เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการที่ดีมีส่วนช่วยเหลือสังคมกับแนวคิดของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นายตำรวจคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาบริหารงานหน่วยงานหลัก และเข้าใจสภาพปัญหาความเป็นจริงในสังคม

พล.ต.ท.จิรภพ ร่วมมือกับ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ลงนามความร่วมมือเพื่อเพิ่มศักยภาพทีมปฏิบัติการพิเศษป้องกันการฆ่าตัวตาย “Hope Task Force

เป็นปัญหาใหญ่สังคมไทย

ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มฆ่าตัวตายมากขึ้น จากปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 สภาพเศรษฐกิจและปัญหาทางสังคมที่เปลี่ยนไป จนสะสมและพัฒนาเป็นปัญหาสุขภาพจิต นำไปสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตาย

ข้อมูลของศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติพบว่า อัตราการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ปี 2564 มีจำนวน 4,810 คน คิดเป็นอัตราร้อยละ 7.35 ต่อประชากรแสนคน

การจัดตั้ง “Hope Task Force” เป็นการรวมตัวกันของ 3 ภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันในการรักษาชีวิตประชาชน และเป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 3 ภาคส่วนมารวมไว้ในที่เดียวกัน คือ

กรมสุขภาพจิต มีศักยภาพในการเยียวยารักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตของประชาชน และบำบัดฟื้นฟูในระยะยาวเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

กองปราบปราม มีศักยภาพในการสืบสวนและประสานงานเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ

และในด้าน Social Influencer มีความสามารถในการเข้าถึงสัญญาณเตือนที่ถูกส่งมาจากพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว เมื่อนำความเข้มแข็งของทั้งสามส่วนมารวมเข้าไว้ด้วยกัน

ทำให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพ

Hope Task Force ในระยะแรกได้พิสูจน์โมเดลความร่วมมือว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมหาศาล ระยะต่อไปจะขยายความช่วยเหลือไปยังภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพจิต

...

ผลการทำงานระยะแรกของ Hope Task Force ในระหว่างเดือนตุลาคม 2563-กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า กระบวนการดำเนินงานดังกล่าวได้ช่วยเหลือชีวิตคนที่มีความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย จำนวนรวม 308 ราย

ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือมีกลุ่มผู้มีประวัติการเจ็บป่วยทางสุขภาพจิต จำนวน 66 ราย

การลงนามความร่วมมือ Hope Task Force ของตำรวจสอบสวนกลาง และกรมสุขภาพจิต

นับเป็นความหวังของคนไทย ที่มีหน่วยงานมาช่วยแก้ปัญหาการฆ่าตัวตายที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น

ใช้ศักยภาพตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับหมอผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาร่วมกัน

ช่วยชีวิตพี่น้องคนไทย ไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th