รวมยอด ATK ทะลัก 65,756 คน ชี้กลาง เม.ย.พีก ระดมโรงพยาบาลรองรับ

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งสูงไม่เลิก พบผลตรวจ ATK พุ่งกระฉูด วันเดียวถึงกว่า 4 หมื่นคน รวมผลตรวจแบบ PCR ทะยานไปถึงกว่า 65,000 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มพุ่ง 49 ราย ศบค.คาดกลางเดือน เม.ย.ถึงจุดพีกสุดมีป่วยวันละ 4-5 หมื่นราย หากหย่อนมาตรการป้องกันตัวอาจมากกว่านี้ เผยคนสูงวัยฉีดเข็ม 3 ตายน้อยกว่าผู้ไม่ฉีดถึง 41 เท่า ให้เร่งฉีดเพื่อป้องกันติดจากลูกหลานที่กลับภูมิลำเนาไปฉลองสงกรานต์ กระทรวงสาธารณสุขเพิ่ม รพ.รอบกรุงเทพฯรองรับผู้ป่วย ส่วนสายด่วนที่คนกระหน่ำโทร.สายแทบไหม้ เร่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้บริการ เทศบาลนครเชียงใหม่ไอเดียเจ๋งจัดรับยาฟาวิพิราเวียร์แบบ “ไดรฟ์ทรู” เป็นแห่งแรก

ช็อกความรู้สึกคนไทยอีกครั้ง หลังพบว่าในวันที่ 3 มี.ค.พบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยพุ่งสูงถึง 6 หมื่นกว่าราย โดยมาจากการตรวจแบบ PCR และตรวจแบบ ATK

ติดเชื้อรวม ATK เกินครึ่งแสนดับ 49

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่3 มี.ค. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในไทยว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 23,618 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 23,211ราย หากรวมยอดผู้ติดเชื้อที่ตรวจเอทีเคเป็นผลบวกอีก 42,138 ราย จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของวันที่ 3 มี.ค. อยู่ที่ 65,756 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,958,162 ราย หายป่วยเพิ่ม 18,939 ราย อยู่ระหว่างรักษา 223,414 รายเป็นการรักษา อยู่ใน รพ. 79,412 ราย เป็นผู้มีอาการสีเขียว 98.5% เสียชีวิตเพิ่ม 49 ราย เป็นชาย 24 รายหญิง 25 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 41 ราย มีโรคเรื้อรัง 6 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 23,070 ราย

พีกสุดกลาง เม.ย.ติด 4–5 หมื่นราย/วัน

พญ.สุมนีกล่าวอีกว่า 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 3 มี.ค. มี กทม. 2,779 ราย ชลบุรี1,217 ราย นครศรีธรรมราช 959 ราย สมุทรปราการ953 ราย ระยอง 754 ราย นนทบุรี 739 ราย สมุทรสาคร 704 ราย ภูเก็ต 649 ราย ราชบุรี 570 รายบุรีรัมย์ 548 ราย ผู้ติดเชื้อที่ปอดอักเสบที่เข้า รพ. วันที่ 2มี.ค.พบมากสุดใน กทม. 178 ราย สมุทรปราการ 88ราย บุรีรัมย์ 63 ราย นนทบุรี 62 ราย ภูเก็ต 55 รายกาญจนบุรี 35 ราย สุราษฎร์ธานี 35 ราย นครศรีธรรมราช34 ราย นครราชสีมา 33 ราย ชลบุรี 33 ราย หากไปดูการคาดการณ์สถานการณ์ ปัจจุบันพบการติดเชื้อในประเทศยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ถ้าประชาชนทำตามมาตรการและหน่วยงานต่างๆ ให้ความร่วมมือ การติดเชื้อมากสุดจะอยู่ช่วงกลางเดือน เม.ย. ผู้ติดเชื้อจะอยู่ประมาณวันละ 4-5 หมื่นราย แต่หากทุกคนย่อหย่อนตัวเลขจะสูงกว่านั้น จึงขอให้ทุกภาคส่วนเคร่งครัดมาตรการ อยากให้คงตัวเลขติดเชื้อวันละไม่เกิน 2 หมื่นราย เพื่อรักษาระบบสาธารณสุขไว้

บุคลากรแพทย์ใน รพ.ติดเพียบ

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า ขณะที่คลัสเตอร์ที่พบมากสุดในวันนี้คือ สถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ พบที่ กทม. ชลบุรี สมุทรปราการ นราธิวาส ปทุมธานี สุราษฎร์ธานี บึงกาฬ นนทบุรี ฉะเชิงเทรา คลัสเตอร์โรงเรียนพบที่ร้อยเอ็ด พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี กาฬสินธุ์ ชลบุรี เพชรบุรี มหาสารคาม คลัสเตอร์ตลาดพบที่สมุทรสาครเพชรบุรี อุบลราชธานี จันทบุรี ขอนแก่น มุกดาหาร ส่วนคลัสเตอร์โรงงาน พิธีกรรมศาสนา ร้านอาหาร มีการแพร่เชื้อน้อยลงแล้ว

สูงวัยฉีด 3 เข็มตายน้อยกว่าไม่ฉีด

พญ.สุมนีกล่าวต่อว่า กรมควบคุมโรค วิเคราะห์ว่าผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจากการระบาดโอมิครอนระลอกนี้ เมื่อเทียบกับการรับวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ก.พ. พบว่า ผู้เสียชีวิต 75% เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 928 ราย โดยยังไม่ได้รับวัคซีนเลย 60% หรือ 557 คน ได้รับหนึ่งเข็ม 8% หรือ77 คน รับสองเข็ม 29% หรือ 271 คน วัคซีนสามเข็ม2% หรือ 23 คน ถ้าเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตกับการรับวัคซีน ผู้สูงอายุทั้งหมด 12.71 ล้านคน มีจำนวน2.2 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราเสียชีวิตสูงสุด 257 ต่อ 1 ล้านคน ส่วนผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีน 3 เข็ม จะลดอัตราการเสียชีวิต 41 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่รับวัคซีนฉีดครบ 2 เข็ม จะลดการเสียชีวิต6เท่า

เร่งฉีดคนแก่ป้องกันช่วงสงกรานต์

พญ.สุมนีกล่าวอีกว่า เมื่อเทียบกับคนไม่ได้รับวัคซีน หากเทียบผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนครบโดส 2 เข็ม กับผู้รับเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 จะเห็นว่าผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 จะลดอัตราการเสียชีวิตลง 7 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จึงขอเชิญชวนให้ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกลุ่มที่ ยังไม่ได้รับวัคซีน 2.2 ล้านคน ให้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ไปฉีดตามนัด และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่อครบ 3 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลสงกรานต์ ที่ลูกหลานจะเดินทางกลับไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่บ้าน ให้กรรมการโรคติดต่อทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ สำรวจผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังได้รับไม่ครบ หรือมีกำหนดฉีดเข็มกระตุ้น ให้ไปฉีดวัคซีนเชิงรุกกับกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้ ขณะนี้การฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ฉีดเข็มที่หนึ่ง 83% เข็มสอง 78.6% เข็มที่สาม 30.8% การฉีดวัคซีนในเด็กเล็กอายุ 5-11 ปี ที่มีเป้าหมาย 5.1 ล้านคน เข็มที่หนึ่ง 15.4% เข็ม 2 ฉีด 0.3% ขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปรับวัคซีนจากสถานบริการใกล้บ้าน เพื่อเตรียมภาคกับการเปิดเรียน โดยมีวัคซีนซิโนแวคและไฟเซอร์ฝาส้ม ให้เลือกได้ตามความสมัครใจ

เด็กติดโควิดสอบ TCAS ศูนย์พิเศษ

เมื่อถามว่า นักเรียนที่ติดเชื้อและจำเป็นต้องสอบ TCAS จะเข้าสอบได้หรือไม่ พญ.สุมนีกล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาตรการสำหรับการเข้าสอบ TCAS ว่าผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้าสอบได้ที่ศูนย์สอบพิเศษ โดยลงทะเบียนล่วงหน้าก่อน 24 ชั่วโมง แต่ผู้ติดเชื้อต้องเป็นผู้ที่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ ศูนย์สอบต้องแยกสอบระหว่างผู้ติดเชื้อกับไม่ติดเชื้อให้ชัดเจน ลดการใกล้ชิด ทำความสะอาดกระดาษสอบก่อนส่งและใช้ดินสอเท่านั้น สวมหน้ากากตลอดเวลา แยกรับประทานอาหาร หรือให้ขอเข้าพักในศูนย์สอบพิเศษกรณีที่ศูนย์สอบมีความพร้อม ที่ประชุม ทปอ.หารือกันว่าจะจัดสนามสอบพิเศษ 7 แห่ง และจะต้องสอบในเวลาเดียวกันกับการสอบปกติ ไม่มีสอบก่อนหลัง เว้นระยะห่างระหว่างผู้สอบกับผู้คุมสอบด้วยการใช้กล้องวงจรปิด

เพิ่มคู่สาย 1330 ให้รับมือไหว

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ติดต่อผ่านสายด่วน สปสช.1330 เป็นจำนวนมากในแต่ละวันว่า ได้สั่งให้เพิ่มคู่สายรองรับ หาวิธีให้คนได้ลงทะเบียนเข้าระบบมากขึ้น ให้อธิบดีทุกกรมที่มีสายด่วนเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเพิ่มช่องทางให้บริการ นโยบายการรักษาระบบผู้ป่วยนอก หรือ OPD “เจอ-แจก-จบ” เป็นอีกแนวทางที่พยายามคลายปัญหาคอขวดผู้ติดเชื้อระดับสีเขียวที่มากขึ้น ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงมารักษาผ่านระบบ OPD ได้ เมื่อแพทย์วินิจฉัยแล้วจ่ายยาและจบกลับไปดูแลตนเองที่บ้านได้ภายใน 5-10 วัน นอกจากนี้ ไทยได้แจ้งองค์การอนามัยโลกว่า ประสงค์และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในโครงการโคแวกซ์ โดยจะบริจาควัคซีนโควิด-19 ผ่านโครงการโคแวกซ์แม้ไทยไม่ได้เข้าร่วมในฐานะผู้รับบริจาคในปีที่ผ่านมา ผอ.องค์การอนามัยโลกระบุว่า ให้บริจาคไปยังประเทศแถบแอฟริกา นอกเหนือจากบริจาคให้ประเทศกลุ่มอาเซียน ครม.ได้เห็นชอบให้บริจาคไปยังประเทศที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีน 5 ล้านโดส

ไปรักษาที่คลินิกทางเดินหายใจได้

ขณะที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อเดือน มี.ค.ช่วงนี้อยู่ในระดับเส้นสีเหลือง พยายามกดตัวเลขให้อยู่ระดับสีเขียว ต้องอาศัยความร่วมมือทุกฝ่าย โดยเฉพาะไม่ไปสถานที่เสี่ยง ลดรวมกลุ่มคนหมู่มาก เพื่อที่จะลดตัวเลขให้ต่ำมากได้ในปลาย เม.ย. เมื่อวันที่ 2 มี.ค. สายด่วน 1330 มีผู้โทร.เข้ามาถึงกว่า 70,000 รายแต่มีเจ้าหน้าที่รับสาย 700 กว่าคน ทำให้ติดต่อกลับได้เพียง 28,688 คน ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จัดบริการให้เหมาะสมมากขึ้น ขณะเดียวกันได้เพิ่มโครงการ “เจอ-แจก-จบ” รักษาผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยเข้ารักษาระบบผู้ป่วยนอก หรือ OPD หากตรวจ ATK พบผลบวก สามารถเดินทางไปรักษาที่คลินิกระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ใน รพ.เพื่อประเมินความเสี่ยงและแจกความรู้แจกยา ให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง และจบคือเข้าสู่ระบบบริการรักษา รพ.จะติดตามการรักษาภายใน 48 ชม. ระบบนี้เป็นอีกทางเลือกเสริมจาก HI

เพิ่ม รพ.รอบ กทม.รองรับผู้ป่วย

นพ.เกียรติภูมิยังกล่าวอีกว่า สายส่วนใหญ่ที่โทร.1330 มาจากพื้นที่ กทม. เนื่องจากมีสัดส่วนติดเชื้อสูง เราไม่มี รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุขใน กทม. จึงช่วยบรรเทาให้คนที่มีผลบวกเข้าถึงบริการ ผู้ที่โทร.ไป 1330 หากไม่มีใครรับสายวอล์กอินมายัง รพ. เพื่อคัดกรองแบบผู้ป่วยนอกได้ แต่ต้องเป็นผู้ป่วยที่อาการน้อยหรือไม่มีอาการ ขณะนี้กระทรวงได้จัด รพ.ในสังกัดดูแลรักษาผู้ติดเชื้อรอบ กทม.ทั้งหมด 14 จังหวัด มีนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก สิงห์บุรี อ่างทอง นครปฐม สมุทร สงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา รพ.สังกัดกรมสุขภาพจิต (ปริมณฑล) และ รพ.สังกัดกรมควบคุมโรค (ปริมณฑล) มาช่วย รองรับผู้ติดเชื้อได้ 18,650 รายต่อวัน เริ่มให้บริการ 4 มี.ค. สามารถเดินทางข้ามจังหวัดไปรับบริการได้ฟรีทุกที่และทุกสิทธิการรักษา จากการประเมินมีประมาณ 3-5 หมื่นคนที่ยังตกค้าง คาดว่าเมื่อมีระบบ OPD มารองรับจะช่วยบรรเทาได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์

ห่วงคนกระบี่ติดโควิดวันละ 2 พัน

ด้าน น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีชาว จ.กระบี่ ติดเชื้อโควิดทะลุสูงถึงวันละ 2 พันคน ส่วนใหญ่ติดเชื้อแพร่กระจายในครัวเรือน ในบ้านแออัดอยู่ในสภาพ “จน เจ็บ จบ” ยังเข้าไม่ถึงระบบ “เจอ แจก จบ” ตามที่รัฐบาลประกาศใช้นโยบายนี้ โดยเฉพาะยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ชาวบ้านไม่ได้รับยาชนิดนี้ แม้แต่ผู้ป่วยในกลุ่ม 608 ก็ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษา รัฐบาลยืนยันว่ายาฟาวิพิราเวียร์ไม่ได้ขาด แต่ทำไมชาวบ้านที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อย่างน้อยควรได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ แต่กลับไม่ได้ ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ และขอให้จัดสรรยาฟาวิพิราเวียร์ ไปให้พื้นที่ต่างๆให้เพียงพอ อย่าให้บางพื้นที่มีล้นเหลือ แต่บางพื้นที่ขาดแคลน หากรับยาไม่ทันท่วงทีอาจเกิดเหตุสูญเสียต่อครอบครัวของผู้ที่ติดเชื้อโควิด

คนวงการบันเทิงยังป่วยกันเยอะ

ขณะที่วงการบันเทิงยังคงมีบุคคลติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนักร้องอินดี้ แซ็ค ชุมแพ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ได้ตรวจ ATK ก่อนเข้าบันทึกรายการผลพบเชื้อ เพื่อให้มั่นใจจึงไปตรวจแบบ RT-PCR ผลว่าพบเชื้อโควิด-19 และได้เข้ารักษาตามขั้นตอนแล้ว นอกจากนี้ ค่ายจีเอ็มเอ็ม ทีวี แจ้งว่า นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ และพร้อม-ทีปกร ขวัญบุญ 2 นักแสดงวัยรุ่นในสังกัดได้รับการตรวจ RT-PCR ที่ รพ. เมื่อ 2 มี.ค. ผลตรวจออกเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่าพบเชื้อโควิด-19 และเป็นผู้ป่วยสีเขียว จึงแยกกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อติดตามอาการและรักษาต่อไป วันเดียวกัน ยังมีพ้อยท์-ชลวิทย์ มีทองคำ นักแสดงช่องวัน 31 โพสต์ IG ส่วนตัวว่า ได้ตรวจ RT-PCR ก่อนเข้ากองถ่ายละคร และผลเป็นบวกคือติดเชื้อ เบื้องต้นมีอาการคล้ายเป็นหวัด มีจามและมีน้ำมูกเล็กน้อย

เชียงใหม่เจ๋งจัดไดรฟ์ทรู

วันเดียวกัน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศ มนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ มาตรวจเยี่ยมการให้บริการของศูนย์ไดรฟ์ทรู “เจอ แจ้ง จ่าย” ที่รพ.เทศบาลนครเชียงใหม่จัดเป็นแห่งแรกของจังหวัดและในภาคเหนือ นายอัศนีกล่าวว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ริเริ่มโครงการนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีภูมิลำเนา หรือทำงานอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ตรวจ ATK หาเชื้อโควิด-19 แล้วมีผลบวกให้ติดต่อผ่านระบบและนัดหมายมารับยาฟาวิพิราเวียร์ได้หลังเจ้าหน้าที่ซักถามประวัติเรียบร้อยแล้ว หากโทร.มาช่วงเช้าจะนัดมารับยาช่วงบ่าย หรือโทร.มาช่วงบ่ายจะนัดมารับยาช่วงเช้าวันถัดไป เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงระบบการรักษา ลดจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 และเตรียมขยายโครงการนี้ให้ครอบคลุมทั้ง 4 แขวง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาและได้รับยาทันทีหลังทราบว่าตัวเองติดเชื้อ

ปิดวัดหลังมีพระ-เณรติดอื้อ

ที่ จ.บุรีรัมย์ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดวัดกลางพระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมืองบุรีรัมย์ เป็นพื้นที่เสี่ยงสูงห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้า-ออกวัดอย่างเด็ดขาด ให้งดกิจกรรมทางศาสนาทุกประเภท ไม่ให้พระภิกษุสงฆ์ หรือสามเณรออกรับบิณฑบาตตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง หลังจากพระสงฆ์และสามเณรในวัดติดโควิด-19 จำนวน 25 รูป และโยมในวัดอีก 1 คน เหตุมีการติดเชื้อในวัดเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ. วัดจัดสอบบาลีสนามหลวงที่มีการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ มีพระสงฆ์ สามเณร คณะกรรมการคุมสอบ และฆราวาสมาดูแลพื้นที่ภายในวัดกว่า 600 คน ก่อนเข้าห้องสอบมีการตรวจ ATK พบพระ เณรและโยมในวัดมีผลบวกรวม 26 ราย ทั้งหมดได้แยกรักษาตัวตามมาตรการอยู่ในวัด

อุบลฯก็ยังหนักพบติด 715 ราย

ศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 715 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 642 ราย ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 73 ราย จากการวิเคราะห์สถานการณ์ พบว่าการระบาดมีแนวโน้มเพิ่มมากและระบาดเป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์กระจายอยู่ในทุกอำเภอสูงถึง 663 ราย กลุ่มคลัสเตอร์ใหม่มีคลัสเตอร์ ม.6 ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ มีผู้ติดเชื้อแล้ว 30 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 79 ราย ผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุเสียชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและฉีดเข็ม 2 แต่ยังไม่กระตุ้นเข็ม 3

ปัตตานีโควิดยังแรงไม่เลิก

ที่ จ.ปัตตานี สถานการณ์โควิด -19 ยังรุนแรง ยอดผู้ติดเชื้อของวันที่ 2 มี.ค.พบผู้ป่วยยืนยันใหม่ 274 คน พบจากการตรวจ ATK อีก 1,143 คน รวม 1,417 คน ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 1 คน จังหวัดมีคำสั่งจัดตั้งศูนย์พักคอยรองรับผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ให้แพทย์ใน รพ.แต่ละแห่งในพื้นที่เข้ามาดูแลรักษา โดยจัดตั้งใน อ.เมือง 3 จุด คือที่ ต.บานา ต.รูสะมิแล ต.สะบารัง อ.ยะหริ่ง 2 จุด ที่ ต.ปิยามุมัง ต.มะนังยง อ.โคกโพธิ์ 2 จุด ที่ ต.โคกโพธิ์ ต.ปากล่อ และ อ.หนองจิก 1 จุด ที่ ต.บ่อทอง

นครปฐมวันเดียวเจอกว่า 600 ราย

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 684 ราย เป็นคนไทย 669 ราย ต่างชาติ 15 ราย ผู้ป่วยใหม่ 241 ราย มีประวัติไปพื้นที่เสี่ยงที่มีคนหนาแน่น 79 ราย ผู้ป่วยตรวจก่อนทำหัตถการ 162 ราย และผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด 443 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ระหว่างประเมินอาการให้กักตัวที่บ้านและส่งไปดูแลที่ รพ.สนาม

นายกฯ โสมขาวติดโควิด

สำนักนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เผยเมื่อ 3 มี.ค.ว่านายคิม บู-คยุม นายกรัฐมนตรีมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นบวก โดยมีอาการไอเล็กน้อยหลังจากเดินทางไปเยือนเมืองแทกูเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.พ. ทั้งนี้นายคิมจะพักรักษาตัวที่บ้านพักในกรุงโซล เป็นเวลา 7 วัน สำนักงานฯยังระบุด้วยว่า บรรดาผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับนายคิมมีผลการทดสอบเป็นลบ ขณะที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเกาหลีใต้ เพิ่ม 198,803 ราย จากการระบาดรุนแรงของเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมในประเทศ 3,691,488 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 128 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8,394 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังเตือนว่าอาจมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงสุดถึง 250,000 รายต่อวันในช่วงกลางเดือน มี.ค.นี้