คนไทยเฮ ศบค.อนุญาตให้จัดงานส่งท้ายปีเก่าฉลองปีใหม่ ร่ำสุราได้ถึงตี 1 เฉพาะในร้านเปิดโล่งอากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนหลายวัดดังเตรียมจัดสวดมนต์ข้ามปี ด้านนายกฯ ย้ำต้องยึดมาตรฐาน COVID-Free Setting เร่งฉีดวัคซีนให้ เร็วที่สุด โดย สธ.คลอดเกณฑ์จัดปีใหม่ปลอดภัย พร้อมลดพื้นที่สีแดงเหลือสีส้มกับเหลือง เพิ่มพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยวให้ชลบุรีเป็นจังหวัดที่ 8 ส่วน 1 ม.ค.ปีหน้าเพิ่ม “บึงกาฬ-นครพนม” ทั้ง จังหวัด ส่วน “ตราด-สระแก้ว-มุกดาหาร-อุบลราชธานี” เฉพาะบางอำเภอ ขณะเดียวกัน พบผู้ติดเชื้อ “โอมิครอน” ยืนยันแล้ว 8 รอผลอีก 3 คน พบมากสุดใน กทม. ตามด้วยชลบุรี นนทบุรี จังหวัดละ 1 คน ติดเชื้อมาจากนอกประเทศทั้งหมด ด้านกรมควบคุมโรคมั่นใจโควิดไทยอยู่ช่วงขาลง ส่วน “โอมิครอน” รอดู ทั่วโลกก่อนพิจารณาเกณฑ์การเป็นโรคประจำถิ่น

หลังสถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทยแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดรัฐบาลผ่อนคลายการทำกิจกรรมเพิ่มสำหรับการจัดงานเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้

...

ศบค.ชุดใหญ่ได้ข้อสรุปเพียบ

ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ว่าที่ประชุมมีการพิจารณาในหลายเรื่อง ทั้งเคาต์ดาวน์ปีใหม่ การสวดมนต์ข้ามปี มาตรการด้านการท่องเที่ยว และการจัดงานต่างๆ โดยได้หารือตามที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปก.สธ.) เสนอ และได้ข้อสรุปใน ศบค.ชุดใหญ่ รายละเอียดให้ ศบค.แถลง

จัดปีใหม่ต้องเข้มโควิดฟรีเซตติ้ง

จากนั้น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในที่ประชุม ศบค.ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ 2 เข็ม ส่วนผู้ไปเที่ยวงานต่างๆที่มีคนจำนวนมากต้องระมัดระวัง วันนี้ได้พิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ ศบค.ทั้งหมด สรุปสามารถจัดงานปีใหม่ได้ แต่ต้องมีมาตรฐาน และปฏิบัติตามมาตรการ COVID-Free Setting โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน ฉะนั้นใครที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ยังมีเวลาถึงวันที่ 27 ธ.ค.และเทศกาลปีใหม่จะเริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 27-31 ธ.ค.64 ฉะนั้นขอให้ทุกคนเร่งฉีดวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุด

สั่งสำรองเวชภัณฑ์ให้พร้อม

นายธนกรกล่าวอีกว่า นายกฯ ยังติดตามสถานการณ์การกลายพันธุ์ของสายพันธุ์โอมิครอน มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ศึกษาอาการ และความรุนแรงของโรค รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนและยาต้านเชื้อ รวมถึงแนวทางปฏิบัติของประเทศต่างๆ โดยให้เตรียมความพร้อมทั้งวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ เตียงผู้ป่วย กำชับการเฝ้าระวังจากผู้เดินทางเข้ามาในไทย เน้นการตรวจคัดกรองและการสอบสวนโรคให้เข้มงวดขึ้น รวมทั้งให้มีการสุ่มตรวจสถานประกอบการ สถานบริการ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และการป้องกันแบบครอบจักรวาล Universal Prevention อย่างเคร่งครัดด้วย

หากดีอาจใช้ต่อที่สงกรานต์

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า นายกฯ ยินดีที่หลายประเทศนำระบบการเปิดประเทศแบบปลอดภัยของไทย Test and Go เป็นต้นแบบ ที่ผ่านมาหลายประเทศชื่นชมความสำเร็จของไทย ที่สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดน้อยลง และหลังจาก ศบค.ออกข้อกำหนดให้มีการจัดงานเทศกาลปีใหม่และสวดมนต์ข้ามปีแล้ว จะให้ศึกษาประสิทธิภาพของมาตรการต่างๆ สำหรับใช้ในงานเทศกาลอื่นๆ เช่น สงกรานต์ต่อไป

เปิดด่านไทย-มาเลย์ ม.ค.65

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาการเปิดด่านจังหวัดชายแดนใต้รับนักท่องเที่ยว ที่ประชุม ศบค.มีมติเห็นชอบการเตรียมเปิดด่านทางบกรับนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go ในจุดผ่านแดนพื้นที่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และสตูล โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ช่วงกลางเดือน ม.ค.2565 เป็นต้นไป กำหนดการเปิดด่านให้เป็นไปตามผลการหารืออย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลไทยและมาเลเซีย ที่จะได้หารือกันต่อไป ในระหว่างนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการเตรียมความพร้อมในทุกเรื่อง พร้อมกันนี้ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ ศบค.ส่วนหน้า จบภารกิจที่ 16 ธ.ค.2565 โดยส่งมอบงานอำนวยการขับเคลื่อน และกำกับดูแล ศบค.ส่วนหน้าที่ดำเนินการมาแล้วให้กับ ศปก.ศบค. ดำเนินการต่อไป

...

ป่วยใหม่ทรงตัว-ตาย 23 คน

จากนั้นเวลา 12.00 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงที่ทำเนียบรัฐบาลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,398 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 3,376 คน จากเรือนจำ 2 คน มาจากต่างประเทศ 20 คน เป็นชาวต่างชาติ 18 คน คนไทย 2 คน มาจากประเทศฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ประเทศละ 3 คน รัสเซีย 4 คน เยอรมนี 2 คน ยูเครน สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเดนมาร์ก ประเทศละ 1 คน และมาจากลาว 3 คน ผ่านด่านพรมแดนทางบก รักษาหายป่วยเพิ่ม 5,467 คน อยู่ระหว่างรักษา 49,524 คน อาการหนัก 1,061 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 307 คน เสียชีวิตเพิ่ม 23 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 9 คน มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยัน 2,172,044 คน ยอดหายป่วยสะสม 2,101,326 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 21,194 คน

ลดสีพื้นที่เหลือส้มกับเหลือง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า สถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ เช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิต โดยตั้งแต่เดือน ก.ย.จนถึงเดือน พ.ย. ตัวเลขลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ความครอบคลุมในการรับวัคซีนเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค.ตามลำดับ เป็นปัจจัยที่นำเข้าที่ประชุมเพื่อให้มีมติการเปิดหรือขยายกิจกรรมกิจการในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีมติการปรับระดับพื้นที่ โดยขณะนี้เหลือเพียง 2 กลุ่มสีคือ พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 23 จังหวัด ปรับเป็น 39 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จาก 24 จังหวัด ปรับเป็น 30 จังหวัด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) จาก 7 จังหวัด ปรับเป็น 8 จังหวัด โดยเพิ่มชลบุรีเข้ามา โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวพยายามรักษาความดีไว้ที่สามารถคุมตัวเลขได้อย่างดี นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ม.ค. จะเพิ่มจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวในระยะที่ 3 อีก ได้แก่ จ.บึงกาฬและนครพนม นำร่องทั้งจังหวัด และบางที่เป็นเฉพาะบางอำเภอ ได้แก่ จ.ตราด อ.คลองใหญ่ จ.สระแก้ว อ.เมือง และ อ.อรัญประเทศ จ.มุกดาหาร อ.เมือง และ จ.อุบลราชธานี อ.เมือง และ อ.สิรินธร

...

กัก 7 วัน-ตรวจ RT-PCR ตามเดิม

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมยังหารือการปรับมาตรการควบคุมโรค โดยตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 133,061 คน พบผู้ติดเชื้อ 171 คน คิดเป็นร้อยละ 0.13 ขณะที่เมื่อรวมเข้ากับผู้ที่เดินทางเข้ามาในเดือน ธ.ค. 87,383 คน พบผู้ติดเชื้อ 152 คน คิดเป็นร้อยละ 0.17 ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อย เป็นสิ่งที่ทำให้คณะกรรมการมั่นใจมาตรการต่างๆที่ออกไปทั้ง Test and Go และแซนด์บ็อกซ์ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอปรับมาตรการการเข้าประเทศ อย่างกรณีนักท่องเที่ยวที่เข้ากักตัวและได้รับวัคซีน เดิมที่มีการปรับจาก 7 วัน เป็น 5 วัน ขอปรับให้กักตัว 7 วันตามเดิม นักท่องเที่ยวกลุ่ม Test and Go และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวที่เคยปรับการตรวจหาเชื้อครั้งแรกจาก RT-PCR เป็น ATK ขอปรับกลับไปเป็น RT-PCR ตามเดิม

เปิดเข้าไทยทางบกที่หนองคาย 24 ธ.ค.

ขณะที่กลุ่มประเภทบุคคล ประเทศ เงื่อนไข และมาตรการเข้าราชอาณาจักร จัดเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.Test and Go 2.แซนด์บ็อกซ์ 3.กักตัว 4.ผู้ขนส่งสินค้าทางบก-เรือ 5.ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ และ 6.ผู้มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ ขณะที่การแบ่งกลุ่มประเทศ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม 1.กลุ่มประเทศ Test and Go 2.กลุ่มทุกประเทศ 3.กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ และ 4.กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง โดยกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูงจะจัดตามกลุ่มประเทศที่มีการระบาดของโอมิครอน ทั้งทวีปยุโรปและแอฟริกาใต้ นอกจากนี้มีการปรับช่องทางการเข้าราชอาณาจักร จากเดิมที่มีเพียงทางอากาศ ให้เพิ่มทางบก นำร่องด่านหนองคาย เริ่มวันที่ 24 ธ.ค.นี้ และสงขลาอยู่ระหว่างเตรียมการ

คืนเคาต์ดาวน์ดื่มสุราได้ถึงตี 1

...

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบปรับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยให้บริโภคสุราในคืนวันที่ 31 ธ.ค.2564 ถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 1 ม.ค.2565 เฉพาะร้านที่เปิดโล่งและมีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดประเทศ ทำให้เห็นภาพการเคาต์ดาวน์ และต้องดำเนินการเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดคือ โควิด ฟรีเซตติ้ง และมาตรการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล

สธ.ออกเกณฑ์จัดปีใหม่ปลอดภัย

โฆษก ศบค.ระบุถึงมาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดคือคนที่เข้าร่วมงานจะต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ สถานประกอบการจะต้องตรวจการรับวัคซีนก่อนเข้าใช้บริการ ประชาชนต้องดำเนินมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด กิจกรรมกิจการ ต้องประเมินตัวเองผ่านมาตรฐานความปลอดภัยป้องกันโรค และที่สำคัญต้องให้เข้าออกสถานบริการนั้นเพียงทางเดียว สำหรับมาตรการกำกับควบคุมนั้น ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดให้มีทีมควบคุม กำกับ เฝ้าระวัง ให้เป็นไปตามมาตรฐาน สำหรับกิจกรรมที่มีผู้ร่วมงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป ผู้จัดงาน พนักงาน นักดนตรี จะต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ให้มีการตรวจคัดกรองด้วย ATK ภาย ใน 72 ชั่วโมง ผู้เข้าร่วมงานต้องลงทะเบียนและแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และมีผลตรวจ ATK เป็นลบ และการจัดงานต้องจัดในพื้นที่ที่ควบคุมการเข้าออกได้ ไม่ให้เกิดความแออัด จัดให้มีการจองตั๋วหรือลงทะเบียนล่วงหน้า กำหนดช่องทางเข้าออกเพียงจุดเดียว และมีระบบคิว จำกัดผู้เข้าร่วมงานหนึ่งคนต่อ 4 ตารางเมตร กำหนดโซนผู้เข้าร่วมงาน ระบุที่นั่งชัดเจน เน้นการทำความสะอาดทุกพื้นที่ พื้นผิว ทุก 1-2 ชั่วโมง กรณีมีการแสดงควรจัดระยะห่างระหว่างเวที และผู้ชมอย่างน้อย 5 เมตร

เตรียมจัดงานสวดมนต์ข้ามปี

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย ได้เสนอภาพการจัดงานช่วงปีใหม่ในพื้นที่ต่างๆ ว่ามีพื้นที่หลัก 5 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา ระยอง พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อม รวมถึงยังมีพื้นที่ในพื้นที่อื่นๆ อีกจำนวน 44 จังหวัด หลายที่จะเริ่มจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 27-31 ธ.ค.2564 โดยอนุญาตให้ใช้เวลาตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. แต่เฉพาะวันที่ 31 ธ.ค.2564 จะให้จัดถึงเวลา 00.30 น.และในพื้นที่การจัดงาน ไม่ให้จำหน่ายแอลกอฮอล์ อนุญาตให้ขายอาหารหรือสินค้าอื่นๆได้ พร้อมกันนี้ในที่ประชุมฯ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม รายงานการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีว่าจะมีกิจกรรมในส่วนกลาง ที่วัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในวันที่ 31 ธ.ค.2564 เวลา 22.30 น. ที่วัดอรุณราชวราราม จัดกิจกรรมสวดมนต์ ส่งท้ายปีเก่า เวลา 23.30 น. และจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรรับปีใหม่ วันที่ 1 ม.ค.2565 เวลา 07.00 น. รวมถึงมีการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ

ชวนคนปัก 2 เข็มมารับเข็ม 3

สำหรับผลการให้บริการวัคซีน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 97.4 ล้านโดส เป็นเข็มที่หนึ่ง 49.9 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 69.3 เข็มที่สอง 43.3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 60.2 เข็มที่สาม 4.1 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 5.5 คาดว่าประเทศไทยจะมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 100 ล้านโดส ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรามีวัคซีนพร้อมฉีดให้คนที่จะมารับการกระตุ้นเข็มสาม เนื่องจากเชื้อโอมิครอนกระจายไปในหลายพื้นที่ของต่างประเทศ การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่สามจะช่วยลดอัตราความรุนแรงของโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้ จึงต้องการให้คนที่ฉีดวัคซีนเข็มสองในช่วง ส.ค.กับ ก.ย.2564 ให้มาฉีดเข็มที่สามหรือเข็มกระตุ้นในเดือน ธ.ค.

“บิ๊กตู่” สั่งจัดหาวัคซีนเข็มที่ 4

ส่วนเป้าหมายการฉีดวัคซีน ในปี 2565 ประชาชนทุกคนต้องได้รับวัคซีนเพียงพอ ครอบคลุมอย่างน้อยร้อยละ 85 ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน สามารถรับการฉีดแบบวอล์กอินได้ กลุ่มเป้าหมายต่ำกว่า 12 ปี ได้รับวัคซีนตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนในปี 2565 มีการอนุมัติอีก 120 ล้านโดส โดยนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.มอบหมายกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ไปจัดหา โดยเข็มที่ 4 ที่จะจัดหานั้น เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเข็มที่ 4 จะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาจึงขอให้ทางกรมควบคุมโรค ทำสัญญาเตรียมการลงนามในข้อกฎหมายก่อนสั่งซื้อ เพื่อให้ไทยเราได้วัคซีนที่ทันสมัย สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้

ไทยพบโอมิครอน 11 คน

ต่อมาที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยว่า ภาพรวมการระบาดในประเทศไทยยังคงเป็นสายพันธุ์เดลตา จากการเก็บข้อมูลวันที่ 1 พ.ย.-10 ธ.ค.64 จำนวน 4,797 คน พบสายพันธุ์เดลตามากที่สุด 4,777 คน อัลฟา 8 คน เบตา 1 คน และโอมิครอน 11 คน ในจำนวนนี้ ยืนยันว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน 8 คน ส่วนอีก 3 คน รอผลการตรวจรหัสพันธุกรรมทั้งตัวอีก 2-3 วัน แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน โดยเป็นกลุ่มคนที่เข้าประเทศในระบบเทสต์แอนด์โก 5 คน ระบบแซนด์บ็อกซ์ 3 คน และระบบกักตัว 3 คน ส่วนสถานที่พบคือ กทม. 9 คน ชลบุรี 1 คน นนทบุรี 1 คน และยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการพบสายพันธุ์ลูกผสมหรือไฮบริด ระหว่างสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน

เจอเชื้อ 9 คนใน กทม.

สำหรับรายละเอียดของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 11 คนนั้น นพ.ศุภกิจกล่าวว่า คนที่ 1-3 ได้รับการยืนยันไปแล้วก่อนหน้านี้ คือคนที่ 1 ชาย 35 ปี ชาวอเมริกัน เดินทางจากสเปน เข้าระบบเทสต์แอนด์โกที่ กทม. คนที่ 2-3 เป็นหญิงไทย อายุ 46 และ 36 ปี เดินทางจากไนจีเรีย เข้าระบบการกักตัวที่ กทม. คนที่ 4 ชายไทย อายุ 41 ปี จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ ที่ กทม.และรอการยืนยันผล คนที่ 5 ชายไทย อายุ 39 ปี เดินทางจากไนจีเรีย เข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ ที่ กทม. คนที่ 6 ชายชาวโคลอมเบีย อายุ 62 ปี มีโรคประจำตัว เดินทางจากไนจีเรีย เข้าระบบแซนด์บ็อกซ์ที่ กทม. และรอการยืนยันผล คนที่ 7 ชายชาวอังกฤษ อายุ 51 ปี เดินทางจากประเทศอังกฤษ เข้าระบบเทสต์แอนด์โกที่ จ.ชลบุรี คนที่ 8 ชายไทย อายุ 37 ปี เดินทางจากสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เข้าระบบกักตัวที่ จ.นนทบุรี คนที่ 9 ชายชาวอเมริกัน อายุ 40 ปี เดินทางจากสหรัฐอเมริกา-สาธารณรัฐเกาหลี เข้าระบบเทสต์แอนด์โกที่ กทม. คนที่ 10 ชายชาวเบลารุส อายุ 51 ปี เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าระบบเทสต์แอนด์โกที่ กทม. และคนที่ 11 ชายชาวอังกฤษ อายุ 31 ปี เดินทางจากประเทศอังกฤษ เข้าระบบเทสต์แอนด์โกที่ กทม. และรอการยืนยันผล

ยันโควิดไทยอยู่ช่วงขาลง

ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์สายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลกจนถึงวันที่ 12 ธ.ค.64 พบแล้ว 69 ประเทศ เป็นประเทศในทวีปแอฟริกา 12 ประเทศ ประเทศอื่นๆ 57 ประเทศ สำหรับไทยพบเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยอาการหนัก ผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มลดลงกว่าที่คาดการณ์ และพบการระบาดเป็นกลุ่มขนาดเล็กในชุมชน สถานประกอบการ ตลาด แคมป์คนงาน และโรงเรียนทั้งพบสัดส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศในรูปแบบเทสต์แอนด์โกมากขึ้น และเริ่มตรวจพบการติดเชื้อหลัง Day 0 ทำให้ต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจำนวนมาก ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นให้ผู้เดินทางสแกนแอปหมอชนะทุกราย และจัดทำระบบติดตามผู้เดินทางแบบเทสต์แอนด์โกเมื่อพบการติดเชื้อให้รีบแจ้งทีมสอบสวนโรคเพื่อค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้เร็วที่สุด

เล็งพิจารณาเป็นโรคประจำถิ่น

ส่วนสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในกรุงเทพฯ ถือเป็นขาลงและจะเปลี่ยนจากคำว่าโรคระบาดเป็นโรคประจำถิ่นได้แล้วหรือไม่นั้น นพ.วิชาญกล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงานกับข้อมูลที่ได้จากการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK นั้น มีความสอดคล้องกัน คือเป็นสัญญาณที่ดี จำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในช่วงขาลง เมื่อเทียบกับเส้นพยากรณ์พบว่าต่ำว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้แล้วหรือไม่นั้น ผู้เชี่ยวชาญกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเกณฑ์ที่จะถือว่าเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น โดยจะต้องดูจากอัตราการติดเชื้อรายใหม่ อัตราการครองเตียง นอกจากนี้ยังต้องดูสถานการณ์การระบาดในระดับโลกด้วย

ติดเชื้อในคุกไม่นานคุมได้

ส่วนกรณีการพบผู้ต้องขังเรือนจำพิษณุโลก ผลตรวจ ATK ติดเชื้อกว่า 1.5 พันคนนั้น นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ข้อมูล ณ วันที่ 12 ธันวาคม พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 1,501 คน ทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย และได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ พร้อมวางแผนในการตรวจคัดกรอง คัดแยก และการดูแลรักษาอื่นๆ ตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ คาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ในเร็ววัน ทั้งนี้ การระบาดเพิ่มในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ส่งผลให้มีเรือนจำสีขาวลดลงอยู่ที่ 128 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 14 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวเป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 6 แห่ง แบ่งเป็นระบาดใหม่ 4 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เรือนจำอำเภอนาทวี และเรือนจำอำเภอฝาง และที่ระบาดซ้ำในแดนบางส่วน 2 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี และเรือนจำกลางเชียงใหม่

“แบมแบม” ร่วมเคาต์ดาวน์พัทยา

วันเดียวกัน ที่สเตจ 1 โมโน เน็กซ์ออฟฟิศ จ.นนทบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด จัดแถลงข่าวการจัดงาน “PATTAYA COUNTDOWN 2022” โดยนายสนธยากล่าวยืนยันการจัดงานเคาต์ดาวน์ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยผู้ชมต้องเตรียมหลักฐานต่างๆมาแสดง ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จากแอปหมอพร้อม ผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชม. และต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา สนุกบนความปลอดภัย ภายใต้รูปแบบนิวนอร์มอล ระหว่างวันที่ 29-31 ธ.ค.2564 ณ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา (แหลมบาลีฮาย) ทั้งนี้ยังได้รับการตอบรับจากศิลปินคนไทยชื่อดังระดับโลก แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือแบมแบม GOT7 จะมาร่วมงานเคาต์ดาวน์เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ร่วมกับคนไทย พร้อมโชว์สุดเซอร์ไพรส์ให้ทุกคน กับงาน โมโนทเวนตี้ไนน์ พัทยาเคาต์ดาวน์ คอนเสิร์ต 2022 ในวันศุกร์ที่ 31 ธ.ค.2564 พร้อมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2022 ไปด้วยกัน

โคราชคลัสเตอร์กระจายหลายวง

ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ของ จ.นคร ราชสีมา ภาพรวมดีขึ้นต่อเนื่อง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 51 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ยังมี 5 คลัสเตอร์ใน 4 อำเภอ เป็น 2 คลัสเตอร์เดิม และ 3 คลัสเตอร์ใหม่ยังต้องเฝ้าระวัง โดย 3 คลัสเตอร์ใหม่ประกอบด้วยคลัสเตอร์บ้านใหม่สะเดาเอน ต.โตนด อ.โนนสูง ผู้ติดเชื้อรวม 24 คน การติดเชื้อแพร่ค่อนข้างรวดเร็วไป 3 วง ยังหาสาเหตุไม่ได้ ทั้งหมดมีบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน 4 หลัง มีการไปมาหาสู่เป็นประจำ ทานอาหารร่วมกัน โดยวงที่ 3 มี 8 คนที่อาศัยอยู่ร่วมกัน มีเด็กอายุ 5 ปี 6 ปี กับ 7 ปีด้วย ส่วนคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง หมู่ 4 บ้านบันไดม้า ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง เป็นคนงานก่อสร้างที่ รพ.ปากช่องนานา ผู้ติดเชื้อรวม 21 คน เป็นผู้ติดเชื้อวงที่ 1 จำนวน 19 คน วงที่ 2 จำนวน 2 คน และคลัสเตอร์โรงงานคัดแยกขยะ ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา พบผู้ติดเชื้อสะสม 17 คน โดยการติดเชื้อกระจายไปยังเพื่อนร่วมหอพัก เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเล่น และครอบครัว รวมติดเชื้อ 4 วง

ผู้ดีอึ้งติดโอมิครอนพุ่งเท่าตัว

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก วันเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยข้อมูลอันน่าตกใจว่า เชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่ตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ได้ระบาดลุกลามในอังกฤษด้วยอัตราที่รวดเร็วเกินคาด จากการตรวจสอบผู้ติดเชื้อเฉพาะในกรุงลอนดอนล่าสุด พบว่ามีสัดส่วนติดเชื้อโอมิครอนแล้วกว่าร้อยละ 40 และมีความเป็นไปได้ที่หากไม่รีบออกมาตรการรับมือ จะทำให้ทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนหลักล้านคน ขณะที่นายซาจิด จาวิด รมว.สาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นเชื้อที่แพร่กระจายได้เร็วเช่นนี้มาก่อน ทั้งที่เพิ่งตรวจพบครั้งแรกในอังกฤษ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้อัตราการระบาดถือว่าเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทุกๆ 2 ถึง 3 วัน ส่วนที่อินโดนีเซีย กระทรวงสาธารณสุข เริ่มการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ยี่ห้อซิโนแวคของจีนให้กับเด็กอายุ 6-11 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.เป็นต้นไป นับเป็นประเทศที่ 2 ในภูมิภาคอาเซียนที่ฉีดวัคซีนให้เด็กต่อจากกัมพูชาที่เริ่มฉีดให้เด็ก 6-12 ปีไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย. ขณะที่สิงคโปร์ประกาศจะฉีดให้เด็ก 5-11 ปีก่อนสิ้นปี