“พหุวัฒนธรรม” คือ การอยู่รวมกลุ่มของคนที่มีความหลากหลายทางด้านต่างๆ เช่น ภาษา ศาสนา การแต่งกาย หรือสิ่งที่มีความหลากหลายมาผสมกลมกลืนกัน แต่อาจจะไม่กลมกลืนกันสักทีเดียวงานวิจัย “การศึกษารูปแบบการเมือง การปกครองและอัตลักษณ์ ที่สอดคล้องกับพหุวัฒนธรรม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้” (ตุลาคม 2562) เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม และพัฒนามนุษย์ สะท้อนว่าผลวิจัยเชิงปริมาณจะเห็นว่า “ประชาชน” ยังเชื่อมั่นในระบอบ “ประชาธิปไตย” ที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งเป็นตัวแทนของตนเอง โดยมีความเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ แก้ไขปัญหาได้ตรงตามความต้องการ รวมทั้งเป็นช่องทางในการสะท้อนปัญหา แต่...เมื่อพิจารณารูปแบบการเมืองการปกครองที่สอดคล้องกับบริบท “พหุวัฒนธรรม” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชัดเจนว่ารูปแบบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด คือ...“รูปแบบการกระจายอำนาจ” ในรูปแบบที่เป็นอยู่ แต่ต้องมีการกระจายอำนาจมากขึ้นรองลงมา คือ “การปกครองตนเอง” กล่าวได้ว่าเป็นลักษณะการกระจายอำนาจอย่างหนึ่ง แต่ประชาชนสามารถออกแบบรูปแบบการปกครองได้ด้วยตนเองมากกว่าแบบแรกในขณะที่การแยกเป็น “เอกเทศ” และ “อิสระ” โดยเด็ดขาดเป็นรูปแบบที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยในเนื้อหาสาระที่ใช้ในการสอบถาม สอดคล้องกับผลการวิจัยเชิงคุณภาพที่พบว่าในทุกพื้นที่เห็นสอดคล้องกันเป็นส่วนใหญ่ว่าการกระจายอำนาจเป็นรูปแบบที่เหมาะสมส่วนหนึ่งมองว่ารูปแบบการปกครองในปัจจุบันมีความเหมาะสมอยู่แล้ว เพราะเป็นการกระจายอำนาจอยู่แล้ว เพียงแต่ควรเพิ่มการกระจายอำนาจมากขึ้น...ประชาชนมองว่าวิธีการแยกเป็นเอกเทศและอิสระโดยเด็ดขาดเป็นวิธีการที่เป็นไปได้ยาก ไม่เหมาะสม ซึ่ง...ส่วนหนึ่งก็เห็นว่าการปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยในปัจจุบันดีแล้ว สิ่งที่ควรทำเพิ่มเติมคือการสร้างความเป็นธรรมยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาความรุนแรงจังหวัดชายแดนใต้ที่ผ่านมา “รัฐ” ได้ใช้ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาและแก้ปัญหาที่หลากหลายและดูเหมือนว่ายุทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา” และ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นยุทธศาสตร์หลักที่ถูกนำมาใช้ในปัจจุบันและมาถูกทางอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า “การเข้าใจ” และ “เข้าถึง” เพื่อนำไปสู่การพัฒนานั้นยังเป็นปัญหาอยู่ในหลายแง่มุม ทั้งในเชิงลึกและภาพกว้าง โดยเฉพาะแง่มุม “การเมืองการปกครอง”“รัฐชาติไทย” ควรจะต้องยอมรับความจริงที่ว่า ไม่มีชาติใดที่มีความเป็นเนื้อเดียวกันของผู้คนไม่ว่าจะเป็นทางประวัติศาสตร์...สังคม ...วัฒนธรรมในฐานะรัฐชาติที่มีบทบาทหน้าที่จัดการเรื่องราวสาธารณะของสังคม ไม่เพียงแต่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า...อัตลักษณ์เชิงซ้อนของกลุ่มวัฒนธรรมย่อยต่างๆ เคารพอัตลักษณ์ของผู้คนที่หลากหลาย แต่ยังจำเป็นต้องกระจายอำนาจการปกครองรวมถึงการเปิดพื้นที่ทางการเมืองใน “ระบอบประชาธิปไตย” อย่างมีส่วนร่วม ปัญหาใจกลางของการเมืองการปกครองในจังหวัดชายแดนใต้คือ ...ปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มและเครือข่ายทางสังคมผ่านกลไกการเมืองของชุมชนและสังคมเพื่อสร้างอำนาจการควบคุมทางสังคมสิ่งที่พึงปรารถนาก็คือ “โครงสร้างอำนาจ” และ “การใช้อำนาจ” ในระดับท้องถิ่นที่มีความชอบธรรม ซึ่งตั้งอยู่บนฐานคติที่ว่าในสังคมทุกแห่ง จะต้องมีอำนาจการควบคุมทางสังคมที่ได้รับการยอมรับเชื่อถือ...อำนาจถูกนำมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการ แย่งชิงทรัพยากรของกลุ่มคนต่างๆในกิจกรรมทางการเมือง ในการพัฒนาและในเรื่องอื่นๆที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตทางการเมืองของชุมชน โดยแบบแผน ลักษณะของการใช้อำนาจดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบอำนาจรัฐ โครงสร้างอำนาจของชนชั้นนำในท้องถิ่นและ...กระบวนการมีส่วนร่วมประชาธิปไตยสิ่งเหล่านี้แสดงตัวออกมาในแง่ของการครอบครอง...แย่งชิงทรัพยากรทางการเมืองในรูปแบบต่างๆในกระบวนการเลือกสรรผู้นำทางการเมือง การแข่งขันกันในทางการเมือง การแก้ปัญหาความขัดแย้ง เผชิญหน้ากันในชุมชน สิ่งสำคัญในกระบวนการนี้คือ...อำนาจในการควบคุมของสังคมและของชุมชน“จะต้องมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการสร้างอำนาจความชอบธรรมของรัฐในการรักษาความสงบ การสร้างความมั่นคงมนุษย์ การพัฒนาทางการเมือง...การสร้างสรรค์พัฒนาทางเศรษฐกิจอันจะนำมาซึ่งความยุติธรรม การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความสุขของคนในพื้นที่” บทสรุปสำคัญ...เกี่ยวกับข้อเสนอเชิงนโยบายที่ได้จากการศึกษารูปแบบการเมืองการปกครองที่สอดคล้องกับบริบท “พหุวัฒนธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้” คณะผู้วิจัยเห็นว่า ยุทธศาสตร์ที่นำมาใช้เพื่อการแก้ปัญหาในปัจจุบัน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” อยู่บนฐานของหลักการนี้...เป็นยุทธศาสตร์ในลักษณะ “การเมืองนำการทหาร บนฐานการมีส่วนร่วมและการกำหนดใจตนเอง” โดยมีข้อเสนอเชิงนโยบาย 5 ส. ได้แก่หนึ่ง...สร้างความถูกต้อง“สร้างความถูกต้อง” ในความหมายนี้หมายถึง การสร้างความถูกต้องเชิงประวัติศาสตร์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย เนื่องจากมีการใช้และบิดเบือนประวัติศาสตร์เพื่อสร้างความชอบธรรม และผลประโยชน์ไปในทางไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการนำประวัติศาสตร์มาสร้างความแตกแยกสร้างความเกลียดชังระหว่างกลุ่มคนที่มีความแตกต่างในศาสนา การชำระประวัติศาสตร์ให้มีความถูกต้องและทุกคนยอมรับในทุกฝ่าย จะเป็นการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นเสนอแนวทางให้มีการจัดทำ เผยแพร่สื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับหลักการศาสนา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นปาตานี ชาติพันธุ์ที่ถูกต้องครบถ้วนในทุกระดับการศึกษาสอง...เสริมสร้างความยุติธรรมให้เป็นหัวใจหลักของการอำนวยความเป็นธรรม“สภาวะปัจจุบันเป็นที่ชัดเจนว่าเกิดการรับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมและความไม่ยุติธรรมในหมู่ประชาชน นอกจากนี้ ต้องสร้างความเป็นเอกภาพในการกำหนดนโยบายการบริหารงานยุติธรรม และเป็นนโยบาย ลดเงื่อนไขที่สร้างความไม่ยุติธรรม โดยในระยะเริ่มต้นอาจทำได้โดยการสังคายนากฎหมายต่างๆ” สาม...ส่งเสริมการเรียนรู้ความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกัน สี่...เสริมสร้างพลังอำนาจ เริ่มตั้งให้กับประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ เพื่อจะได้เกิดจิตสำนึกร่วมกันในการสร้างความมั่นคง ทางสังคม และ ห้า...สถาปัตยกรรมทางการปกครองอดีตสะท้อนปัจจุบัน...และอย่าให้ “ปัจจุบัน” สร้างปัญหาสะสมเรื้อรังยาวไปถึง “อนาคต”.