ท่ามกลางเศรษฐกิจในยุคข้าวยากหมากแพง การประกอบอาชีพหลักอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่นับวันสินค้าอุปโภคบริโภคพาเหรดปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หลายๆคนหันไปหารายได้เสริมมาใช้จ่ายในครอบครัวเหมือนอย่าง นายพงศกร อุปละ หรือ ครูเจี๊ยบ อายุ 47 ปี ครูสอนวิชา การงานและพื้นฐานอาชีพ โรงเรียนแม่อ้อวิทยาคม ต.แม่อ้อ อ.พาน จ.เชียงราย เจ้าของศูนย์การเรียนรู้เห็ด “ครูเจี๊ยบพารวย” ที่ใช้เวลาว่างมาทำเกษตรผสมผสานที่บ้านเลขที่ 110 บ้านดอนเจริญ หมู่ 8 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงรายโดยเฉพาะการเพาะเห็ดปลวก หรือเห็ดโคนที่ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพรองที่สร้างรายได้หลักปีละหลายแสนบาทนายพงศกรกล่าวว่า สนใจทำสวนเกษตรพอเพียงมานานแล้ว เริ่มจากปรับพื้นที่ถมดิน ขุดสระเลี้ยงปลา ปลูกไม้ผลต่างๆ รวมถึงศึกษาการเพาะเห็ดโคน เพราะเป็นเห็ดที่มีราคาแพง พยายามค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ลองผิดลองถูกมาพักใหญ่จนได้วิธีการเพาะเลี้ยงที่ลงตัวเริ่มจากทำสถานที่เพาะเห็ดด้วยวิธีทำแปลง “เพอร์มาคัลเจอร์” (Permaculture) โดยใช้ขี้วัวขี้ควายโรยตามพื้นที่ที่เราต้องการเพาะเห็ดแล้วนำเศษไม้เศษพืชมาวางทับ กลบด้วยดิน เพื่อสร้างที่อยู่ให้กับปลวก ก่อนนำเศษหญ้า เศษไม้มาวางทับอีกที เพื่อใช้เป็นอาหารให้กับปลวกเสร็จแล้วก็มาทำหัวเชื้อเห็ดโคน มีส่วนประกอบคือจาวปลวก 1 กก. น้ำตาลทรายแดง 1 กก. ข้าวสวย 1 ถ้วย สารกระตุ้นเชื้อรา และดอกเห็ดโคนแก่ นำทั้งหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 7 วัน ก่อนนำมาหมักในน้ำฝน 100 ลิตร อีก 30 วันจากนั้นนำหัวเชื้อ 500 มิลลิลิตรไปผสมน้ำเปล่า 5 ลิตร เอาไปรดแปลงเพาะเห็ด ต้องตรวจดูความชื้นเรื่อยๆ รอบหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเก็บเห็ดโคนขายได้แล้วการเพาะเห็ดโคนด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ตลอดทั้งปี ขาย กก.ละ 300 บาท เฉลี่ยแล้วแต่ละเดือนจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ยังไม่รวมการจำหน่ายหัวเชื้อเรียกว่าแต่ละปีมีรายได้เลี้ยงครอบครัวสบายๆ.วิโรจน์ วงศ์ใหญ่