นายเดชธพล กล่อมจอหอ หัวหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง กลุ่ม 4 สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. กล่าวถึงความสำเร็จในการลดจุด Hotspot ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สามแลบ ของบ้านกลอเซโล ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน อุทยานแห่งชาติสาละวิน ด้วยแผนกลยุทธ์หยุดหมอกควันหรือระบบเกษตรที่เลี้ยงดูป่า โดยการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในแนวทางของการนำองค์ความรู้จากโครงการหลวงมาปรับใช้ในพื้นที่สูง จนสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชุมชน โดยเฉพาะทำให้มีอำนาจในการต่อรองการรับซื้อสินค้าจากชุมชน และยังมีเกษตรกรผู้นำตัวอย่างในการขยายงานกระจายการพัฒนาให้ครอบคลุมทั้งชุมชน

“แนวทางของการพัฒนาบ้านกลอเซโล ทาง สวพส.มุ่งให้ชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ทำการเกษตร ลดพื้นที่ทำไร่หมุนเวียน โดยกำหนดเขตการพัฒนาเป็นโซน A, B, C และ D เพื่อสร้างต้นแบบและขยายการพัฒนาไปสู่แต่ละโซน จนกระจายการพัฒนาให้ครอบคลุมทั้งชุมชน เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ในแนวทางของการนำองค์ความรู้โครงการหลวงมาปรับใช้ในการทำการเกษตรแบบไม่เผา ในลักษณะของการจัดพื้นที่รายแปลงที่เหมาะสม ใช้พื้นที่น้อย มีรายได้มาก โดยการปลูกพืชผักภายใต้ระบบมาตรฐาน GAP เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและมีราคาสูง ช่วยเกษตรกรในชุมชนสามารถขายพืชผักได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมปลูกไม้ผลและกาแฟใต้ร่มเงาในพื้นที่ป่า เช่น การปลูกกาแฟอาราบิก้าอินทรีย์ ไม้ผล และบุก ด้วยระบบเกษตรที่เลี้ยงดูป่าและสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ เมื่อชุมชนบนพื้นที่สูงมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น พอมีพอกินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็มีเวลาดูแลป่าไม้ที่อยู่รอบชุมชน”

...

ด้าน นายพัลลภ ปัญญา หัวหน้าศูนย์โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สามแลบ กล่าวว่า ปัจจัยความสำเร็จของโครงการคือการยึดคนเป็นศูนย์กลาง และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยเล็งเห็นและให้ความสำคัญกับคนในชุมชน เพื่อค้นหาปัญหาและความต้องการของคนในชุมชน แม้จะมีความยากลำบากในการสื่อสารและภาษา แต่ด้วยการจัดเวทีชุมชนเพื่อประชาพิจารณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน ควบคุมไม่ให้เกิดการบุกรุกทำลายป่า ใช้พื้นที่ให้ถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการ และขออนุญาตดำเนินงานในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีกรมป่าไม้เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบและครบวงจร

“นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางฝ่ายวิชาการรายสาขา มาเป็นผู้สนับสนุนการดำเนินงาน ทำให้พื้นที่บ้านกลอเซโลมีการพัฒนาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม มีเกษตรกรผู้นำตัวอย่าง ที่ยึดระบบเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม้ผลที่ชาวบ้านนิยมปลูกในพื้นที่ ได้แก่ กาแฟอาราบิก้าอินทรีย์ บุก เสาวรส และอะโวคาโด ภายใต้ระบบมาตรฐาน GAP อีกทั้งยังมีการพัฒนาพืชเสริมอื่นๆ เช่น หมาก ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกทั่วไปในพื้นที่ เพราะชาวบ้านยังนิยมบริโภคหมาก แต่กาบหมากที่แห้งจะถูกทิ้งไปหรือเผาไปโดยเปล่าประโยชน์ ชาวบ้านยังนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ภาชนะใส่อาหารให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล ลักษณะใช้แล้วทิ้ง นอกจากทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริมแล้ว ยังมีส่วนทำให้การเผาป่าลดลง เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับป่า และยังสามารถปลูกต้นหมากเพิ่มได้ทุกปี”.