ผมได้รับหนังสือพ็อกเกตบุ๊กจากสำนักพิมพ์น้องใหม่ชื่อไม่คุ้นหูนัก...บริษัท อาลาดิน ออนไลน์ จำกัด...แต่เมื่อเปิดซองออกมาพบว่า เป็นหนังสือพ็อกเกตบุ๊กเรื่อง “สามก๊กสามมิติ” โดยก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ก็ร้อง “อ๋อ” ขึ้นมาทันทีเพราะจำได้แม่นยำว่า เมื่อสัก 10 กว่าปีที่แล้ว เคยมีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมเชิงประวัติศาสตร์จีนเรื่อง “สามก๊ก” ออกมาสู่ร้านหนังสือ 2-3 เล่ม เขียนโดยผู้ใช้นามปากกาเดียวกันนี้ปรากฏว่าขายดีมากในระดับหนึ่ง และยังมีการนำไปจัด “เสวนา” เชิงเบื้องหน้าเบื้องหลังอีกหลายครั้ง...มีผู้สนใจเข้าฟังแน่นทุกๆครั้งเหตุผลข้อแรกเลยก็มาจากความยิ่งใหญ่ของวรรณกรรมเชิงประวัติศาสตร์จีน เรื่อง “สามก๊ก” นั่นแหละครับ...นอกจากฉบับของ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ซึ่งแปลมาให้คนไทยอ่านตั้งแต่ พ.ศ.2345 หรือเมื่อ 220 ปีก่อนในยุคสมัยรัชกาลที่ 1 โน่นแล้วคนไทยรุ่นหลังๆยังได้อ่านจากฉบับวิเคราะห์บ้าง ตัดต่อแต่งเติมบ้าง โดยนักประพันธ์ที่โด่งดังหลายต่อหลายท่านเช่น “สามก๊กฉบับวณิพก” ของ “ยาขอบ” และ “สามก๊กฉบับนายทุน” ของท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ฯลฯ เป็นต้นแสดงถึงความยิ่งใหญ่และอมตะของวรรณกรรมเรื่องนี้ที่สามารถนำไปตีความ ไปวิเคราะห์ ไปสังเคราะห์ได้อย่างกว้างขวางดังนั้น (เหตุผลข้อที่ 2) เมื่อผู้เขียนชุดหลังสุด 10 กว่าปีที่แล้วอันได้แก่ คุณ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ซึ่งโด่งดังในฐานะซีอีโอรุ่นใหม่ที่ปลุกปั้น เซเว่น อีเลฟเว่น จนแผ่สาขาไปทั่วประเทศไทย...มาลงสนามเขียนถึง “สามก๊ก” กับเขาด้วย โดยใช้นามจริงพิมพ์ไว้บนแผ่นปก จึงได้รับความสนใจอย่างมากไม่แพ้สามก๊กชุดก่อนๆเริ่มจาก “ซีอีโอโลกตะวันออกฉบับลีลาบริหารสามมิติ” (พิมพ์ พ.ศ.2547), “อ่านสามก๊กถกบริหาร” (พิมพ์ พ.ศ.2552) และ “อ่านสามก๊กถกยอดคน” (พิมพ์ พ.ศ.2555) รวม 3 เล่มด้วยกันเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะผมขณะนี้ อันเป็นฉบับพิมพ์และจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2565 จึงเป็น “สามก๊ก” เล่มที่ 4 ของคุณ ก่อศักดิ์ รวบรวมต้นฉบับทั้ง 3 เล่มแรกที่ขาดตลาดไปแล้ว เข้าไว้ด้วยกัน แถมด้วยการถอดบันทึกการเสวนา 2 ครั้ง ในหัวข้อ “สามก๊กสามมิติ” และ “ทำไมคนไทยต้องอ่านสามก๊ก” ส่งผลให้การรวมเล่มพิมพ์ใหม่ครั้งนี้สมบูรณ์และสะท้อนมุมมองของคุณก่อศักดิ์ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้นเหตุที่คุณก่อศักดิ์ใช้คำว่า “สามมิติ” นั้น ผมก็ตีความว่า เพราะในเล่มนี้มีมิติเรื่อง “อายุ” และประวัติการเรียนการศึกษาตลอดจนสังคมแวดล้อม หรือชาติตระกูลของตัวละครต่างๆ มาทำให้เรารู้จักปูมหลังของตัวละครดังๆมากยิ่งขึ้นเช่น พอพูดถึง ขงเบ้ง กับ เล่าปี่ เราจะรู้ว่าขงเบ้งมีอายุอ่อนกว่าเล่าปี่ 20 ปี...มาทำงานด้วยกัน...ช่วงที่เล่าปี่อายุ 46 ปี ขงเบ้งอายุ 26 ปี เป็นต้น และในวันที่มอบหมายให้ ขงเบ้ง เป็นผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดนั้น ขงเบ้งอายุ 27 ปีเท่านั้นเอง?หรืออย่าง โจโฉ ก็มีประวัติว่าเป็นลูกของคนใกล้ชิดขุนนางและขันทีที่มีอิทธิพลอย่างสูงในวังหลวง แถมยังเคยผ่านโรงเรียนทหารยุคก่อนคล้าย จปร. ในยุคปัจจุบันมาด้วยการรู้จักปูมหลังและประวัติของแต่ละตัวละครมากขึ้น ทำให้เราสามารถที่จะตัดสินใจได้ว่า ใครคือพระเอกหรือผู้ร้ายที่แท้จริงสำหรับวรรณกรรมประวัติศาสตร์เรื่องนี้จุดเด่นของคุณก่อศักดิ์ยังอยู่ที่การมองเชิงบริหารของผู้นำต่างๆในสามก๊กที่มักใช้การบริหารในระบบ “ครอบครัว” อันเป็นประเพณีของชาวตะวันออก ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียระคนกัน...แต่ถ้านำมาใช้ให้ถูกทางการบริหารแบบครอบครัว (อย่างมีหลักการ) ก็มีตัวอย่างให้เห็นว่า บริษัทตะวันออกประสบความสำเร็จมากกว่าบริษัทตะวันตกเสียอีกในจดหมายข่าวที่แนบมาด้วยบอกว่า หนังสือ “สามก๊ก สามมิติ” สามารถสั่งจองและสั่งซื้อทางออนไลน์ ด้วยการเข้าไปค้นหารายละเอียดได้ใน www.aladinonline.co.th แต่ที่ง่ายกว่าและสะดวกกว่าก็คือจะมีวางจำหน่ายใน เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศในจดหมายข่าวฉบับเดียวกันนี้ยังมีถ้อยคำโฆษณาประชาสัมพันธ์แนบมาด้วยว่า “อย่าคิดการใหญ่ถ้ายังไม่ได้อ่านสามก๊ก”...ข้อความนี้ขอฝากถึงพรรคการเมืองที่กำลังเตรียมตัวเลือกตั้งและ “คิดการใหญ่” กันอุตลุดในขณะนี้เป็นพิเศษ...อย่าลืมอ่าน “สามก๊กสามมิติ” ของคุณ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ กันด้วยนะครับ.“ซูม”