 34 ลงวันที่ 29 ต.ค.2557 และที่ นร 0708.1/ว 22 ลงวันที่ 30 ก.ย.2540 ส่วนการเลื่อนขึ้นตำแหน่งประเภทวิชาการ ใช้ หลักเกณฑ์ และวิธีการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 ก.ย.2548 ซึ่งปัจจุบัน สำนักงาน ก.พ.ได้ออกกฎ ก.พ.ใหม่ ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 1 ลงวันที่ 8 มี.ค.2564 แต่จากการดำเนินการพบว่า การนำหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวของ ก.พ.มาใช้ในการเลื่อนตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) นั้น ยังไม่สอดคล้องกับกลไกการบริหารงานบุคคล ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อว่า ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จึงเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนระดับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) เพื่อใช้ในการพิจารณาเลื่อนขึ้นตำแหน่งของครูและบุคลากรทางการศึกษาเองโดยเฉพาะ แต่ยังคงให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับ ก.พ. โดยจะเน้นกระจายอำนาจให้ส่วนราชการเป็นผู้วางระบบการคัดเลือกบุคคลอย่างเป็นระบบ มีความเป็นธรรม และเปลี่ยนการประเมินจากคณะกรรมการส่วนกลางมาเป็นการประเมินโดยผู้บังคับบัญชาขั้นต้น เพราะถือว่ารู้จักการทำงานและศักยภาพของผู้ขอเลื่อนตำแหน่งได้ดีที่สุด นอกจากนี้ ก.ค.ศ.ยังเตรียมวางแนวทางและปรับรูปแบบการประเมินให้สอดคล้องกับภาระงานของแต่ละตำแหน่ง โดยรายละเอียดในส่วนนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.จะได้นำไปวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับกลุ่มตำแหน่งบุคลากร 38 ค.(2) อีกครั้ง.
...