อธิบดี ปภ.แถลงยอดอุบัติเหตุสงกรานต์ 237 ครั้ง ตาย 26 เจ็บ 238 คน ลดลงกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี ที่ผ่านมาถึง 40 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุ “ขับเร็ว-เมาแล้วขับ” นครศรีธรรมราชแชมป์อุบัติเหตุ 12 ครั้ง สุพรรณบุรีตายสูงสุด 3 ราย ขณะที่การจราจรเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่นช่วงเย็น ด้าน รอง ผบ.ตร. แถลงผลกวดขันวินัยจราจร “10รสขม” วันเดียวจับเกือบ 5 หมื่นราย
การเดินทางไปเที่ยวและกลับภูมิลำเนาฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว คึกคักอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ประชาชนทยอยเดินทางรอบแรกเมื่อช่วงหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เส้นทางสู่ภาคเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่นในช่วงบ่าย และปริมาณรถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดอุบัติวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 237 ราย
ยอดอุบัติเหตุวันแรกตาย 26 ราย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ปภ. และภาคีเครือข่าย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 237 ครั้งผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 238 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 32.91 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.94 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.90 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.73 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.38 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.97 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 11.01-12.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 23.86
...
เมืองคอน อุบัติเหตุสูงสุด 12 ครั้ง
อธิบดี ปภ. กล่าวต่อว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 12 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช จำนวน 14 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี จำนวน 3 ราย ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,902 จุด เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงาน 56,343 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 350,748 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 64,343 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,275 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17,748 ราย
ต้นตออุบัติเหตุ ขับเร็ว–เมาขับ
นายบุญธรรมกล่าวว่า จากข้อมูลสถิติพบว่าจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตลดลงกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันแรกของการรณรงค์ย้อนหลัง 3 ปี แต่สาเหตุหลักยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ ขณะที่พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผู้ประสบเหตุเสียชีวิต คือการขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ศปถ.ได้ประสานจังหวัดเข้มงวดกวดขันการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยของผู้ขับขี่ เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อย่างไร ก็ตามคาดว่าตลอดทั้งวัน เส้นทางหลายสายจะยังมีปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง ขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็ว หากขับรถระยะทางไกลให้หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
“ศักดิ์สยาม” แถลงอุบัติเหตุทางหลวง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงคมนาคม (ศปภ.คค.) ได้รายงานสถิติอุบัติบนโครงข่ายถนน กระทรวงคมนาคม วันที่ 11 เม.ย.65 พบว่ามีจำนวนอุบัติเหตุ 126 ครั้ง ลดลงจากปีก่อน 50.59% มีผู้เสียชีวิต 24 คน ลดลงจากปีก่อน 11.11% มีผู้บาดเจ็บ 102 คน ลดลง 58.87% สาเหตุเกิดจากการขับรถเร็ว 86 ครั้ง คิดเป็น 68.25% ยานพาหนะเป็นสาเหตุสูงสุดถึง คือ รถจักรยานยนต์กว่า 61 ครั้ง หรือ 48.41% บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุดคือ ทางตรง กว่า 92 ครั้ง หรือ 73.02% ในส่วนการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ พบว่ามีปริมาณรถที่เดินทางเข้าออก กทม. จำนวน 2,265,197 คัน ลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 9.68%
จับ “10 รสขม” เกือบ 5 หมื่นราย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยสถิติการกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุ โดยบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหา ตามมาตรการรณรงค์เพื่อการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ชื่อแคมเปญ “10 รสขม” โดยช่วงวันที่ 4-10 เม.ย. ตำรวจจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรใน 10 ข้อหาหลัก รวม 212,331 ราย และในวันที่ 11 เม.ย. วันแรกของช่วงควบคุมเข้มข้น จับกุมจำนวน 47,643 ราย จำแนกเป็น ไม่สวมหมวกนิรภัย 6,717 ราย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 1,218 ราย เมาแล้วขับ 1,162 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 2,012 ราย ไม่มีใบขับขี่ 9,311 ราย, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 25,207 ราย, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 1,195 ราย ขับรถย้อนศร 546 ราย แซงในที่คับขัน 81 ราย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 194 ราย

แนะเลี่ยงรถติดสายเหนือ
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ในเส้นทางสายเหนือ ถนนสายเอเชีย ผ่าน จ.อ่างทอง ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นในช่วงบ่ายแต่ยังคล่องตัวทำความเร็วได้ 80-90 กม./ ชม. เช่นเดียวกับถนนพหลโยธินช่วง จ.นครสวรรค์ ปริมาณรถหนาแน่น มีรถติดช่วงแยกสัญญาณไฟจราจรมีรถติดสะสม โดยเฉพาะบริเวณแยก เดชาติวงศ์มีรถติดสะสมจำนวนมาก ตำรวจเปิดช่องการจราจรพิเศษ บนสะพานเดชาติวงศ์ (สะพานกลาง) อีก 2 ช่องจราจรเร่งระบายรถ ส่วนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก มีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น ตำรวจต้องควบคุมสัญญาณไฟจราจรด้วยมือ ระบายรถตามสภาพการจราจร ตำรวจได้ฝากประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงรถติดในช่วง 1-2 วันนี้ว่า เมื่อถึงแยกเลี่ยง เมืองนครสวรรค์ เลี้ยวซ้ายใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (ทางหลวงหมายเลข 122) ถึงสามแยกหนองตะโก เลี้ยวซ้ายไป จ.กำแพงเพชร และเลี้ยวขวาขึ้นสะพานต่างระดับเข้าทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก
...
เพชรเกษมรถยังวิ่งคล่องตัว
ส่วนถนนเพชรเกษม ช่วง อ.เมืองประจวบ คีรีขันธ์ เส้นทางสู่ภาคใต้ ปริมาณรถเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสาย แต่ยังคล่องตัว โดย พ.ต.ท.สาโรจน์ เปี่ยมเจริญ สารวัตร ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ตำรวจทางหลวงประจวบ คีรีขันธ์ กล่าวว่า สภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่อำเภอหัวหินถึงบางสะพานน้อย ปริมาณรถหนาแน่น แต่ยังน้อยกว่าวันเสาร์ที่ผ่านมา รถยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตลอด และสามารถทำความเร็วได้ มีรถติดบริเวณสี่แยกหลักบางจุดเป็นช่วงๆ ไม่เกิน 3 นาที เนื่องจากต้องการปล่อยให้รถวิ่งได้ต่อเนื่องตลอดเส้นทาง คาดว่าปริมาณรถขาล่องใต้จะเพิ่มมากขึ้นหลัง 2 ทุ่มเป็นต้นไป
สายอีสานรถเพิ่มต่อเนื่อง
บนถนนมิตรภาพ เส้นทางสู่ภาคอีสาน การ จราจรช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา มีปริมาณรถยนต์จำนวนมากทยอยเดินทางมากขึ้นส่งผลให้มีรถเคลื่อนตัวได้ช้า โดยเฉพาะทางขึ้นเนินสูง ทำให้มีรถติดสะสมเต็มพื้นที่ ส่วนเส้น 304 กบินทร์บุรี-อ.วังน้ำเขียว- นครราชสีมา ปริมาณรถมากเช่นเดียวกัน เกิดการติดขัดสะสมช่วงทางขึ้นเขา อ.วังน้ำเขียว ต่อเนื่องถึง อ.ปักธงชัย ขณะที่ถนนบายพาสเลี่ยงตัวเมืองนครราชสีมา ปริมาณรถหนาแน่นตั้งแต่ทางต่างระดับสามแยกปัก เนื่องจากรถที่มาจากถนนมิตรภาพกับสาย 304 มาบรรจบกัน ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า พ.ต.ท.จิระพันธ์ มณีรัตน์ สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. (นครราชสีมา) กล่าวว่า การจราจรบนถนนมิตรภาพ ขาเข้านครราชสีมา ตั้งแต่ช่วง กม.36-39 ขึ้นเนินกลางดง อ.ปากช่อง ถึง กม.43 ตลาดผลไม้กลางดง และ กม.47 จนถึง กม.51 ที่เป็นจุดปั๊มน้ำมันถึง 4 ปั๊ม และขึ้นเนินสูงชัน รถ เคลื่อนตัวได้อย่างช้า แต่ปริมาณรถยังเบาบาง คาดว่าหลังจากเลิกงานในช่วงเย็น รถจะมากขึ้นจนถึงวันรุ่งขึ้น เราเตรียมกำลังไว้พร้อม อีกทั้งได้เปิดถนนมอเตอร์เวย์ M6 ไว้รองรับปริมาณรถขาออกแล้ว
...
บขส.เชียงใหม่โหรงเหรง
ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกคึกคัก ต้องเพิ่มเที่ยวบินอีก 4 เที่ยวบิน เช่นเดียวกับสถานีรถไฟเชียงใหม่ ขบวนรถขาขึ้นที่มี 6 ขบวน เต็มทุกขบวน รองรับผู้โดยสารได้วันละประมาณ 3,000 คน ขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่แห่งที่ 3 กลับเงียบเหงา มีคนใช้บริการบางตา นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารลดลงร้อยละ 80 เที่ยวรถลดลงร้อยละ 60 รถทัวร์สายกรุงเทพมหานคร-เชียงใหม่ จากปกติวันละ 104 เที่ยว หรือไปกลับ 52 เที่ยว ลดลงเหลือเพียงวันละ 44 เที่ยว จำนวนผู้โดยสารเข้าออกสถานีเดิมเฉลี่ยจากวันละ 3,200 คน เหลือวันละ 800 คน สาเหตุหลักยังคงเป็นความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด-19

ขบวนรถสายอีสานแน่นทุกขบวน
ที่สถานีรถไฟขอนแก่น บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งมีทั้งคนที่มาลงขอนแก่นเพื่อกลับบ้าน และคนรอขึ้นรถกลับไปภูมิลำเนาในจังหวัดอื่น ขบวนรถที่มีจุดรับส่งที่ จ.ขอนแก่น มีผู้โดยสารเต็มทุกขบวน นายศักรินทร์ แสงอรุณ นายสถานีรถไฟขอนแก่น กล่าวว่า วันนี้ผู้โดยสารที่มากับขบวนรถไฟหนาแน่นมากกว่าช่วง 2 วันก่อน และคาดว่าจะหนาแน่นมากยิ่งขึ้นไปจนถึงวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะสายยาว กรุงเทพฯ-หนองคาย และแก่งคอย-ขอนแก่น สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย เพิ่มขบวนเสริม 2 ขบวน ในวันที่ 12 เม.ย. คือ ขบวน 967 ออกจากกรุงเทพฯในเวลา 21.15 น. ถึงปลายทาง จ.อุดรธานี เวลา 08.10 น. และวันที่ 17 เม.ย. ขบวน 936 ออกจาก จ.อุดรธานี เวลา 21.10 น. ถึงปลายทางกรุงเทพฯ เวลา 07.30 น. เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งแห่งที่ 3 จ.ขอนแก่น ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นทางเดินรถสายยาว ขอนแก่น-หนองคาย ขอนแก่น-เชียงใหม่ ขอนแก่น-นครพนม และขอนแก่น-บุรีรัมย์-สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้บริการมากที่สุด
...
สนามบินอุดรฯผู้โดยสารเพิ่มเท่าตัว
ที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี มีผู้โดยสารมาใช้บริการอย่างหนาตาอย่างเห็นได้ชัด โดยนายกำแหง สายวิภู ผอ.สนามบินนานาชาติอุดรธานี เปิดเผยว่า ช่วงสงกรานต์มีคนมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเท่าตัวส่วนใหญ่เป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนา และจองตั๋วแบบไปกลับไว้ล่วงหน้า เริ่มเดินทางกลับมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. มีผู้คนใช้บริการทั้งไปและกลับมากกว่า 5,000 พันคน ใน 40 เที่ยวบิน/วัน คาดว่าพรุ่งนี้ปริมาณคนใช้บริการน่าจะลดลง เพราะจำนวนเที่ยวบินก็จะลดลงตามจำนวนผู้โดยสาร ขณะที่ บขส.อุดรธานี แห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีผู้คนที่เดินทางกลับบางตา จากการสอบถามทราบว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ และปีที่ผ่านมา มีผู้คนเดินทางด้วยรถโดยสารน้อยมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาด ส่วนมากจะใช้รถยนต์ส่วนตัว รถเหมาคัน และเครื่องบิน เพราะสะดวกและรวดเร็วและปลอดภัยกว่ารถโดยสาร
สนามบิน-รถไฟหาดใหญ่คึกคัก
ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา สายการบินเปิดให้บริการครบทุกสายการบิน มีประชาชนเดินทางเข้า 8,000-10,000 คน ส่วนใหญ่เดินทางกลับบ้านที่ จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บางส่วนเป็นนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางต่อไป จังหวัดอื่น เช่น สตูล และพัทลุง สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ โดยขบวนรถเร็วจากกรุงเทพฯ ปลายทางสุไหงโก-ลก มีผู้โดยสารเต็มทั้งขบวน ส่วนใหญ่มาลงที่ชุมทางหาดใหญ่ บางส่วนไปลงปลายทางสุไหงโก-ลก ขณะที่ขบวนรถไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผู้โดยสารเต็มทุกขบวน นอกจากนี้มีประชาชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จากหาดใหญ่ที่ทำงานใน จ.สงขลา มารอขึ้นรถเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก

แม่ค้าสมุยยิ้ม นักท่องเที่ยวเพิ่ม
ชายหาดเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เริ่มมีชีวิตชีวาฉลองเทศกาลสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาพักผ่อนสัมผัสความสวยงามของหาดทราย และท้องทะเลที่มีความสวยงาม ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยนางสำเนียง จำปาโพ แม่ค้าขายส้มตำไก่ย่างริมชายหาดเฉวง กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทั้ง ชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ทำให้ขายของได้ดีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากการ ระบาดของโรคโควิด-19 จนนักท่องเที่ยวลดน้อยลง แทบไม่มีรายได้ แต่ช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้ากลับมายิ้มได้กันอีกครั้งหลังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ตรวจความพร้อมท่าเรือฉลอง
ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รอง ผวจ.ภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจความพร้อมของท่าเทียบเรือ ตัวเรือ และพนักงานบนเรือ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาใช้บริการจำนวนมาก โดยนายทิวัตถ์ สีดอกบวบ รองนายก อบจ.ภูเก็ตกล่าวว่า ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองอยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.ภูเก็ต จำนวนนักท่องเที่ยวในวันปกติอยู่ที่ 800-1,000 คน ในช่วงเทศกาลขยับขึ้นสูงถึง 2,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 1,200-1,300 คน ต่างชาติ 600-700 คน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้สั่งการเพิ่มความเข้มในการดูแลนักท่องเที่ยว ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ในการกู้ชีพกู้ภัย หากเกิดเหตุพร้อมเข้าช่วยเหลือทันที และที่เน้นย้ำมา คือ ผู้โดยสารที่ดื่มสุรา จะต้องดูแลเป็นกรณีพิเศษ ป้องกันไม่ให้เกิดการพลัดตกเรือ หรืออันตรายอื่นๆ

หัวลำโพง-หมอชิต 2 คนล้น
ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ มีประชาชนจำนวนมากอุ้มลูกจูงหลานพร้อมหอบสัมภาระมาเข้าคิวซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว โดยแต่ละคนสวมหน้ากากอนามัยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดอย่างหนัก เช่นเดียวกับสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาขึ้นรถโดยสารเพื่อกลับบ้าน ทำให้บริเวณสถานี เนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสารที่รอขึ้นรถ