รู้จักพิชัยสงครามซุนหวู่กันบ้าง แต่ส่วนใหญ่คงไม่รู้ เรื่องของซุนหวู่ที่เป็นทางการ มีเพียง 406 ตัวอักษร และตัวตนของผู้ยิ่งใหญ่เจ้าของวิชา ที่โลกวันนี้ใช้ทั้งในเรื่องรัก รบ และการค้า อายุแค่ 25–26 ปี

(มองตะเกียบ เห็นป่าไผ่ 3 นิธิพันธ์ วิประวิทย์ สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์ พ.ศ.2561)

เรื่องสนุกสะใจ...ที่ทุกคนจำได้ คือเรื่องซุนหวู่ ฝึกพระสนมของหวูอ๋อง

แม่ทัพใหญ่แคว้นหวู เฝ้าแนะนำหวูอ๋องถึง 7 ครั้ง กว่าหวูอ๋องจะหันมาสนใจ ยอมให้ทดสอบด้วยการฝึกจัดทัพนางสนม ซุนหวู่แบ่งนางสนม 180 คนออกเป็นสองกอง

ตอนเริ่มฝึก นางสนมไม่เห็นเป็นเรื่องจริงจัง เอาแต่หัวเราะต่อกระซิก จนซุนหวู่ต้องใช้บทเข้ม

“หากสั่งไม่ชัดเจน ความผิดเป็นของแม่ทัพ หากคำสั่งแจ้งชัดแล้วไม่ปฏิบัติ ความผิดย่อมเป็นของหัวหน้ากอง” สนมก็ยังคงระรี้ระริก

ถึงขั้นนั้น ซุนหวู่จึงสั่งประหารสองหัวหน้ากอง หวูอ๋องเองก็ตกพระทัย ออกปากห้าม

“ในยามรบ ประกาศิตแม่ทัพย่อมอยู่กับแม่ทัพ ไม่ใช่กษัตริย์”

ประโยคนี้กระทั่งหวูอ๋องเองก็เพิ่งได้ยิน แต่ก็ช้าไป หัวสองสนมคนโปรดหลุดจากบ่าไปแล้ว

จากนั้นสนมที่เหลือก็ขยาด ไม่เหยาะแหยะ สั่งซ้ายเป็นซ้าย สั่งขวาเป็นขวา เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า วินัยทัพได้มาจากความเด็ดขาด

หวูอ๋องแม้เศร้าและเซ็ง แต่ก็จำใจยอมให้ซุนหวู่เป็นแม่ทัพ ซุนหวู่ใช้วิชา ใช้ไฟเผาข้าศึก เดินทัพดูฝูงนกหรือฝุ่นผงที่ปลิวฟุ้ง ฯลฯ เริ่มต้นรบชนะแคว้นฉู่ได้ แล้วขยายอำนาจยิ่งใหญ่ต่อไปได้เรื่อยๆ

ภาพสงครามยิ่งใหญ่แบบนิยาย...มีส่วนผสมของเลือดเนื้อทหาร และหยาดเหงื่อราษฎรคละคลุ้ง คนอ่านอาจรู้สึกฮึกเหิม เมามันอารมณ์ ซุนหวู่เล่าว่า สงครามใหญ่น้อยลงทุนด้วยทรัพยากรหนักหนาสาหัสเพียงใด

...

อาวุธ โล่ใหญ่ รถเกราะสำหรับตีเมือง ต้องใช้เวลาเตรียมสามเดือน สร้างเนินดินอีกสามเดือน

“กองทัพเคลื่อนที่ถึงที่ใด สินค้าที่นั่นจะแพง เงินในพระคลังก็จะร่อยหรอ เมื่อเงินร่อยหรอก็ต้องเก็บส่วยเกณฑ์แรงงาน ทุกครัวเรือนอาหารจึงว่างเปล่า ภาษีราษฎรถูกใช้ไปเจ็ดในสิบ

สงครามคือความเดือดร้อนขนาดนี้ ซุนหวู่จึงต้องการให้สงครามผ่านพ้นไปโดยเร็วที่สุด และเสียหายน้อยที่สุด

ซุนหวู่ย้ำว่า “มิเคยพบบ้านเมืองที่ได้รับผลดีจากสงครามยืดเยื้อ ผู้ยังไม่เข้าใจผลร้ายจากสงคราม ย่อมไม่มีทางเข้าใจผลดีจากสงคราม”

สงครามไม่ว่ายุคไหน ไม่เคยรอดพ้นจากความโหดร้าย สงครามเป็นอาณาเขตสุดท้ายที่มนุษยธรรมจะเอื้อมเข้าไปถึง เป็นสภาวะต่อเนื่องหลังการเมืองและการทูตล้มเหลว

เมื่อเป็นเช่นนี้ สงครามเป็นสิ่งที่ต้องรอบคอบรัดกุม ต้องพร้อมไว้ตลอดเวลา เป็นการตัดสินที่ต้องลงทุนสูง จึงต้องใช้เป็นไม้ตายสุดท้าย ซุนหวู่อธิบายยืดยาว แต่ก็มาถึงบทสรุปสั้นๆที่ชัดเจน

“ชัยชนะที่ดีที่สุด คือชัยชนะที่ได้โดยไม่ต้องรบ”

อ่านมาถึงตรงนี้ ไม่น่าเชื่อเลย นี่คือวิทยายุทธ์ของชายหนุ่มอายุ 25-26 ปี เขียนให้คนทั้งโลกยอมรับนับถือและใช้กันเรื่อยมายาวนานกว่า 2,500 ปี

โชคยังดี! เราอยู่ในสถานการณ์รบกันด้วยน้ำลายตามกติกา อาจนอกกติกาใช้เทคนิคแบบว่า ลิงกินกล้วยอยู่บ้าง แต่ก็พอทนๆกันไปได้

บ้านเมืองเราวันนี้ ยังมีสวนกล้วยอุดมสมบูรณ์ มีเจ้าของสวนกล้วยเป็นสปอนเซอร์ทั้งในและนอกประเทศ ลิงเมืองไทยคงไม่อดโซถึงขั้น ก่อเรื่องบัดสีบัดเถลิง จนทหารทนไม่ไหว ขับรถถังออกมาเล่น.

กิเลน ประลองเชิง